อยากทำ Email Marketing ให้ประสบความสำเร็จ ต้องระวัง 5 สิ่งนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน เป็นการเปลี่ยนผ่านจากโลกการค้าขายแบบ Analog ไปสู่ยุค Digital Transformation โดยสมบูรณ์ ทำให้รูปแบบของการทำการตลาดของนักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ ได้เปลี่ยนโฉมตามไปด้วยเช่นกัน และหนึ่งในแนวโน้มสำคัญที่เกิดขึ้นคือการที่กลุ่มธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมต่างใช้เทคโนโลยีอย่าง Marketing Automation และระบบ CRM กันมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การจัดเก็บข้อมูลและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมไปถึงความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงจากการทำการตลาดแบบเดิมๆ แต่ต้องสามารถนำเสนอความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น

หนึ่งในวิธีการที่มีความน่าสนใจแต่นักการตลาดรุ่นใหม่หลายคนมักมองข้ามคือการทำ Email Marketing หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “การตลาดผ่านอีเมล” เพราะอย่าลืมว่าอีเมลเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีอยู่ในแทบทุกองค์กรด้วยความที่เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการสื่อสารทางธุรกิจ ต้องบอกว่าการตลาดผ่านอีเมลนี้ไม่เพียงแค่ช่วยในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มจำนวน Traffic บนเว็บไซต์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ แถมยังเป็น Organic Traffic แบบที่ไม่ต้องเสียเงินโปรโมตแคมเปญใดๆ แม้แต่สตางค์เดียว

อย่างไรก็ตาม หากแบรนด์หรือนักการตลาดไม่ระวังข้อผิดพลาดเกี่ยวกับ Email Marketing ผลลัพธ์ที่ควรจะดีอาจจะกลายเป็นเรื่องร้ายๆ ที่สายเกินแก้ไข ดังนั้นในวันนี้ Connect X จะพาทุกคนมารู้จัก 5 ข้อควรระวังเกี่ยวกับ Email Marketing กัน เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์การตลาดของแบรนด์จะประสบความสำเร็จตลอดปี 2022 ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

1. เนื้อหาไม่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

นักการตลาดหลายคนที่เริ่มต้นทำ Email Marketing มักจะพุ่งเป้าไปที่การสื่อสาร แต่กลับละเลยเรื่องเล็กๆ ที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดคือ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายผู้ที่เป็นคนรับสาร เพราะต่อให้หัวข้อของอีเมลดูน่าสนใจและสร้างแรงดึงดูดได้มากแค่ไหน แต่ถ้าสาระสำคัญของเนื้อหาไม่สามารถให้คุณค่าหรือประโยชน์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้จริง ก็ไม่ต่างอะไรกับอีเมลสแปมที่ใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาที ก็กลายเป็นอีเมลที่อยู่ในถังขยะของลูกค้าไปแล้ว

โดยประเภทของการส่งอีเมลสามารถแบ่งได้ 3 รูปแบบ คือ

  • Information Email – เป็นการให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่ช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยอาจจะเกิดจากการกดรับสมัครติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ จากทางเว็บไซต์
  • Transactional Email – ส่วนมากจะเป็นอีเมลอัตโนมัติที่แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินซื้อสินค้าหรือบริการ
  • Navigation Email – เป็นอีเมลที่มีหน้าที่ในการนำทางกลุ่มเป้าหมายไปยังเว็บไซต์ เช่น อาจมีการเปิดเว็บไซต์ใหม่ อัปเดตฟีเจอร์สำคัญๆ หรือมีการให้บริการอะไรใหม่ๆ

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำ Email Marketing นั่นเอง

2. ต้องทดสอบด้วยวิธี A/B Testing ก่อนเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์วิธีใดก็ตาม การทำ A/B Testing ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ควรทำควบคู่กันไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นการทดสอบเพื่อจับจุดว่าเนื้อหา ข้อความ รูปภาพ และ CTA แบบไหนที่กลุ่มเป้าหมายสนใจมากกว่ากัน ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็จะสามารถปรับปรุงแก้ไขการทำ Email Marketing ต่อไปในอนาคตให้มีความน่าสนใจมากขึ้นได้

