Category Archives: Customer Data Platform

Connect X ระบบจัดการข้อมูลลูกค้า พร้อม 3 ข้อดีที่ธุรกิจคุณควรใช้ !

connect x

หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมจัดการข้อมูลลูกค้าที่มีประสิทธิภาพในประเทศไทย Connect X คือแพลตฟอร์มที่คุณต้องการ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและคุณสมบัติขั้นสูง ConnectX จึงเป็นแพลตฟอร์ม CDP ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจทุกขนาด ค้นพบวิธีที่ ConnectX สามารถช่วยให้คุณปรับปรุงการจัดการข้อมูลลูกค้าและยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกขั้น

Connect X คืออะไรและทำงานอย่างไร

ConnectX เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP) ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ รวบรวม รวมเป็นหนึ่ง และเปิดใช้งานข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่างๆ ทำงานโดยการผสานรวมกับแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น ระบบ CRM แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์เพื่อสร้างมุมมองลูกค้าเดียว ซึ่งช่วยให้ธุรกิจได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรม ความชอบ และการโต้ตอบของลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ด้วย ConnectX ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับแต่งแคมเปญการตลาดได้แบบ Personalization ปรับปรุงการมีส่วนร่วมของลูกค้า และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

ประโยชน์ของการใช้ Connect X สำหรับการจัดการข้อมูลลูกค้า

ConnectX มอบสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงการจัดการข้อมูลลูกค้า

ประการแรกให้มุมมองลูกค้าได้แบบ 360 องศาช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมสิ่งนี้ทำให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งแคมเปญการตลาดและปรับปรุงการมีส่วนร่วมของลูกค้า

ประการที่สอง ConnectX ทำงานร่วมกับแหล่งข้อมูลต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการรวบรวมและรวมข้อมูลลูกค้าจากช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ API หรือ POS ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรของธุรกิจเนื่องจากไม่ต้องรวบรวมและรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆด้วยตนเองอีกต่อไป

ประการสุดท้าย ConnectX นำเสนอความสามารถในการวิเคราะห์และการรายงานขั้นสูง ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและทำการตัดสินใจจากข้อมูลได้ โดยรวมแล้ว ConnectX เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงการจัดการข้อมูลลูกค้าและขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

คุณสมบัติของ ConnectX ที่ทำให้โดดเด่นจากแพลตฟอร์ม CDP อื่นๆ

ConnectX เป็นแพลตฟอร์ม CDP ที่ปฏิวัติวงการซึ่งนำเสนอคุณสมบัติต่างๆ ที่ทำให้โดดเด่นกว่าโซลูชันการจัดการข้อมูลลูกค้าอื่นๆ เพราะ ConnectX เป็น Customer Data Platform ที่ครบวงจรที่สามารถติดตามข้อมูลได้ตั้งแต่การยิงโฆษณา การนำข้อมูลว่าทำการตลาดอัตโนมัติหรือ Marketing Automation ระบบรวมแชท แดชบอร์ดเพื่อสรุปรายงานต่างๆ และฟีเจอร์อีมากมายเพื่อช่วยจัดการข้อมูลลูกค้า เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของธุรกิจ ซึ่ง ConnectX ยังได้รับการรองรับมาตรฐานจาก ISO27001 ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าธุรกิจของคุณจะได้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภภัยได้ตามมาตรฐานสากล

เรื่องราวความสำเร็จของธุรกิจที่ใช้ ConnectX ในประเทศไทย

ธุรกิจจำนวนมากในประเทศไทยประสบความสำเร็จในการใช้ ConnectX สำหรับความต้องการในการจัดการข้อมูลของลูกค้า หนึ่งในธุรกิจดังกล่าวคือบริษัท Retail นำที่มีการมีส่วนร่วมของลูกค้าเพิ่มขึ้น 30% หลังจากใช้แคมเปญการตลาดส่วนบุคคลของ ConnectX อีกธุรกิจหนึ่งซึ่งเป็นบริษัท Customer Goods โดยใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงของ ConnectX เพื่อระบุและแก้ไขจุดบกพร่องของลูกค้า โดยรวมแล้ว ConnectX ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาด ที่สำคัญสำหรับธุรกิจในประเทศไทยที่ต้องการปรับปรุงการจัดการข้อมูลลูกค้าและขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ ConnectX ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย ConnectX Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

ConnectX คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

    Yearly Budget

    How do you know us?

