CDP กุญแจสำคัญ พาธุรกิจ Real Estate ก้าวกระโดด

CDP กุญแจสำคัญ พาธุรกิจ Real Estate

Real Estate ในปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง การมี Customer Data Platform หรือ CDP ที่สามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากช่องทางต่างๆที่อยู่กระจายไปทั้ง Online และ Offline ไว้ใน platform เดียวและแสดงผลข้อมูลทั้งหมดของลูกค้าทุกคนให้อยู่ในที่เดียวจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในด้านการพัฒนาธุรกิจและการเติบโตของยอดขาย เช่นเดียวกับลูกค้าในธุรกิจ Real Estate ของ Connect X ที่มีการนำ CDP จาก Connect X เข้ามาใช้เพื่อเก็บ Customer Data ตั้งแต่ต้นทางไม่ว่าจะเป็น Customer Interest and Behavior จาก Feature Social Media และ Ads&Website Tracking ไปจนถึงการเก็บ Customer Profile ของลูกค้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าธุรกิจ Real Estate ในปัจจุบันมีการยิงโฆษณาผ่านทาง Online มากขึ้นทั้ง Social Media ช่องทางต่างๆและ Website ทำให้ข้อมูลลูกค้าที่เก็บมาได้นั้นกระจายไปอยู่ทุกช่องทาง ซึ่งการนำ CDP มาใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลไว้ใน Platform เดียวนั้นจึงเป็นตัวช่วยในการลดปัญหาเรื่องข้อมูลลูกค้าที่อยู่กระจัดกระจายตามช่องทางต่างๆได้และยังช่วยให้สามารถนำข้อมูลไปใช้งานต่อได้สะดวกมากขึ้น

 

CDP Real Estate

เจาะลึกภาพการทำงานของ CDP จาก Connect X

ภาพด้านบนแสดงให้เห็นถึงกระบวนการทำงานของ CDP ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวบรวมและแปลงข้อมูลกระจัดกระจายให้กลายเป็นมุมมองเดียวของลูกค้าแต่ละราย (Customer Single View) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถอธิบายได้เป็นขั้นตอนดังนี้:

1. เริ่มต้นจาก Unknown Customer

ลูกค้าเริ่มต้นจากการเป็นบุคคลนิรนาม (Unknown) ที่คลิกโฆษณาไม่ว่าจะเป็นบน Facebook, Google Ads หรือเว็บไซต์ของแบรนด์ โดยในขั้นตอนนี้ระบบจะเริ่มทำ Ads Tracking โดยเก็บ:

  • Cookie ID และ IP Address

  • ประเภทอุปกรณ์และเบราว์เซอร์

  • พิกัดและแหล่งที่มาของทราฟฟิก

2. Web Tracking เก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรม

เมื่อผู้ใช้งานเข้าเว็บไซต์ ข้อมูลที่ถูกติดตามจะลึกขึ้น เช่น:

  • ลิงก์ที่คลิกหรือหน้าเพจที่ดู

  • ความสนใจและพฤติกรรมบนเว็บไซต์

  • เวลาและความถี่ในการเยี่ยมชม

ระบบจะยังคงจัดกลุ่มผู้ใช้งานเป็น Unknown Customer แต่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการทำ Remarketing และ Retargeting ได้ทันที

3. การแปลงจาก Unknown เป็น Known

เมื่อผู้ใช้งานกรอกฟอร์ม เช่น การลงทะเบียน ขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามผ่านหน้าเว็บไซต์ ระบบจะสามารถจับข้อมูล Customer Profile ได้แก่:

  • ชื่อ-นามสกุล

  • เบอร์โทร

  • อีเมล

  • ความสนใจ หรือ Budget / Location ที่สนใจ (หากระบุในฟอร์ม)

นี่คือจุดที่ลูกค้ากลายเป็น Known Customer และข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวมศูนย์อยู่บนระบบของ Connect X

4. สร้าง Unified Customer View

ข้อมูลจากหลายแหล่งจะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวบนระบบของ CDP ของ Connect X ซึ่งประกอบด้วย:

  • ข้อมูลระบุตัวตน (Cookie ID, ชื่อ, เบอร์, อีเมล)

  • โปรไฟล์พฤติกรรม (สนใจบ้านหรือคอนโด, พื้นที่เป้าหมาย, งบประมาณ)

  • ประวัติการคลิก, การสนทนา และการตอบกลับแคมเปญต่างๆ

ส่งผลให้ทีม Sale หรือ Marketing สามารถ เข้าถึงข้อมูลลูกค้าแบบ 360 องศา พร้อมใช้ต่อยอดกับระบบ Marketing Automation ได้ในขั้นถัดไป

ใช้ CDP แล้วดียังไงกับธุรกิจ Real Estate?

