Author Archives: Koheng

Ads & Web performance tracking คืออะไร? ฉบับอัพเดท2024

Ads & Web performance tracking

ในโลกดิจิทัลที่แข่งขันกันสูงในปัจจุบัน  Ads & Web performance tracking เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ให้สูงสุด การติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาไม่ได้เป็นเพียงแค่การรู้ว่าโฆษณาใดได้รับคลิกมากที่สุดเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการทำความเข้าใจผู้ชมของคุณ การปรับงบประมาณให้เหมาะสม และการปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดของคุณ บทความนี้จะพาเจาะลึกวิธีการติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาของคุณ

 

Ads & Web performance tracking คืออะไร?

การติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาหมายถึงกระบวนการรวบรวมข้อมูลว่าโฆษณาของคุณทำงานได้ดีเพียงใดในช่องทางต่างๆ เช่น Google, Facebook หรือ LinkedIn ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเมตริกสำคัญ เช่น จำนวนการแสดงผล จำนวนคลิก อัตราการแปลง และ ROI เพื่อประเมินประสิทธิภาพของแต่ละแคมเปญ สำหรับนักการตลาดและแบรนด์ กระบวนการนี้มีประโยชน์อย่างมากในการปรับแต่งกลยุทธ์ เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้จ่ายโฆษณาถูกใช้อย่างคุ้มค่า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม

 

ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้าที่กำลังรันแคมเปญ Google Ads หากไม่มีการติดตามประสิทธิภาพของโฆษณา พวกเขาจะไม่ทราบเลยว่าโฆษณากำลังกำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องหรือไม่ หรือว่าการใช้จ่ายของพวกเขากำลังเปลี่ยนเป็นยอดขายหรือไม่ การติดตามประสิทธิภาพช่วยให้พวกเขาเห็นว่าคำหลักใดทำให้เกิด Conversion มากที่สุด ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถจัดสรรงบประมาณใหม่ไปยังสิ่งที่ได้ผลดีที่สุด

 

วิธีการใช้งาน Ads & Web performance tracking 

ขั้นตอนที่ 1: ระบุเมตริกของคุณ

ขั้นตอนแรกคือการกำหนดเมตริกสำคัญที่สำคัญสำหรับแคมเปญของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงจำนวนการแสดงผล (โฆษณาของคุณแสดงบ่อยแค่ไหน) อัตราการคลิกผ่าน (CTR) อัตรา Conversion และต้นทุนต่อการได้มา (CPA) จัดตำแหน่งเมตริกเหล่านี้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายแคมเปญของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ การสร้างลูกค้าเป้าหมาย หรือการขายโดยตรง

ตัวอย่างเช่น หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างลูกค้าเป้าหมาย ให้เน้นที่อัตรา Conversion และ CPA มากกว่า CTR เพียงอย่างเดียว CTR สูงโดยไม่มี Conversion บ่งชี้ว่าโฆษณาและเนื้อหาหน้า Landing Page ของคุณไม่ตรงกัน

ขั้นตอนที่ 2: เลือกเครื่องมือติดตามโฆษณาของคุณ

การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรวบรวมข้อมูล แพลตฟอร์มอย่าง Google Analytics, Facebook Ads Manager และซอฟต์แวร์บุคคลที่สาม เช่น HubSpot สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือที่คุณเลือกผสานรวมเข้ากับชุดการตลาดที่มีอยู่ของคุณได้เป็นอย่างดี

เช่น บริษัท SaaS ที่ใช้ Google Analytics เพื่อติดตาม Conversion สามารถเชื่อมโยงกับ Google Ads เพื่อดูภาพที่ละเอียดขึ้น เช่น คำค้นหาใดนำไปสู่การสมัครแบบชำระเงิน

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบและวิเคราะห์

การตรวจสอบเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ ตรวจสอบรายงานประสิทธิภาพเป็นรายสัปดาห์เพื่อระบุแนวโน้มและรูปแบบ โฆษณาหนึ่งรายการมีประสิทธิภาพดีกว่าโฆษณาอื่นหรือไม่? กลุ่มเป้าหมายเฉพาะมีส่วนร่วมกับครีเอทีฟบางรายการมากกว่าหรือไม่?