    Customer Relationship Management (ระบบ CRM) สำคัญอย่างไร ทำไมทุกธุรกิจต้องมี?

    ปัจจัยที่ทำให้องค์กรธุรกิจทั้งหลายประสบความสำเร็จได้ ไม่เป็นเพียงแค่การเพิ่มช่องทางการขายและการบริการที่ดีเท่านั้น แต่การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับองค์กรธุรกิจหรือ Customer Relationship Management (CRM) คือ “กุญแจ” สำคัญในยุคปัจจุบัน

    Customer Relationship Management (ระบบ CRM) สำคัญอย่างไร ทำไมทุกธุรกิจต้องมี?

    ปัจจัยที่ทำให้องค์กรธุรกิจทั้งหลายประสบความสำเร็จได้ ไม่เป็นเพียงแค่การเพิ่มช่องทางการขายและการบริการที่ดีเท่านั้น แต่การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับองค์กรธุรกิจหรือ Customer Relationship Management (CRM) คือ “กุญแจ” สำคัญในยุคปัจจุบัน

    เนื่องจากการซื้อขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกมาก สามารถค้นหาสินค้าหรือบริการที่คล้ายกันพร้อมเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย จึงต้องมีสิ่งที่องค์กรธุรกิจใช้มัดใจลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำๆ และสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ปรับตัวให้ทันโลกตลอดเวลา

    วันนี้ Connect X จะพามาแนะนำให้รู้จัก Customer Relationship Management (CRM) ว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อธุรกิจ พร้อมพามาดูตัวอย่างแบรนด์ดังที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ระบบ CRM เข้ามาบริหารจัดการองค์กรและการให้บริการลูกค้า

    Customer Relationship Management หรือ ระบบ CRM คืออะไร

    CRM คือ ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ให้ธุรกิจหรือองค์กรสามารถสร้างและรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้าเอาไว้ให้ได้นานที่สุด พร้อมสร้างโอกาสจากบุคคลที่มีศักยภาพในการเป็นลูกค้า (Potential Customer) โดยมุ่งเน้นไปในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและการปฏิสัมพันธ์แบบเฉพาะตัวอย่างมีคุณค่า รวมถึงการนำเสนอสินค้าอย่างถูกที่ถูกเวลาอีกด้วย ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะต้องอาศัยการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคมาวิเคราะห์ เพื่อหากลยุทธ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

    Tips: บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ CRM (Customer Relationship Management)

    ระบบ CRM สำคัญกับธุรกิจอย่างไร

    • ช่วยปรับปรุงการบริการ ตั้งแต่ช่วงต้นน้ำ-ปลายน้ำ กล่าวคือตั้งแต่เริ่มขายไปจนถึงการบริการหลังการขาย เช่น แบรนด์สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าได้ตรงความต้องการของลูกค้าตามข้อมูลที่ได้มา ทำให้ปิดการขายได้รวดเร็ว สามารถให้บริการหลังการขายได้อย่างตรงจุด และสามารถส่งโปรโมชันใหม่ๆ กับลูกค้าได้ผ่านระบบสมาชิก
    • เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้า เพราะสามารถนำข้อมูลประวัติการซื้อหรือความสนใจของบุคคลที่มีศักยภาพที่จะเป็นลูกค้าได้ มาวางแผนกลยุทธ์และทำการตลาด เพื่อโน้มน้าวให้ตัดสินใจซื้อสินค้า เช่น ส่งคำแนะนำสินค้าและโปรโมชัน ระบบการแจ้งเตือนผ่านแพลตฟอร์มให้ลองทบทวนการซื้ออีกครั้ง เป็นต้น
    • มัดใจลูกค้าขาจรเป็นขาประจำ เนื่องจากระบบ CRM จะช่วยติดตามและเก็บข้อมูลของลูกค้าแต่ละคนไว้ ซึ่งสามารถนำข้อมูลมาต่อยอดให้เกิดการตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) เพื่อสร้างคุณค่าและสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าได้ พร้อมกับช่วยให้พนักงานสามารถตอบคำถามหรือแนะนำการบริการได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ผ่านการรวบรวมช่องทางการบริการเข้าไว้ด้วยกันในรูปแบบ Omni Channel ไม่ว่าจะให้บริการที่หน้าร้านหรือบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ก็สามารถเชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ จนทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และอยากกลับมาซื้อซ้ำ
    • มีความน่าเชื่อถือ เมื่อลูกค้าเกิดความประทับใจในการให้บริการทุกมิติแล้ว ก็สามารถแนะนำคนอื่นต่อๆ ไปได้ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางปากต่อปาก (Word of Mouth) และการรีวิวในแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งจะทำให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น มีชื่อเสียงด้านบวกเพิ่มมากกว่าเดิม
    • บริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว สำหรับองค์กรธุรกิจที่เลือกใช้ระบบ CRM จะทำให้มีการรวมข้อมูลไว้อย่างเป็นระเบียบ และมีช่องทางการให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเรื่องการบริหารจัดการ สามารถประเมินและวัดผลต่างๆ ได้ชัดเจน
    • สร้างแคมเปญการตลาดได้ตามเป้าหมาย เพราะระบบ CRM จะช่วยให้เห็นข้อมูลเชิงลึกและยังช่วยวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต ทั้งกำไร ปัญหาระยะสั้น ระยะยาว และกำหนดขอบเขตของกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ในอนาคต
    • ลดค่าใช้จ่าย การใช้ระบบ CRM จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทุ่มงบประชาสัมพันธ์สำหรับลูกค้าใหม่ ลดกิจกรรมทางการตลาดที่ได้ผลลัพธ์ไม่คุ้มค่า และสามารถนำต้นทุนส่วนนี้มาใช้ในการรักษาฐานลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
    Tips: บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจ และระบบ CRM

    3 แบรนด์ดังที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ Customer Relationship Management

    • Apple

    ผู้ครองตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์ใดของ Apple อย่าง iPhone, iPad, MacBook จะมีการเข้าระบบด้วย Apple ID เพื่อใช้งานบริการของ Apple และเชื่อมทุกอุปกรณ์เข้าหากัน ซึ่ง Apple ได้ใช้ระบบ CRM ในการเก็บข้อมูล บันทึกการความสนใจต่างๆ ของผู้ใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำตามความต้องการโดยอิงจากสิ่งที่ชอบ อีกทั้งยังเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและความชอบของลูกค้า เพื่อต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีความแม่นยำ ตรงเป้าหมาย และตัดสินใจซื้อได้อย่างง่ายดาย

    • Amazon

    เว็บไซต์แพลตฟอร์ม E-Commerce เจ้าดังระดับโลก มีโครงสร้างพื้นฐาน CRM ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่ง เพื่อแนะนำข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าแบบรายบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำและโปรโมชันต่างๆ ซึ่งสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ของผู้ใช้ได้ทันที โดยใช้ข้อมูลจากบัญชี Amazon ที่สามารถติดตามประวัติการซื้อและการเข้าชม เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและความสนใจของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีระบบการแจ้งเตือนสินค้าที่เลือกไว้ในตะกร้าแต่ยังไม่ได้ชำระเงิน และระบบที่ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าใหม่ได้ง่ายในการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

    • Coca Cola

    บริษัทเครื่องดื่มอัดลมระดับโลกที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน บริษัท Coca-Cola ได้ใช้ CRM เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการภายใน ซึ่งทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถระบุและบันทึกปัญหาหรือข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะมาจากลูกค้าหรือซัพพลายเออร์ก็สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายและเป็นระบบ เพื่อส่งต่อให้ทีมช่างหรือทีมบริการหลังการขายเข้าไปแก้ไขได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้สมาชิกของทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้า ทั้งประวัติการซื้อ พฤติกรรม และความสนใจผ่านมือถือได้จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งช่วยให้ได้รับข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมข้อเสนอพิเศษและโปรโมชันได้อย่างเจาะจงและตรงกลุ่มเป้าหมาย

    Tips: ตัวอย่างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและใช้ระบบ CRM

    หลังจาก Connect X ได้แนะนำมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า Customer Relationship Management (CRM) หรือระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า เป็นตัวช่วยทางธุรกิจที่มีความสำคัญในยุคปัจจุบันและอนาคตเป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในโลกออนไลน์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากธุรกิจไหนสามารถเก็บข้อมูลและสานสัมพันธ์กับลูกค้าไว้ได้พร้อมๆ กันแล้วไม่ว่าจะโลกจะหมุนไปไวแค่ไหน ธุรกิจของก็จะก้าวข้ามคู่แข่ง และไม่ตกเทรนด์โลกอย่างแน่นอน

    ส่วนใครที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มที่มีระบบ CRM ในตัวที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง Connect X คือแพลตฟอร์ม CDP ที่คุณกำลังมองหา เพราะมีการรองรับ PDPA และมีเครื่องมือเก็บข้อมูลลูกค้าที่มาพร้อมกับระบบ CRM ในตัว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Marketing Automation กับ AI อัจฉริยะที่คอยช่วยเรื่องการตลาดแบบอัตโนมัติด้วย จึงมั่นใจได้ว่า Connect X มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และพร้อมที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดด

    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

    CRM (Customer Relationship Management) กับ CDP แตกต่างกันอย่างไร?

    มาทราบถึงความแตกต่างของ CRM (Customer Relationship Management) และ CDP (Customer Data Platform)

    การทำ Digital Marketing (การตลาดดิจิทัล) เป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้สำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ต่างๆ ในยุคปัจจุบันที่ต้องการเข้าหาลูกค้าอย่างทั่วถึง ประสิทธิภาพของการทำ Marketing จะเพิ่มมากขึ้นหากสามารถนำ ‘ข้อมูล’ มาใช้ได้ครับ จึงเป็นสาเหตุให้นักการตลาดเริ่มหันมาใช้ระบบต่างๆ ในการบริหารความสัมพันธ์และจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า

    หลายคนอาจสับสนระหว่างระบบเหล่านี้ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และระบบทั้งสองจำเป็นจะต้องทำงานร่วมกันรึเปล่า ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับระบบ CRM (Customer Relationship Management) และ CDP (Customer Data Platform) กันครับ

    CRM คืออะไร? 

    CRM หรือ Customer Relationship Management สามารถเรียกเป็นภาษาไทยได้ว่า ‘การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า’ นิยามได้ว่าเป็นการบริหารความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าหรือบุคคลที่มีศักยภาพที่จะกลายเป็นลูกค้านั่นเองครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนๆ ก็ต้องการลูกค้าเพิ่มมากขึ้นและ Customer Loyalty ที่มากขึ้น

    ในปัจจุบันนี้ ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ  ระบบ CRM (Customer Relationship Management) ก็คือโซลูชั่นที่เกิดมาเพื่อช่วยจัดการปัญหางานขายและปัญหาลูกค้าที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆ ในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ การปรับปรุงกระบวนการขายผ่าน Sales Funnel ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการติดตามงานขาย และดูแลเคสปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้ว CRM จะเป็นกระบวนที่เกิดขึ้นหลังการหลังจากการทำการตลาดครับ

    CDP คืออะไร?

    CDP มีชื่อเต็มๆ ว่า Customer Data Platform เป็นแพลตฟอร์มสำหรับจัดการข้อมูลลูกค้าในระบบต่างๆ และจากทุกแหล่งในองค์กรเข้าด้วยกัน ถือเป็นฐานลับของแบรนด์ก็ว่าได้ครับ เพราะนอกจากการเก็บข้อมูลแล้ว ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกหรือ Customer Insight เพื่อให้นักการตลาดนำมาทำ Personalized Marketing ได้อย่างแม่นยำครับ ซึ่งระบบ CDP ในปัจจุบันจะมีความสามารถ ดังนี้

    • CDP สามารถรวมกับระบบ API ต่างๆ ได้ เช่น POS หรือ ERP
    • CDP เก็บข้อมูลในแหล่งเดียวได้ ทำให้วิเคราะห์ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
    • CDP สามารถเปิดเผยลักษณะของลูกค้าเพื่อใช้ทำการตลาดแบบ Personalized Marketing
    • CDP เก็บข้อมูลที่เป็นบริบท ประวัติย้อนหลัง และข้อมูลทั่วไปของลูกค้า แยกเป็นสัดส่วนได้แบบชัดเจน

    CRM vs. CDP ทั้งสองต่างกันอย่างไร? 

    ในขณะที่ CDP จะเก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าทุกคนจากหลายๆ แหล่งที่ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าและบริการของแบรนด์ ไม่ว่าจะผ่านโซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์, POS, หรือ E-Commerce ไว้ในที่เดียวกัน ส่วนระบบ CRM (Customer Relationship Management) จะเก็บข้อมูลของลูกค้าจาก Point of Sale หรือจากจุดที่ลูกค้าได้มีการติดต่อ ซื้อขายสินค้าและบริการกับพนักงานของแบรนด์

    CRM จะบอกได้ถึงประวัติการซื้อขายและการติดต่อกับทีม Sale ส่วน CDP นั้นจะเก็บข้อมูลตั้งแต่เมื่อลูกค้าคลิกเข้ามาดูสินค้า ว่ามาจากช่องทางไหน เห็นสินค้าจากโฆษณาอะไร ลูกค้าคลิกเข้ามาดูสินค้ารึเปล่า ทำให้เกิดข้อมูลเชิงลึกมากกว่าครับ

    การทำงานควบคู่ไปด้วยกัน

    ปัจจุบันนี้แพลตฟอร์ม CDP มักมาพร้อมกับระบบ CRM ในตัว ทำให้นักการตลาดไม่ต้องสับสนกับการ Integrate หลายๆ ระบบเข้าด้วยกัน สามารถทำ Marketing ได้จากระบบเดียวอย่างสะดวก ซึ่ง ConnectX เป็นหนึ่ง Marketing Platform ที่มีระบบ Customer Relationship Management ในตัวพร้อมกับฟีเจอร์ทันสมัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การ Create Lead จากช่องทางต่างๆ, Sales Path ที่ทำให้พนักงานจัดการกับ Status ลูกค้าได้ง่ายขึ้น สามารถรองรับ Loyalty Program ได้ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ รวมไปถึงการทำ Real-Time Marketing Automation อีกด้วย ครับ

    บทความอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ระบบ CRM (Customer Relationship Management)

    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

    CDP คืออะไร ทำไมทุกแบรนด์ ต้องมี CDP (Customer Data Platform)

    CDP คืออะไร ?

    ทำไมทุกแบรนด์ต้องมี CDP ?
    ถ้าไม่มี CDP แล้วจะอยู่รอดไหม ในยุค Digital Transformation 

    ก่อนอื่นแอดมินขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ CDP กันก่อนครับ

    CDP คือ ฐานลับของแบรนด์ที่มีไว้วิเคราะห์และเก็บข้อมูลลูกค้า โดยคำว่า CDP ย่อมาจาก Customer Data Platform นั่นเองครับ

    ทำไมต้องเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ใน CDP ?

    CDP คือ โปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักการตลาดโดยเฉพาะ ที่ไม่ใช่แค่เก็บข้อมูลลูกค้าแต่สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูล จนทำให้นักการตลาดรู้ลึกถึง Customer Insight ทำให้ Brand สามารถทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ได้แม่นยำยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

    แล้ว CDP จาก Platform แบบไหนล่ะ ถึงจะตอบโจทย์ Brand มากที่สุด ?

    วันนี้ผมได้คัดตัวอย่าง Feature หลักๆของ CDP สำหรับ Brand ยุค Digital
    จาก Marketing Platform ของ Connect X ฉบับเข้าใจง่ายๆ มาให้เรียบร้อยแล้ว จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ

    1. Customer Single View 

    ยิ่งเก็บข้อมูลเยอะเท่าไหร่ ยิ่งต้องมี Customer Single View

    Customer Single View  คือ สิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับ Brand ในยุคนี้ เนื่องจากหากข้อมูลของลูกค้าอยู่อย่างกระจัดกระจาย จะทำให้นักการตลาดไม่สามารถทำการสื่อสารการตลาดได้อย่างแม่นยำ เพื่อมองเห็นภาพรวมทุกการเชื่อมต่อของลูกค้ากับ Brand ในมุมมองเดียว Customer Single View จะทำให้ Brand สามารถสื่อสารการตลาด ไปยังลูกค้าแต่ละคนได้แบบแม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อมาจากช่องทางไหน Brand ก็สามารถมองเห็นภาพรวมของลูกค้าและประสานประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) เป็นหนึ่งเดียวได้ทั้งช่องทาง Online และ Offline แบบ Omni-Channel

    CDP จาก Platform ของ Connect X ได้เข้ามาตอบโจทย์ Brand ในการทำการตลาดยุคใหม่ ที่ต้องเชื่อมต่อทุกประสบการณ์ของลูกค้าเป็นหนึ่งเดียวแบบไม่มีสะดุด ด้วย Global Id อาวุธลับเฉพาะของ Connect X ที่สามารถจับคู่ทุกข้อมูลของลูกค้ารวมเป็นหนึ่งเดียวได้ เพื่อให้ Brand สามารถทำการตลาดแบบ Personalization เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น

    2. API-Connect

    จบปัญหา เก็บข้อมูลไว้หลายที่ แล้วงงไปหมดว่าใครเป็นใครด้วย API-Connect

    Connect X ช่วยให้ Brand สามารถเชื่อมต่อ (Integrate) กับทุกฐานข้อมูลลูกค้าในระบบหลังบ้านที่ Brand ใช้อยู่ไม่ว่าจะระบบไหน เช่น POS, ERP เข้าถึงทุกข้อมูลของลูกค้า ใน Center เดียว เช่น พฤติกรรมการซื้อสินค้า, แคมเปญโปรโมชั่นที่ลูกค้าแต่ละคนชอบใช้, สินค้าที่ซื้อเป็นประจำ เป็นต้น ทำให้ Brand สามารถสื่อสารการตลาด ส่ง Promotion ให้ลูกค้าได้โดนใจยิ่งขึ้นแบบ Paersonalization พร้อม Connect กับลูกค้าได้แบบไม่มีสะดุด

    3. ระบบ AI ที่ช่วยให้ Brand รู้ใจลูกค้าถึง Insight

    ไม่ใช่แค่รู้จักหรือรู้ใจ แต่รู้ลึกถึง Customer Insight ด้วย ระบบ AI Predictive Lead Scoring ช่วยจัดลำดับลูกค้าที่มีโอกาสซื้อสินค้าสูงที่สุด ทำให้ Brand สามารถทำแคมเปญการตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น

    ยุคนี้ AI กลายเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ต้องมี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถได้มากกว่า ระบบ AI ทำให้ทุกข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องง่ายด้วยการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นอย่างระบบ (Data Analysis) รู้ลึกถึง Customer Insight แบบ 360° ทำให้ Brand Connect กับลูกค้าได้ในทุกๆการเชื่อมต่อทั้ง Offline และ Online แบบไม่มีสะดุด (Omni-Channel) 

    4. Real-time Marketing Automation

    CDP ที่ดี ต้อง Real-time และมาพร้อมเพื่อนคู่ซี้อย่าง Marketing Automation

    เพราะถึงแบรนด์จะรู้ใจลูกค้าแค่ไหน คงไร้ประโยชน์ถ้าตอบสนองความต้องการไม่ได้ในทันที ทำให้ Markerting Platform จาก Connect X มาพร้อมทั้ง CDP และ Marketing Automation ที่จะเข้ามาช่วย Brand ยุคนี้ ให้สามารถรู้ใจลูกค้าถึง Customer Insight แล้วตอบสนองได้ในทันที พร้อมเครื่องมือทำการตลาดอัตโนมัติ

    นักการตลาดสามารถสร้าง Customer Journey พร้อมบริการส่ง SMS, Email Marketing และการยิงโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆเช่น Facebook, Line, Twitter, Instragram หรือ Pantip ได้แบบ Real-Time

    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

    5 วิธีเลือกระบบ Customer Relationship Management ให้ปังที่สุด

    เจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่อยากยกระดับการให้บริการจะเลือกระบบ Customer Relationship Management ให้เหมาะสมได้อย่างไร? Connect X จะมาบอกให้รู้เอง!

    การให้บริการและการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของธุรกิจยุคนี้เพื่อให้ “อยู่รอด” เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันล้วนต้องการการบริการที่ดีและตอบโจทย์ความต้องการได้ทั้งนั้น หากแบรนด์ไหนที่ไม่สามารถให้บริการได้ดีเท่าที่ลูกค้าคาดหวัง ก็อาจจะต้องยุติธุรกิจลงเลยก็เป็นได้

    ในการบริหารความสัมพันธ์และให้บริการลูกค้านั้น แบรนด์จำเป็นต้องมีการ “จัดเก็บ” ข้อมูลและการ “จัดการ” ที่เหมาะสม ระบบ Customer Relationship Management (CRM) และกระบวนการ CRM จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการบริหาร จัดการข้อมูลลูกค้า และยกระดับการบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่คำถามสำคัญคือเลือกระบบ CRM อย่างไร? ในบทความนี้ Connect X จะมาบอก 5 วิธีเลือกระบบ CRM ให้เจ้าของธุรกิจมือใหม่ได้ทราบกัน

    5 วิธีเลือกระบบ Customer Relationship Management

    หนึ่งในปัญหาหลักๆ ของแบรนด์เมื่อนำระบบ CRM เข้ามาใช้ในธุรกิจคือ พบว่าระบบไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่เท่าที่คิด ทั้งๆ ที่ลงทุนไปแล้วแต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนกลับมา เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจทุกคนคงไม่ต้องการให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นการคัดเลือกระบบ Customer Relationship Management จึงเป็นขั้นตอนที่มองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด

    1. ตอบคำถามที่สำคัญก่อนเลือกระบบ CRM

    อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การลงทุนในระบบ CRM นั้นต้องอาศัยงบประมาณ สิ่งแรกที่ควรทำคือ พิจารณาความต้องการและเป้าหมายของธุรกิจเสียก่อน ด้วยการตั้งคำถามเช่น

    • ลักษณะธุรกิจเป็นอย่างไร? – เป็นธุรกิจ B2C หรือ B2B ซึ่งจะบอกได้ว่าควรมุ่งเป้าหมายการใช้งานไปในด้านไหน
    • เซลหรือทีมขายเป็นอย่างไร? – ปัจจุบันทีมขายมีกี่คน ดำเนินการขายผ่านช่องทางไหนบ้าง เช่น โซเชียลมีเดีย ติดต่อผ่านโทรศัพท์ อีเมล หรือเว็บไซต์ แล้วนำมาใช้พิจารณาต่อไปในอนาคต
    • ข้อมูลที่ต้องการเก็บมีอะไรบ้าง  – ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล รวมไปถึงความสนใจของลูกค้า อีกทั้งต้องคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจด้วย เช่น ธุรกิจ B2B อาจจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลค่อนข้างเยอะกว่า B2C เป็นต
    • กระบวนการขายทำงานอย่างไร? – สำรวจกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายให้ละเอียด ว่ามีขั้นตอนอย่างไร แล้วกระบวนการ CRM ที่เราเล็งไว้ เข้ากันได้ดีกับระบบของธุรกิจหรือเปล่า

    2. จดรายการสิ่งที่ต้องการจากระบบ Customer Relationship Management

    พอทราบแล้วว่าธุรกิจมีปัญหาด้านไหนและต้องความช่วยเหลืออะไรบ้าง วิธีเลือกระบบ CRM ต่อมาคือการทำรายการหรือลิสต์สิ่งที่ต้องการจากระบบ CRM อาทิ ฟีเจอร์การเชื่อมต่อกับ API ต่างๆ การเชื่อมต่อกับช่องทางแบบ Omni-Channel ระบบ AI รายละเอียดการรายงานของแดชบอร์ด ระบบ Marketing Automation รวมถึงฟังก์ชันอื่นๆ ที่ธุรกิจต้องการ ก็จะช่วยให้สามารถคัดกรองตัวเลือกที่ไม่จำเป็นหรือไม่ตอบโจทย์ออกไปได้นั่นเอง

    3. ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานของระบบ CRM

    แม้จะมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมกิจกรรมการตลาดและการบริการรอบด้าน แต่หากตัวแพลตฟอร์มใช้งานยากหรือต้องอาศัยความรู้ด้านเทคนิคมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อทีมขายและธุรกิจแทน เช่น การเรียกดู Insight ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม การเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์มการขายอื่นๆ เป็นต้น ว่าสามารถอำนวยความสะดวกและลดงานที่ซ้ำซ้อนได้จริงหรือเปล่า

    4. ทดลองใช้หรือ Request Demo

    อีกหนึ่งวิธีเลือกระบบ Customer Relationship Management ที่สามารถช่วยได้อย่างมากคือ การทดลองใช้งานจริง ซึ่งถ้าผู้ให้บริการเปิดให้ทดลองได้ฟรีก็ขอแนะนำให้เข้าไปเริ่มเรียนรู้ระบบด้วยตัวเองได้เลย พร้อมทั้งศึกษาความคุ้มค่าของแพ็กเกจต่างๆ หรือผู้ให้บริการระบบ CRM บางรายอาจจะไม่ได้เปิดให้เข้าทดลองใช้ได้ทันที แต่ต้องติดต่อเข้าไปเพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อมูลและความต้องการเบื้องต้น ก่อนที่จะได้รับสิทธิ์ทดลองใช้

    ระบบ CRM ของบางแบรนด์อาจจะมีให้ “Request Demo” คือการขอให้ทางผู้ให้บริการทำการสาธิตกระบวนการ CRM ให้ดูนั่นเอง ให้ได้เห็นหน้าตาและความสามารถเบื้องต้นของระบบ เพื่อนำมาประกอบกับความต้องการของธุรกิจว่าตรงกันมากน้อยแค่ไหน

    5. บริการให้คำปรึกษาทั้งก่อนและหลัง

    สำหรับวิธีเลือกระบบ CRM ข้อนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวแพลตฟอร์มโดยตรง อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยธุรกิจได้ โดยควรมี “ศูนย์บริการลูกค้า” ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำหรือการตอบคำถามของธุรกิจ มีการคลาสฝึกสอน (Training) ก่อนเริ่มต้นใช้งานระบบ รวมถึงเมื่อใช้งานระบบไปแล้ว แต่เกิดมีปัญหา ผู้ให้บริการก็ควรที่จะให้คำปรึกษาได้ สามารถติดต่อได้สะดวก และมีทางแก้ไขที่ชัดเจน ไม่ทิ้งกันไปกลางคัน

    เมื่อได้อ่านทั้ง 5 ข้อนี้ไปแล้ว ทุกท่านคงจะตระหนักดีว่าการเลือกระบบ CRM นั้นอาจจะต้องใช้เวลาและความละเอียดรอบคอบในการพิจารณาก่อนตัดสินใจ ซึ่งถ้าใครเลือกได้แล้วว่าต้องการใช้ Customer Relationship Management ตัวไหน ก็สามารถวางแผนในการเริ่มซื้อและใช้งานได้เลย ซึ่ง Connect X ขอแนะนำให้กำหนดวันที่ติดตั้งชัดเจนและเชื่อมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้เรียบร้อยก่อนใช้งานจริง ให้ทีมงานได้ทำความคุ้นเคยกับตัวระบบและเตรียมความพร้อมข้อมูลเพื่อที่จะติดตั้งระบบใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย