ในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะเคยเห็นคำว่า “Marketing Automation” ผ่านตากันมาบ้าง ไม่ว่าจะในบทความการตลาด การสัมมนา หรือแม้แต่ในแพลตฟอร์มที่เราใช้งานอยู่ทุกวัน คำนี้ไม่ได้เป็นแค่กระแสชั่วคราว แต่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักการตลาดดิจิทัลและเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วันนี้ ConnectX พาไปรู้จัก Marketing Automation Tool ระบบช่วยทำการตลาดแบบอัตโนมัติ
Marketing Automation Tool คืออะไร และทำไมถึงสำคัญในยุคนี้
ในยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันกันบนความเร็ว ความแม่นยำ และประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า Marketing Automation หรือระบบอัตโนมัติทางการตลาด กลายเป็นเครื่องมือที่แทบทุกแบรนด์ควรมีไว้ในมือ เพราะมันคือผู้ช่วยที่คอยทำงานด้านการตลาดซ้ำๆ ให้เราแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลแจ้งโปรโมชั่น การแจ้งเตือนผ่าน SMS หรือการแสดงข้อความอัตโนมัติในแชทของ Facebook หรือ LINE OA ทุกอย่างถูกตั้งค่าไว้ล่วงหน้าเพื่อทำงานแทนเราในเวลาที่เหมาะสมที่สุด
เครื่องมือนี้ไม่ได้แค่ “ช่วยประหยัดเวลา” เท่านั้น แต่มันยังช่วยลดต้นทุนของทีมการตลาด เพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างแบรนด์กับลูกค้า เพราะสามารถสื่อสารแบบตรงจุด ตรงกลุ่ม และตรงช่วงเวลา เรียกได้ว่าเป็นการ “ยิงตรงใจ” โดยไม่ต้องเสียเวลาหรือพลังงานซ้ำๆ กับงานเดิมๆ นั่นเอง
อีกหนึ่งเหตุผลที่ Marketing Automation สำคัญมากคือ การทำงานร่วมกับฐานข้อมูล (CRM หรือ CDP) ที่สามารถรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า และนำมาวิเคราะห์เพื่อสร้างแคมเปญแบบเฉพาะเจาะจง เช่น หากลูกค้ารายหนึ่งชอบซื้อสินค้าประเภทสกินแคร์ในช่วงปลายเดือน ระบบก็สามารถตั้งเวลาโปรโมชันเฉพาะสินค้าสกินแคร์ในช่วงเวลานั้นให้กับลูกค้าคนนี้โดยเฉพาะโดยไม่ต้องส่งแบบเดียวกันให้กับทุกคน
Marketing Automation มีหน้าตาเป็นอย่างไร และทำงานอย่างไร ?

การใช้งาน Marketing Automation เริ่มต้นจากการ “ตั้งค่า Flow” หรือการกำหนดเส้นทางการทำงานที่เราต้องการให้ระบบดำเนินไปตามลำดับขั้นอย่างอัตโนมัติ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น หากมีลูกค้าใหม่กรอกแบบฟอร์มสมัครสมาชิกในเว็บไซต์ ระบบสามารถส่งอีเมลต้อนรับทันที และตั้งค่าให้อีก 7 วันถัดไปส่งอีเมลเสนอส่วนลดพิเศษ พร้อมทั้งอีก 14 วันถัดไปส่งข้อความผ่าน LINE OA เพื่อสอบถามความพึงพอใจ หรือเสนอข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม—all แบบอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องทำเองทีละรายการให้เสียเวลา
ระบบนี้จะประกอบด้วยองค์ประกอบหลักๆ ได้แก่:
-
Trigger: จุดเริ่มต้นของกระบวนการ เช่น เมื่อลูกค้าลงทะเบียน
-
Action: สิ่งที่ระบบจะดำเนินการ เช่น ส่งอีเมล, SMS หรือข้อความผ่าน LINE OA
-
Condition/Filter: เงื่อนไขหรือการคัดกรอง เช่น เลือกเฉพาะลูกค้าที่เคยซื้อสินค้า A
-
Wait: การกำหนดเวลารอ เช่น รอ 3 วันก่อนดำเนินการถัดไป
ในระบบที่มีความสามารถสูง ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าทั้งชุดนี้ให้เป็นเส้นทางหรือ Marketing Automation Journey ซึ่งมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับเป้าหมายทางการตลาดได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะต้องการส่งข้อความเพียงครั้งเดียว หรือสร้างแคมเปญที่ต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์หรือเดือน โดยช่องทางที่สามารถใช้ได้มีทั้ง Email, SMS, Facebook Messenger และ LINE OA ที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างแม่นยำ