3. กลยุทธ์ต้องพร้อมก่อนส่งอีเมล

ใครที่คิดว่าการส่งอีเมลไม่เห็นจำเป็นต้องมีการวางแผนหรือคำนึงถึงกลยุทธ์การส่งอีเมล บอกได้เลยว่าความคิดดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่ย้อนกลับมาทำร้ายธุรกิจของคุณได้ในทันที ยกตัวอย่างเช่น หากแบรนด์ส่งอีเมลไปยังผู้ที่ไม่ต้องการที่จะได้รับอีเมลของเรา พูดง่ายๆ ก็คือ อยู่ดีๆ ก็มีอีเมลที่ไหนไม่รู้ส่งเข้ามาขายของ เชื่อได้เลยว่าร้อยทั้งร้อยก็กดลบอีเมลนั้นทิ้งเผลอๆ อาจกดปุ่ม Report เป็นของแถมด้วย ทำให้แบรนด์ต้องเสียเครดิตไป ดังนั้นหากแบรนด์มีเว็บไซต์ อาจตั้งค่าให้มีการกดรับสมัครหรือยินยอมในการรับอีเมลก่อนเสมอ เพื่อเป็นการล็อกกลุ่มเป้าหมาย แถมยังสามารถเก็บข้อมูลในส่วนนี้ นำมาแบ่งรายชื่อออกมาจัดกลุ่ม ใช้ระบบ Marketing Automation ช่วยในการติดตามผล ส่งอีเมลต่อในอนาคต

4. ให้ความสำคัญกับ Mobile First

อย่างที่รู้กันดีว่าเทรนด์ Mobile First กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการแสดงผลในทุกกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่การทำ Email Marketing ที่ต้องคำนึงถึงการแสดงผลอีเมลบนมือถือให้มีประสิทธิภาพที่ดีไม่ต่างกับบนเดสก์ท็อปและแท็บเล็ต แม้อาจจะดูเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่หากอีเมลมีการแสดงผลที่ไม่ดี หรือกลุ่มเป้าหมายไม่สามารถเข้าถึงหรือมองเห็นได้อย่างชัดเจน ก็อาจกลายเป็นการทิ้งโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของแบรนด์ต่อๆ ไปในอนาคต

5. ไม่ใส่ Alt ในภาพ

ในกรณีที่อีเมลของแบรนด์ที่มีเนื้อหาหลักเป็นภาพ อาจเกิดปัญหากับกลุ่มเป้าหมายบางคนที่มีการตั้งค่าปิดกั้นการมองเห็นรูปภาพ นั่นหมายความว่าในอีเมลนั้นจะไม่สามารถปรากฏเนื้อหาใดๆ ก็ตามบนหน้าจอ ฉะนั้นอีกหนึ่งเคล็ดลับคือการเพิ่ม Alt ให้กับรูปภาพทุกครั้งในการทำ Email Marketing

จบไปแล้วกับ 5 ข้อ ควรระวังเกี่ยวกับ Email Marketing ที่ Connect X ได้นำมาฝากกัน ถ้าไม่อยากถูกคู่แข่งทิ้งห่างก็ถึงเวลาแล้วที่แบรนด์จะลองนำเทคนิคนี้ผสานเข้าไปในแผนการตลาดออนไลน์  เพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุด รับรองได้เลยว่า 5 ข้อด้านบนนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที

5. บริการให้คำปรึกษาทั้งก่อนและหลัง

สำหรับวิธีเลือกระบบ CRM ข้อนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวแพลตฟอร์มโดยตรง อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยธุรกิจได้ โดยควรมี “ศูนย์บริการลูกค้า” ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำหรือการตอบคำถามของธุรกิจ มีการคลาสฝึกสอน (Training) ก่อนเริ่มต้นใช้งานระบบ รวมถึงเมื่อใช้งานระบบไปแล้ว แต่เกิดมีปัญหา ผู้ให้บริการก็ควรที่จะให้คำปรึกษาได้ สามารถติดต่อได้สะดวก และมีทางแก้ไขที่ชัดเจน ไม่ทิ้งกันไปกลางคัน

เมื่อได้อ่านทั้ง 5 ข้อนี้ไปแล้ว ทุกท่านคงจะตระหนักดีว่าการเลือกระบบ CRM นั้นอาจจะต้องใช้เวลาและความละเอียดรอบคอบในการพิจารณาก่อนตัดสินใจ ซึ่งถ้าใครเลือกได้แล้วว่าต้องการใช้ Customer Relationship Management ตัวไหน ก็สามารถวางแผนในการเริ่มซื้อและใช้งานได้เลย ซึ่ง Connect X ขอแนะนำให้กำหนดวันที่ติดตั้งชัดเจนและเชื่อมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้เรียบร้อยก่อนใช้งานจริง ให้ทีมงานได้ทำความคุ้นเคยกับตัวระบบและเตรียมความพร้อมข้อมูลเพื่อที่จะติดตั้งระบบใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย