ในโลกที่ AI กำลังกลายเป็นสมองสำคัญของธุรกิจทุกขนาด เราเห็นระบบอัจฉริยะที่ช่วยแนะนำสินค้า ทำนายพฤติกรรมลูกค้า หรือแม้แต่สื่อสารแทนมนุษย์ผ่าน Chatbot และ Agent AI แต่ในขณะที่ AI พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ความกังวลของผู้คนก็เพิ่มขึ้นพร้อมกัน AI จะตัดสินใจอย่างยุติธรรมหรือไม่? ข้อมูลของเราปลอดภัยหรือเปล่า? และใครต้องรับผิดชอบถ้า AI ทำผิดพลาด? ConnectX เชื่อว่า “อนาคตของ AI” ไม่ได้อยู่ที่ความฉลาดเท่านั้น แต่อยู่ที่ “ความไว้วางใจ” (Trust) ที่เราสร้างขึ้นระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี และคำตอบของสิ่งนี้คือแนวคิด AI Governance หรือ “การกำกับดูแล AI อย่างมีความรับผิดชอบ”
AI Governance คืออะไร ทำไมโลกถึงพูดถึงกันมากขึ้น
AI Governances หมายถึงกรอบการกำกับดูแล (Governance Framework) และแนวทางปฏิบัติที่ออกแบบมาเพื่อให้การใช้ AI เป็นไปอย่างปลอดภัย โปร่งใส ยุติธรรม และสอดคล้องกับหลักจริยธรรมและกฎหมายในแต่ละประเทศ พูดให้เข้าใจง่าย มันคือ “ระบบกติกา” ของโลก AI ที่ทำให้มนุษย์สามารถเชื่อถือในสิ่งที่ AI ตัดสินใจได้
ในอดีต บริษัทส่วนใหญ่โฟกัสที่ “ประสิทธิภาพของ AI” เช่น ความแม่นยำของโมเดล หรือความเร็วในการประมวลผล แต่ปัจจุบันโลกเริ่มมองไปอีกระดับ คือ “ผลกระทบ” ที่ AI มีต่อผู้คน สังคม และข้อมูลส่วนบุคคล
เราจึงเห็นคำถามใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น
- AI มีอคติหรือไม่ (Algorithmic Bias)
- ข้อมูลที่ AI ใช้ฝึกถูกต้องและได้รับอนุญาตหรือเปล่า
- ระบบ AI โปร่งใสพอที่จะตรวจสอบได้ไหม
- และถ้า AI ทำผิด ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ?
ทั้งหมดนี้คือหัวใจของ AI Governance ที่กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบ
จาก “AI ที่เก่ง” สู่ “AI ที่เชื่อถือได้”
โลกเคยหลงใหลกับความอัจฉริยะของ AI การสร้างภาพจากข้อความ การสรุปข้อมูลมหาศาลภายในไม่กี่วินาที หรือการคาดการณ์แนวโน้มผู้บริโภคอย่างแม่นยำ แต่ความเก่งของ AI เพียงอย่างเดียว ไม่ได้หมายความว่ามัน “ถูกต้อง” หรือ “ปลอดภัย”
ตัวอย่างเช่น ระบบ AI ที่ใช้ในการคัดเลือกพนักงานในหลายประเทศ เคยถูกตรวจพบว่ามีอคติทางเพศ (Gender Bias) เพราะถูกฝึกจากข้อมูลในอดีตที่มีความเหลื่อมล้ำอยู่แล้ว หรือระบบแนะนำสินค้าที่เก็บข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ขอความยินยอม ซึ่งอาจละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว
เพราะเหตุนี้ องค์กรระดับโลก เช่น Google, Microsoft, และ Salesforce จึงเริ่มสร้าง “AI Governance Framework” ภายในองค์กร เพื่อกำหนดมาตรฐานจริยธรรมและความโปร่งใสในการใช้งาน AI ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพัฒนา การฝึกโมเดล ไปจนถึงการนำไปใช้จริงกับลูกค้า
แนวคิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่อง “เทคนิค” อีกต่อไป แต่เป็น “วัฒนธรรมองค์กร” ที่ทุกฝ่ายต้องเข้าใจ ตั้งแต่ทีมเทคโนโลยีไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง
แนวโน้มของ AI Governance ทั่วโลก: เมื่อกฎหมายเริ่มวิ่งตามนวัตกรรม
ปี 2025 ถูกมองว่าเป็นปีแห่งการ “ปรับสมดุล” ระหว่างนวัตกรรม AI และการกำกับดูแลอย่างจริงจัง ยุโรปกำลังเดินหน้าใช้ EU AI Act ซึ่งจะจัดระดับความเสี่ยงของระบบ AI ตั้งแต่ “ความเสี่ยงต่ำ” ไปจนถึง “ความเสี่ยงสูง” เช่น ระบบที่ใช้ในด้านสุขภาพ การเงิน หรือกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนใช้งานจริง
ในสหรัฐฯ บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเริ่มถูกกำหนดให้ต้องเปิดเผยโครงสร้างการทำงานของโมเดล (AI Transparency) เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าข้อมูลที่ใช้ฝึกมีความเป็นธรรมและปลอดภัย
ส่วนในเอเชีย ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไทย เริ่มวาง “แนวทางการกำกับดูแล AI” ของตนเองอย่างจริงจัง โดยไทยมีการตั้ง AI Governances Clinic (AIGC) ภายใต้สำนักงาน ETDA เพื่อให้คำแนะนำกับภาครัฐและเอกชนในการออกแบบกรอบการกำกับดูแล AI ที่เหมาะกับบริบทของไทย
รวมถึงการร่างกฎหมายใหม่ๆ ที่เตรียมรองรับธุรกิจ AI ในอนาคต
กล่าวได้ว่า โลกกำลังขยับจากคำว่า “AI for Growth” ไปสู่ “AI for Good” และการมี AI Governances ที่เข้มแข็งคือรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ความท้าทายขององค์กรไทยในการสร้าง AI Governance
แม้แนวคิดนี้จะเริ่มเข้ามาในประเทศไทย แต่การนำไปปฏิบัติจริงยังมีอุปสรรคหลายด้าน เช่น
- ความเร็วของเทคโนโลยีที่แซงนโยบาย
AI พัฒนาไวเกินกว่ากฎหมายจะตามทัน หลายองค์กรยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นกำกับดูแลอย่างไร - ขาดความเข้าใจข้ามทีม
ฝ่ายเทคนิคเข้าใจโมเดล แต่ไม่เข้าใจความเสี่ยงทางกฎหมาย
ขณะที่ฝ่ายบริหารเข้าใจธุรกิจ แต่ไม่เข้าใจธรรมชาติของ AI - ไม่มีเครื่องมือวัดความโปร่งใสหรืออคติในโมเดล
องค์กรจำนวนมากยังไม่มีระบบตรวจสอบหรือ audit ที่เป็นกลาง - วัฒนธรรมองค์กรยังไม่ให้ความสำคัญ
AI Governances จะเกิดขึ้นได้ ต้องเริ่มจาก mindset ของผู้บริหารที่เห็นว่าความเชื่อถือคือทุนระยะยาวของแบรนด์
4 เสาหลักของการสร้าง AI Governance ที่ยั่งยืน
- Transparency (ความโปร่งใส)
ต้องสามารถอธิบายได้ว่า AI ทำงานอย่างไร ใช้ข้อมูลอะไร และมีข้อจำกัดแบบไหน
- Accountability (ความรับผิดชอบ)
กำหนดให้ชัดว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจของ AI
- Fairness (ความเป็นธรรม)
ลดอคติจากข้อมูล ฝึก AI จากชุดข้อมูลที่หลากหลายและเป็นกลาง
- Privacy & Security (ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย)
ปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ และปฏิบัติตามหลัก PDPA หรือ GDPR อย่างเคร่งครัด
AI Governances จึงไม่ใช่ “ภาระ” ขององค์กร แต่เป็น “หลักประกัน” ว่าเทคโนโลยีที่ใช้สร้างคุณค่าทางธุรกิจ จะไม่กลายเป็นความเสี่ยงที่บั่นทอนความไว้วางใจของลูกค้า
AI Governance กับอนาคตของธุรกิจ: จาก Compliance สู่ Competitive Advantage
องค์กรจำนวนมากเริ่มมองว่า AI Governances ไม่ใช่แค่เรื่อง “การทำให้ถูกกฎหมาย” (Compliance) แต่คือ “กลยุทธ์การแข่งขัน” (Competitive Advantage) ที่สร้างความแตกต่างในระยะยาว
เมื่อธุรกิจแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าใช้ AI อย่างโปร่งใส ปลอดภัย และมีความรับผิดชอบ ความเชื่อมั่นจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งในยุคที่ลูกค้าตัดสินใจจาก “ความไว้ใจ” มากกว่า “ราคา” นี่คือข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่ทรงพลังที่สุด
AI Governances ที่ดีไม่ใช่เพียงการป้องกันความเสี่ยง แต่คือการสร้างพื้นฐานให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะมันช่วยให้การพัฒนา AI เกิดขึ้นอย่างมีจริยธรรม ปลอดภัยต่อข้อมูล และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน องค์กรจึงมั่นใจได้ว่าทุกโมเดลที่ใช้งานมีคุณภาพ โปร่งใส และไม่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อผู้ใช้
ในอนาคต องค์กรที่สามารถบริหารจัดการ AI ด้วยหลักธรรมาภิบาลอย่างเข้มแข็ง จะไม่เพียง “ปลอดภัยกว่า” แต่ยัง “น่าเชื่อถือกว่า” และ “แข่งขันได้มากกว่า” เพราะความเชื่อมั่นจากลูกค้าคือพลังขับเคลื่อนใหม่ของธุรกิจในยุค AI Economy
ขับเคลื่อน AI อย่างมี Governance ของ ConnectX
ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Martech และ Customer Data Platform (CDP) ชั้นนำของไทย ConnectX มุ่งพัฒนา AI ที่ไม่เพียง “เข้าใจลูกค้า” แต่ยัง “เคารพลูกค้า” ตั้งแต่ระบบ Recommendation AI, Chatbot Agent AI ไปจนถึง Predictive AI ทั้งหมดถูกออกแบบให้ยึดตามหลักความปลอดภัยของข้อมูลและความโปร่งใสในการประมวลผล
ConnectX ยังผลักดันแนวคิด Responsible AI ให้เป็นวัฒนธรรมในองค์กร ทั้งการจัดการข้อมูลอย่างมีจริยธรรม (Data Ethics), การป้องกันอคติของโมเดล (Bias Prevention), และการร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างมาตรฐานการใช้ AI ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ในระดับประเทศ
เพราะ ConnectX เชื่อว่า “AI ที่ยิ่งใหญ่ ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กว่า” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ยุคที่ธุรกิจไม่ได้แข่งกันแค่ “ใครใช้ AI ก่อน” แต่คือ “ใครใช้ AI อย่างมีคุณค่ามากกว่า”
AI Governances คือหัวใจของ “AI Next Step”
ยุคต่อไปของเทคโนโลยีจะเติบโตได้จริง ก็ต่อเมื่อมันเติบโตอย่าง มีความรับผิดชอบ และ ได้รับความเชื่อถือจากผู้คน
เพราะในโลกที่ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในทุกการตัดสินใจ สิ่งที่ธุรกิจต้องรักษาไว้ให้ได้ ไม่ใช่แค่ “ความเร็ว” หรือ “ประสิทธิภาพ” แต่คือ “ความไว้วางใจ”
ConnectX จึงเลือกอยู่ ตรงกลางของการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ไม่ใช่ในฐานะผู้สร้างเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ในฐานะ ตัวเชื่อมระหว่างข้อมูล ธุรกิจ และผู้คน
เราช่วยให้องค์กรใช้ AI อย่างโปร่งใส ปลอดภัย และมีจริยธรรม เพื่อให้ทุกการใช้เทคโนโลยีเกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ละเลยความเชื่อมั่นของลูกค้า
เพราะเมื่อ AI ถูกใช้อย่างมีธรรมาภิบาล มันจะไม่เพียง “สร้างผลลัพธ์” ให้ธุรกิจ แต่ยัง “สร้างความไว้วางใจ” ให้กับสังคมได้พร้อมกัน และนี่คือจุดยืนของ ConnectX ขับเคลื่อนอนาคตของ AI ที่ทุกฝ่ายเชื่อมั่นได้จริง
ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !
*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (MarTech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ




Our Latest Blog Posts
Marketing Automation
Marketing Automation Tools ตอบ 3 คำถามยอดฮิต ที่เจ้าของธุรกิจสงสัย!
Marke [...]
ก.ย.
Customer Data Platform
5 วิธีเลือกระบบ Customer Relationship Management ให้ปังที่สุด
เจ้าข [...]
ก.ย.
Highlight other
PDPA ในมุมมองของ SME ต้องเตรียมพร้อมด้านไหนบ้าง?
เมื่อ [...]
ก.ย.
other
จริงหรือไม่? 3 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับ PDPA เปลี่ยนความคิดด่วน
ก.ย.
Marketing Automation
ระวัง 3 สิ่งนี้! ก่อน Marketing Automations จะทำร้ายลูกค้า
Marke [...]
ก.ย.
Marketing Automation
Email Marketing ทำให้ประสบความสำเร็จ ต้องระวัง 5 สิ่งนี้
Email [...]
ก.ย.
other
ทำความรู้จัก Loyalty Program การสานสัมพันธ์ลูกค้าที่แบรนด์ยุคนี้ต้องมี
Loyal [...]
มี.ค.
other
Marketing Automation Software คืออะไร? ใช้ยังไงให้ธุรกิจโตไว ตอบโจทย์ลูกค้าแบบรู้ใจ
ในยุค [...]
มี.ค.