จุดเด่นอีกอย่างของระบบนี้คือความง่ายในการตั้งค่า แม้ผู้ใช้งานจะไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิคมาก่อนก็สามารถเรียนรู้ได้ในเวลาไม่นาน ด้วยหน้าตาการใช้งานที่เป็นแบบ Visual หรือ “ลาก-วาง” ผู้ใช้สามารถจัดลำดับขั้นตอนต่างๆ ได้เองโดยตรง เช่น หากเราต้องการส่ง SMS ไปหาลูกค้า 200 คนในตอนนี้ และรอจนถึงเดือนหน้าค่อยตามด้วยข้อความผ่าน LINE OA ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน “Wait until” เพื่อให้ระบบหยุดรอในช่วงเวลาที่กำหนดก่อนดำเนินการต่อได้ทันที
ด้วยความยืดหยุ่นสูงและประหยัดเวลาแบบนี้เอง ทำให้ Marketing Automation กลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมในหมู่นักการตลาดยุคใหม่ ที่ต้องรับมือกับงานซ้ำซากแต่ยังต้องการความแม่นยำและประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

https://ortto.com/blog/what-is-marketing-automation/
Marketing Automation กับผู้บริโภค
จุดเด่นที่ทำให้ Marketing Automation แตกต่างจากการทำการตลาดแบบเดิมๆ คือการสร้าง “ประสบการณ์เฉพาะบุคคล” หรือที่เรียกว่า Personalized Marketing ซึ่งเกิดจากการที่ระบบสามารถวิเคราะห์และแบ่งกลุ่มลูกค้าได้อย่างละเอียด เรียกว่า Segmentation เช่น แบ่งกลุ่มตามเพศ อายุ ความสนใจ หรือพฤติกรรมการซื้อ
ตัวอย่างเช่น หากเรามีลูกค้าช่วงอายุ 18-24 ปี ที่ชื่นชอบสินค้าแฟชั่น เราก็สามารถส่งโปรโมชันหรือคอนเทนต์เฉพาะด้านแฟชั่นไปยังกลุ่มนี้เท่านั้น ขณะที่ลูกค้าอายุ 30+ ที่ชอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็จะได้รับข้อเสนอที่แตกต่างกันออกไป ส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจและใส่ใจในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่แค่ส่งข้อความโฆษณาแบบเดียวให้ทุกคน
นอกจากนี้ Marketing Automation ยังช่วยให้เราวัดผลได้ง่ายขึ้น เช่น เราสามารถดูว่าอีเมลที่ส่งไปมีอัตราการเปิดเท่าไร มีคนกดลิงก์หรือไม่ หรือแคมเปญที่ส่งผ่าน LINE OA ได้ผลตอบรับมากน้อยแค่ไหน ทำให้เราปรับปรุงกลยุทธ์ได้แบบเรียลไทม์ และสร้างแคมเปญที่ดีขึ้นในรอบถัดไป
ทิ้งท้าย
Marketing Automation ไม่ได้เป็นแค่เทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจ แต่เป็นเครื่องมือที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในยุคที่ลูกค้าคาดหวังความรวดเร็วและแม่นยำจากทุกการสื่อสาร สำหรับแบรนด์หรือเจ้าของกิจการที่ต้องการลดภาระงาน เพิ่มยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ระบบนี้คือคำตอบ
หากคุณกำลังมองหาแนวทางเริ่มต้นหรือยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ Marketing Automation อย่างไรดี ทีมงานของ ConnectX พร้อมให้คำปรึกษาฟรี พร้อมมอบส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงการตลาดให้อัตโนมัติมากขึ้นตั้งแต่วันนี้
ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !
*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (MarTech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ
Our Latest Blog Posts
Marketing Automation
Marketing Automation Tools ตอบ 3 คำถามยอดฮิต ที่เจ้าของธุรกิจสงสัย!
Marke [...]
ก.ย.
Customer Data Platform
5 วิธีเลือกระบบ Customer Relationship Management ให้ปังที่สุด
เจ้าข [...]
ก.ย.
Highlight other
PDPA ในมุมมองของ SME ต้องเตรียมพร้อมด้านไหนบ้าง?
เมื่อ [...]
ก.ย.
other
จริงหรือไม่? 3 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับ PDPA เปลี่ยนความคิดด่วน
ก.ย.
Marketing Automation
ระวัง 3 สิ่งนี้! ก่อน Marketing Automations จะทำร้ายลูกค้า
Marke [...]
ก.ย.
Marketing Automation
Email Marketing ทำให้ประสบความสำเร็จ ต้องระวัง 5 สิ่งนี้
Email [...]
ก.ย.
other
ทำความรู้จัก Loyalty Program การสานสัมพันธ์ลูกค้าที่แบรนด์ยุคนี้ต้องมี
Loyal [...]
มี.ค.
other
Marketing Automation Software คืออะไร? ใช้ยังไงให้ธุรกิจโตไว ตอบโจทย์ลูกค้าแบบรู้ใจ
ในยุค [...]
มี.ค.