  • ลดการสูญเสียข้อมูลลูกค้า: ไม่ต้องตามเก็บข้อมูลจากหลายแหล่งแบบกระจัดกระจายอีกต่อไป

  • รู้จักลูกค้าได้เร็วและลึก: วิเคราะห์ได้ตั้งแต่ความสนใจไปจนถึงขั้นตอนการตัดสินใจซื้อ

  • สร้าง Personalized Journey: ส่งแคมเปญเฉพาะบุคคลตามพฤติกรรมและความต้องการ เช่น โฆษณาบ้านในโซนกรุงเทพ งบไม่เกิน 3 ล้านบาท

  • วัดผลได้ชัดเจน: วิเคราะห์ Conversion และประสิทธิภาพของทุกแคมเปญได้แบบเรียลไทม์

  • เพิ่มยอดขาย: จากข้อมูลจริงของ Connect X แสดงให้เห็นว่าลูกค้าในกลุ่ม Real Estate ที่ใช้ CDP มีอัตรา Engagement เพิ่มขึ้น 40% และยอดขายเติบโตถึง 25%

     นอกเหนือจากส่วนที่เก็บรวบรวมข้อมูลแล้ว CDP ยังช่วยส่งเสริมทำให้ Customer Data มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้เมื่อลูกค้ามีการเข้ามา Browsing บน Website ไม่ว่าจะมาจาก Ads หรือจากการ Search ใน Website ซึ่งในขั้นตอนนี้ระบบจะยังไม่รู้จักลูกค้าและเรียกลูกค้ากลุ่มนี้ว่าเป็น Unknown Customer และจะทำการเก็บ Cookie ID รวมถึง Customer Interest and Behavior ไว้เพื่อดูว่าลูกค้าสนใจ Website หน้าไหนหรือสินค้าอะไรบ้าง และเมื่อลูกค้าสนใจสินค้าภายใน Website นั้นและกดเข้ามาดูสินค้าพร้อมกับ Drop Form เข้ามา ระบบก็จะสามารถเก็บ Customer Profile มาได้ทั้ง ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และ E-mail ของลูกค้ารวมไปถึง Requirement ต่างๆที่ลูกค้าต้องการได้ ทำให้จาก Unknown Customer เปลี่ยนมาเป็น Known Customer และข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในขั้นตอนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการให้ Sales โทรไปเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการตามที่ลูกค้าแจ้ง Requirement มาได้อย่างตรงจุด หรือการทำ Audience Segmentation เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าและต่อยอดในการนำไปทำ Marketing Automation เพื่อส่ง Personalized Engagement ไปให้ลูกค้าได้ตรงจุดเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกค้าในธุรกิจ Real Estate บางคนสนใจบ้าน บางคนต้องการดูคอนโด หรือบางคนที่มองหาที่อยู่เช่น อยากได้อาศัยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ, งบประมาณไม่เกิน 3 ล้าน, อยากได้ที่พักเป็นคอนโด ก็สามารถส่ง Ads, โปรโมชั่นหรือข้อมูลที่มีความเฉพาะเจาะจงให้กับลูกค้าแต่ละคนได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถดูประสิทธิภาพของ Campaign Performance ที่มีการลงไปในแต่ละเดือนว่ามี Conversion กลับมาเท่าไหร่ได้ด้วย

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคที่ธุรกิจถูกขับเคลื่อนด้วย Data การใช้ Customer Data Platform ที่สามารถจัดการและเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าไว้ได้ในที่เดียว เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่ง CDP ของ Connect X นอกจากจะสามารถเก็บรวมรวมข้อมูลได้แล้วยังมี Features ที่ตอบโจทย์ไม่ว่าจะเป็น Social Media , Ads&Web Tracking รวมไปถึงการทำ Audience Segmentation เพื่อต่อยอดในการทำ Marketing Automation ซึ่งช่วยในเรื่อง Marketing Campaign และทำให้ได้ Engagement จากลูกค้ากลับมามากขึ้น 40% และที่สำคัญที่สุดคือช่วยเรื่องการเติบโตของยอดขายได้มากถึง 25% นอกจากประโยชน์ในด้านการเติบโตของธุรกิจแล้ว CDP ยังเข้ามาช่วยเรื่องการทำงานให้สะดวกมากขึ้นและประหยัดเวลาได้ด้วย

 

ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (Mar tech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

    Yearly Budget

    How do you know us?

    Our Latest Blog Posts

    ใส่ความเห็น

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *