มัดใจลูกค้าเก่า เข้าถึงลูกค้าใหม่ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย Marketing Automation Examples

marketing-automation-examples

ในยุคที่ผู้บริโภคมีความต้องการเฉพาะตัวและคาดหวังบริการแบบเรียลไทม์ เครื่องมืออย่าง Marketing Automation จึงกลายเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องการ รักษาฐานลูกค้าเดิมให้เหนียวแน่น พร้อมกับการ เข้าถึงลูกค้าหน้าใหม่อย่างแม่นยำ วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดู marketing automation examples ที่แบรนด์สามารถนำไปใช้ได้จริง

การตลาด + เทคโนโลยี = Marketing Automation

หากจะให้คำจำกัดความสั้นๆ Marketing Automation คือการตลาดอัตโนมัติ โดยการนำเทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ เข้ามาช่วยทำกิจกรรมการตลาด อาทิ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมและความสนใจของลูกค้า, Big Data เก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้า ไปจนกระทั่งการนำซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มการตลาดอย่างระบบ CRM  มาทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Remarketing, Personalized Marketing, Content Marketing, Email Marketing, SMS Marketing หรือกลยุทธ์การตลาดรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์บรรลุเป้าหมายทางการตลาดและการขายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น

ทำไมต้องใช้ Marketing Automation กับทั้งลูกค้าเก่าและใหม่?

การดูแลลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำ และการเข้าถึงลูกค้าใหม่ด้วยข้อความหรือโปรโมชันที่ตรงจุด เป็นเรื่องที่แบรนด์ต้องบริหารจัดการอย่างชาญฉลาด การใช้ระบบ Marketing Automation จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารแบบเฉพาะบุคคล (Personalized) และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

Marketing Automation Examples ที่ช่วยมัดใจลูกค้าเก่า

1. ระบบแจ้งเตือนการซื้อซ้ำ (Replenishment Reminder)

สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าซื้อซ้ำได้ เช่น เครื่องสำอาง วิตามิน หรืออาหารสัตว์ สามารถตั้งระบบเตือนอัตโนมัติให้ลูกค้าทราบว่าถึงเวลาซื้อใหม่แล้ว เช่น
“สกินแคร์ตัวโปรดของคุณใกล้หมดหรือยัง? เรามีส่วนลดพิเศษให้คุณ!”

2. โปรแกรมสะสมแต้มอัตโนมัติ (Loyalty Program Integration)

ผสานระบบ CRM และ Marketing Automation เพื่อแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับสถานะคะแนนสะสม เช่น
“คุณมีแต้มสะสม 1,200 คะแนน ใช้แลกส่วนลด 15% ได้ทันทีวันนี้!”

3. การส่งโปรโมชันวันเกิดหรือวันพิเศษ

ระบบสามารถตั้งค่าอัตโนมัติให้ส่งข้อความพร้อมส่วนลดในวันเกิดหรือวันครบรอบ เช่น
“สุขสันต์วันเกิดคุณสมชาย! รับโค้ดส่วนลด 20% ภายใน 3 วันนี้เท่านั้น”

Marketing Automation Examples ที่ช่วยเข้าถึงลูกค้าใหม่

1. ระบบ Follow-Up หลังจากลูกค้าเยี่ยมชมเว็บไซต์

หากมีผู้เข้าชมเว็บไซต์แต่ยังไม่ซื้อ ระบบสามารถส่งอีเมลหรือข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติ เช่น
“เห็นคุณกำลังดูรองเท้าคู่นั้นอยู่ สนใจรับส่วนลด 10% ไหม?”

2. Personalized Content ผ่านหลายช่องทาง (Omnichannel Experience)

ระบบสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า แล้วส่งคอนเทนต์หรือข้อเสนอเฉพาะบุคคลผ่านช่องทางที่ลูกค้าชอบ เช่น LINE, Facebook, Email หรือ SMS

ตัวอย่าง: หากลูกค้าชอบดูสินค้าใน Instagram ระบบจะยิงโฆษณาหรือส่ง DM พร้อมข้อเสนอเฉพาะบุคคลไปทางนั้น

3. Welcome Flow สำหรับลูกค้าใหม่

เมื่อมีลูกค้าใหม่ลงทะเบียนหรือสมัครสมาชิก ระบบสามารถเริ่มต้นแคมเปญอัตโนมัติได้ทันที เช่น

  • Email แนะนำสินค้า

  • ข้อเสนอพิเศษสำหรับการสั่งซื้อครั้งแรก

  • คอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้งานสินค้า

ผู้บริโภคนั้นยุคนี้ต้องการแบรนด์ที่รู้ใจและสามารถต้องสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด (Personalize Marketing) รวมไปถึงการให้บริการแบบเรียลไทม์ (Real-Time) ที่สำคัญคือ ต้องทำได้ตลอดทุกช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บไซต์ สื่อโซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram, LINE) หรือช่องทางอื่นๆ

 

ทำไมธุรกิจต้องมี Marketing Automation?

1. ทำความเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ก่อนที่จะทำการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าที่ใช่ ในเวลาที่ดี และในช่องทางเหมาะสม คุณจะต้องเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าของคุณก่อน และการทำความเข้าใจลูกค้านั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีข้อมูล

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ การเก็บข้อมูลลูกค้าคือรากฐานที่สำคัญของ Marketing Automation เพราะซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มที่ดี (อย่าง Connect X)  จะช่วยให้ท่านสามารถเก็บข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าของคุณแบบรายบุคคลได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดูสินค้าที่คนคนนั้นสนใจ หรือมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของท่านอย่างไร

2. ตัวเชื่อมระหว่าง Marketing และ Sale

หนึ่งในหน้าที่หลักของ Marketing Automation คือ “การฟูมฟัก” ให้ผู้คนที่เข้ามายังช่องทางการตลาดของท่านนั้นพร้อมสำหรับการถูกขาย ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่คนคนนั้นพร้อมซื้อ ข้อมูลต่างๆ ถึงค่อยถูกส่งไปให้ฝ่ายขายอีกที และเมื่อฝ่ายขายทำการติดต่อหรือทำการเสนอขายกับลูกค้าแล้ว ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ข้อมูลต่างๆ ที่ได้มาจากปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าจะนำมาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าต่อด้วย

Marketing Automation ช่วยให้ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายสามารถทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาแบรนด์และธุรกิจได้อย่างทรงประสิทธิภาพมากขึ้น

3. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

การนำเครื่องมือ Marketing Automation เข้ามาปรับใช้ จะช่วยให้แบรนด์สามารถดำเนินธุรกิจได้ราบรื่นยิ่งขึ้น ลดภาระงาน เช่น การใส่ข้อมูลซ้ำซ้อน หรือ การส่ง กิจกรรมทางการตลาดและการขายไปยังผู้ที่สนใจอีกครั้ง นอกจากนี้ยังช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากบุคคล (Human Error) ได้ด้วยนั่นเอง

ทำ Marketing Automation อย่างไรให้ได้ผล?

การใช้งาน Marketing Automation ไม่ใช่เพียงแค่ “ตั้งแล้วลืม” แต่ต้องมีการออกแบบ Customer Journey และปรับแต่งแคมเปญให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งเครื่องมืออย่าง Connect X ช่วยให้คุณ:

  • สร้าง Workflow อัตโนมัติ ได้หลากหลาย

  • ส่งข้อความแบบ Personalized ได้แม่นยำ

  • เก็บข้อมูลลูกค้าทั้ง Known & Unknown ได้ในฐานเดียว (CDP)

  • เชื่อมต่อกับทุกแพลตฟอร์มหลัก เช่น LINE, Facebook, Email, Website

Marketing Automation ทำงานอย่างไร?

การตลาดอัตโนมัตินั้นสามารถเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก Marketing Funnel หรือก็คือเมื่อลูกค้ารับรู้ถึงสินค้าหรือบริการ (Awareness) ยกตัวอย่างเช่น

คุณ A ได้เข้ามาดูสินค้าของแบรนด์ท่านมากถึง 3 ครั้ง ทั้งบนเว็บไซต์  Facebook และ Instagram แต่ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา ท่านสามารถตั้งค่าให้ Marketing Automation ให้ทำการส่งคอนเทนต์ แคมเปญ หรือโปรโมชันต่างๆ ไปให้คุณ A ผ่านทางอีเมล และหากยังไม่สนใจเหมือนเดิม ก็อาจเปลี่ยนช่องทางเป็น ข้อความ SMS หรืออีกนัยหนึ่งก็คือสามารถทำ Personalized Marketing กับลูกค้าแต่ละคน พร้อมทำ Remarketing กับฐานลูกค้าเดิมด้วย

สำหรับแพลตฟอร์ม Connect X ท่านสามารถ ส่ง Personalized Message  ผ่าน Line Message, Facebook Message, Email เป็นต้น สร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจได้มากกว่า อีกทั้งยังเป็น CDP (Customer Data Platform)  เก็บข้อมูลลูกค้าได้ตั้งแต่ยังเป็น Unknown Data จนเป็น Known จะเป็นลูกค้าหน้าใหม่ก็สามารถส่งโปรโมชันที่ตรงใจได้ตลอด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (Mar tech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

    Yearly Budget

    How do you know us?

    Our Latest Blog Posts