เช่นแบรนด์ความงามที่ใช้โฆษณา Instagram อาจสังเกตเห็นว่าเนื้อหาวิดีโอนำไปสู่ Conversion มากกว่าภาพนิ่ง จากข้อมูลนี้ พวกเขาสามารถเปลี่ยนงบประมาณไปใช้โฆษณาวิดีโอได้มากขึ้น

ขั้นตอนที่ 4: ปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพ

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลของคุณแล้ว ให้ทำการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น ทดสอบรูปแบบโฆษณาใหม่ ปรับราคาเสนอ หรือเน้นกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันเพื่อดูว่าอะไรให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่ใช้โฆษณา Facebook อาจค้นพบว่าโฆษณาที่มีคำรับรองจากลูกค้ามีประสิทธิภาพดีกว่าโฆษณาที่มีเพียงรูปภาพอาหาร ด้วยข้อมูลเชิงลึกนี้ พวกเขาสามารถปรับปรุงโฆษณาของตนให้มีหลักฐานทางสังคมมากขึ้น

 

ประเภทของ Ads & Web performance tracking

Ads & Web performance tracking Type

Pixel-Based Tracking

วิธีนี้ใช้พิกเซลติดตามเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ มักใช้สำหรับการกำหนดเป้าหมายใหม่และการติดตาม Conversion เช่นแบรนด์อีคอมเมิร์ซมักใช้ Facebook Pixel เพื่อติดตามเมื่อผู้ใช้ดูผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ดำเนินการซื้อให้เสร็จสิ้น ทำให้พวกเขาสามารถแสดงโฆษณาการกำหนดเป้าหมายใหม่แบบส่วนบุคคลในภายหลังได้

 

UTM Tracking

พารามิเตอร์ UTM จะถูกเพิ่มไปยัง URL เพื่อติดตามแหล่งที่มา สื่อ และชื่อแคมเปญ วิธีนี้ช่วยให้คุณทราบว่าปริมาณการใช้งานของคุณมาจากที่ใด ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาบนโซเชียลมีเดียหรือแคมเปญอีเมลเช่น แบรนด์ฟิตเนสอาจใช้ลิงก์ UTM ในโฆษณา Instagram เพื่อดูว่ามีปริมาณการเข้าชมและยอดขายมากน้อยเพียงใดจากแพลตฟอร์ม

 

View-Through Conversions

การติดตามประเภทนี้จะบันทึก Conversion จากผู้ใช้ที่เห็นโฆษณา แต่ไม่ได้คลิกทันที ช่วยวัดการเปิดเผยแบรนด์และอิทธิพลระยะยาว เช่น บริษัทให้บริการทางการเงินที่ใช้โฆษณา YouTube อาจสังเกตเห็นผู้ใช้ที่เห็นโฆษณา แต่ทำการซื้อหลายสัปดาห์ต่อมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่ล่าช้าของแคมเปญวิดีโอของพวกเขา

 

ประโยชน์ของการติดตามโฆษณาคืออะไร? 

รู้จักลูกค้ามากขึ้น

การติดตามช่วยให้คุณเข้าใจว่าใครกำลังโต้ตอบกับโฆษณาของคุณ คุณสามารถวิเคราะห์อายุ เพศ สถานที่ และความสนใจ เพื่อปรับแต่งการกำหนดเป้าหมายของคุณให้ละเอียดขึ้น เช่นบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวสามารถใช้การติดตามโฆษณาเพื่อค้นพบว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลตอบสนองต่อโฆษณาที่มีแพ็คเกจการเดินทางผจญภัยได้ดีกว่าคนรุ่นเก่า

 

ปรับงบประมาณของคุณให้เหมาะสม 

การติดตามโฆษณาช่วยให้คุณจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการลงทุนในสิ่งที่ได้ผลมากขึ้น และลดแคมเปญที่ทำผลงานได้ไม่ดี

ตัวอย่างช่น บริษัทเทคโนโลยีอาจสังเกตเห็นว่า Google Ads นำไปสู่อัตรา Conversion ที่สูงกว่า LinkedIn Ads ซึ่งทำให้พวกเขาเปลี่ยนการใช้จ่ายโฆษณาไปที่ Google มากขึ้น

 

วัดความสำเร็จ

การติดตามเมตริก เช่น CTR และอัตรา Conversion ให้ตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโฆษณา ช่วยให้คุณวัดผลได้ว่าคุณบรรลุ KPI ของคุณหรือไม่

 

การทดสอบ A/B

การติดตามโฆษณาช่วยให้คุณทดลองใช้ครีเอทีฟพาดหัวข่าว และคำกระตุ้นการตัดสินใจที่แตกต่างกัน เพื่อดูว่าอะไรที่สอดคล้องกับผู้ชมของคุณมากที่สุด

 

ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการหลักสูตรออนไลน์อาจทำการทดสอบ A/B กับพาดหัวข่าวโฆษณาเพื่อดูว่า “เรียนรู้การเขียนโค้ดใน 30 วัน” ทำงานได้ดีกว่า “เรียนรู้การเขียนโค้ดอย่างรวดเร็ว” หรือไม่

 

การวางแผนอนาคต

 

ด้วยภาพที่ชัดเจนว่าอะไรใช้ได้ผลและอะไรไม่ได้ผล คุณสามารถวางแผนแคมเปญในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่ามีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

 

5 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการติดตามโฆษณา

1.ไม่เข้าใจค่า Metric

การมุ่งเน้นไปที่เมตริกที่ดูดี เช่น การแสดงผลหรือการคลิกโดยไม่วิเคราะห์ KPI ที่ลึกกว่า เช่น อัตรา Conversion อาจนำไปสู่การใช้จ่ายโฆษณาที่สูญเปล่า

2.ตั้งค่าแล้วลืม

แคมเปญต้องมีการตรวจสอบและปรับให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง การปล่อยให้โฆษณาทำงานโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอาจนำไปสู่ประสิทธิภาพที่ไม่ดี

3.มองข้ามการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

การปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งสำเนาโฆษณา หรือการกำหนดเป้าหมายในช่วงเวลาอื่นของวัน อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพ

4.ละเลยการทดสอบ A/B

การไม่ทดลองกับรูปแบบโฆษณาที่แตกต่างกัน หมายถึงการพลาดข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ

5.ไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด 

การไม่วิเคราะห์แคมเปญที่ผ่านมา และนำบทเรียนเหล่านั้นไปใช้กับความพยายามในอนาคต อาจส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำๆ กัน

 

สรุป

Ads tracking เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักการตลาดทุกคนที่มุ่งหวังที่จะเพิ่ม ROI ให้สูงสุด และบรรลุความสำเร็จที่ยั่งยืน โดยการทำตามกระบวนการที่มีโครงสร้าง ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไป คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณอย่างต่อเนื่อง และอยู่เหนือคู่แข่งได้ อย่าลืมติดตาม วิเคราะห์ และปรับตัวเพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาของคุณส่งมอบคุณค่าสูงสุด การมีเครื่องมือ  Ads & Web performance tracking อย่างเช่น Connect X จะช่วยให้แบรนด์ของคุณสามารถติดตามแคมเปญของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

    Yearly Budget

    How do you know us?

    เคล็ดลับปิดการขายได้มากขึ้นด้วยระบบจัดการแชท Social Chat

    ระบบจัดการแชท-Social-Chat

    เคล็ดลับปิดการขายได้มากขึ้นด้วยระบบจัดการแชท Social Chat 

    ในยุคดิจิทัลที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ระบบจัดการแชท Social Chat หรือแพลตฟอร์มแชทบนโซเชียลมีเดียมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในการเชื่อมต่อกับลูกค้า แพลตฟอร์มอย่าง WhatsApp, Facebook Messenger, LINE และแม้แต่ Direct Messaging ของ Instagram ได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่แบรนด์มีส่วนร่วมกับผู้บริโภค เครื่องมือแชทเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับตอบคำถามเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ ปิดการขาย และขยายฐานลูกค้าของคุณ แต่ธุรกิจของคุณจะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจ 5 วิธีในการตอบแชทของลูกค้าที่จะช่วยให้คุณปิดการขายได้มากขึ้นและทำให้แบรนด์ของคุณเติบโต

     

    5 วิธีในการตอบแชทลูกค้าบนระบบจัดการแชท ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณปิดการขายและขยายฐานลูกค้าได้

    ตอบกลับอย่างรวดเร็วและครบถ้วนด้วยระบบจัดการแชท!

    ความรวดเร็วคือทุกสิ่ง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าลูกค้าคาดหวังการตอบกลับภายในไม่กี่นาที ไม่ใช่เป็นชั่วโมง การตอบกลับที่รวดเร็วไม่เพียงแต่เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังลดโอกาสที่พวกเขาจะหันไปหาคู่แข่งอีกด้วย

    ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าสอบถามเกี่ยวกับความพร้อมของสินค้าผ่าน Facebook Messenger และคุณตอบกลับภายใน 5 นาทีพร้อมรายละเอียดที่จำเป็นทั้งหมด เช่น ข้อมูลเฉพาะของสินค้า ตัวเลือกการจัดส่ง และโปรโมชั่นใดๆ คุณไม่เพียงแค่ตอบคำถาม แต่คุณกำลังผลักดันการสนทนาไปสู่การซื้อที่มีศักยภาพ ธุรกิจที่ใช้ระบบจัดการแชท ที่มีการรวมแชทการโต้ตอบเหมือนลูกค้าสามารถจัดการกับคำถามที่พบบ่อยได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่พลาดโอกาสในการขาย

    เพิ่มโอกาสทางธุรกิจของคุณ

    เมื่อแชทกับลูกค้า ให้คิดนอกเหนือจากการตอบคำถามปัจจุบัน มองหาโอกาสในการขายเพิ่ม ขายข้าม หรือแนะนำสินค้าหรือบริการใหม่ การสนทนาเป็นประตูสู่โอกาสที่สำคัญกว่า หากจัดการอย่างชาญฉลาด

    ตัวอย่างเช่น ลูกค้าสอบถามเกี่ยวกับขนาดรองเท้า และการตอบกลับของคุณอาจรวมถึงคำแนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่พวกเขาอาจชอบ เช่น ถุงเท้า ชุดทำความสะอาด หรืออุปกรณ์เสริมพิเศษ เป็นการเปลี่ยนคำถามง่ายๆ ให้เป็นการขายหลายผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าสูงสุดของการสนทนาแต่ละครั้ง ใช้เครื่องมืออย่าง ConnectX ที่ผสานรวมกับระบบจัดการแชท เพื่อติดตามพฤติกรรมของลูกค้าและแนะนำข้อเสนอส่วนบุคคลแบบเรียลไทม์

    รู้จักการถามคำถามและแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม

    การตอบกลับแชทของคุณควรนำการสนทนาไปข้างหน้าเสมอ การถามคำถามที่ถูกต้องช่วยให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น ช่วยให้คุณสามารถนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของสินค้า การกำหนดราคา หรือนโยบายต่างๆ

    ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าลังเลที่จะซื้อ ให้ถามคำถามนำทาง เช่น “คุณมีความกังวลอะไรเกี่ยวกับสินค้านี้” หรือไม่ “มีคุณสมบัติใดที่คุณกำลังมองหาเป็นพิเศษหรือไม่” วิธีนี้จะเปิดบทสนทนาที่สามารถนำไปสู่การแก้ไขข้อสงสัยและปิดการขายได้ การแก้ปัญหาควรทำอย่างรวดเร็วและเป็นมืออาชีพ ใช้ภาษาที่ชัดเจน หลีกเลี่ยงศัพท์แสง และแสดงความสนใจอย่างแท้จริงในการช่วยเหลือลูกค้า

    กำหนดเงื่อนไขการบริการหลังการขายให้ชัดเจน

    ลูกค้าให้ความสำคัญกับความโปร่งใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงบริการหลังการขาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้อธิบายนโยบายของคุณเกี่ยวกับการคืนสินค้า การรับประกัน และการสนับสนุนลูกค้าอย่างชัดเจนระหว่างการโต้ตอบทางแชท

    ตัวอย่างเช่น ลูกค้าอาจสอบถามเกี่ยวกับนโยบายการคืนสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ หากคำตอบของคุณมีข้อความว่า “เรามีนโยบายการคืนสินค้า 30 วันสำหรับสินค้าทั้งหมด และทีมงานของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ” จะช่วยให้มั่นใจได้ การสำรองข้อมูลนี้ด้วยสื่อช่วยภาพหรือหน้าเพจข้อมูลที่ครบครัน เช่น ระบบจัดการแชท Social Chat ของ Connect ที่มีระบบ AI ช่วยตอบคำถามที่ลูกค้าสอบถามประจำ ผ่านการแชทช่วยเพิ่มความชัดเจนและสร้างความไว้วางใจ

    อย่าลืมสร้างฐานลูกค้าเพิ่ม

    ทุกการโต้ตอบกับลูกค้าเป็นโอกาสในการสร้างความภักดีและรับการแนะนำ กระตุ้นให้ลูกค้าที่พึงพอใจแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขาและเสนอสิ่งจูงใจสำหรับการนำธุรกิจใหม่เข้ามา

    ตัวอย่างเช่น หลังจากการขายที่ประสบความสำเร็จ ให้ถามลูกค้าว่า “กรุณาแสดงความคิดเห็นหรือคุณจะแนะนำเราให้เพื่อนของคุณทราบหรือไม่? เรามีส่วนลดสำหรับการซื้อในอนาคตสำหรับการแนะนำ!” ไม่ใช่แค่การปิดการขาย แต่เปลี่ยนลูกค้าของคุณให้เป็นผู้สนับสนุนแบรนด์ของคุณ ระบบจัดการแชท Social Chat สามารถอำนวยความสะดวกได้อย่างง่ายดายโดยการแชร์ลิงก์อ้างอิงหรือรหัสส่งเสริมการขายโดยตรงภายในแชท

     

    สรุป

    การตอบแชทลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นศิลปะที่สามารถขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจได้ ด้วยการตอบกลับอย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการขายเพิ่ม แก้ไขปัญหา กำหนดเงื่อนไขการบริการอย่างชัดเจน และสร้างความภักดีของลูกค้า แบรนด์ของคุณสามารถเติบโตได้ในตลาดดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง แพลตฟอร์มแชทโซเชียล เช่น ConnectX ระบบรวมแชท มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษสำหรับแบรนด์ที่ต้องการจัดการข้อมูลลูกค้าในทุก Touch Point ด้วยความสามารถเฉพาะของ CDP (Customer Data Platform) ConnectX Social Connect ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถติดตาม วิเคราะห์ และปรับเปลี่ยนการโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น ด้วยการใช้ประโยชน์จาก ConnectX ธุรกิจต่างๆ สามารถเปลี่ยนแชทในชีวิตประจำวันให้เป็นโอกาสที่มีค่า ปิดการขายได้มากขึ้น และขยายฐานลูกค้าได้อย่างง่ายดาย

      Yearly Budget

      How do you know us?

       

      API Connect Platform Connect ลูกค้า สู่ความสำเร็จ

      API Connect Platform Connect ลูกค้า สู่ความสำเร็จ

      API Connect Platform Connect ลูกค้า สู่ความสำเร็จ

      ในยุคดิจิตัลที่การแข่งขันทางธุรกิจเข้มข้น การทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กร โดยเฉพาะในระดับบริษัทมหาชนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว การใช้ API หรือ Application Programming Interface เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเชื่อมต่อข้อมูลแบบ Real-time ทำให้การดำเนินงานในทุกด้านขององค์กรเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่สะดุด และเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจและการทำงานได้อย่างมากมาย

      API: กุญแจสู่การเชื่อมต่อในยุคดิจิทัล

      API Connect เป็นกลไกที่ช่วยเชื่อมต่อโปรแกรมสองตัวเข้าด้วยกัน เช่น ระบบซอฟต์แวร์ขององค์กรกับแอปพลิเคชันมือถือ API ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

      การเชื่อมต่อข้อมูลแบบ Real-Time ด้วย API

      API การเชื่อมต่อข้อมูลแบบ real-time คือกระบวนการที่ข้อมูลถูกส่งและรับทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การอัปเดตสถานะการสั่งซื้อ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลลูกค้า หรือการรับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ API ช่วยให้ข้อมูลเหล่านี้สามารถไหลเวียนได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรอการอัปเดตรายวันหรือรายชั่วโมง ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างทันทีและแม่นยำ

       

      ตัวอย่างการใช้งานที่เห็นได้ชัดคือแอปพยากรณ์อากาศที่ดึงข้อมูลสภาพอากาศรายวันจากซอฟต์แวร์ขององค์กรอุตุนิยมวิทยาผ่าน API ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลอัปเดตที่เป็นปัจจุบันได้ตลอดเวลา

      ประโยชน์ของ API ในการเชื่อมต่อข้อมูล

      1. Integration (การผสานรวม): API ช่วยให้แอปพลิเคชันใหม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบซอฟต์แวร์ที่มีอยู่แล้วได้อย่างง่ายดาย ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบใหม่ตั้งแต่ต้น
      2. Innovation (นวัตกรรม): ด้วยความยืดหยุ่นของ API นักพัฒนาสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดธุรกิจและบริการรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
      3. Expansion (การขยายตัว): API ช่วยให้การขยายธุรกิจหรือองค์กรทำได้ง่ายขึ้น โดยสามารถเชื่อมต่อระบบใหม่เข้ากับระบบเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ
      4. Maintenance (การบำรุงรักษา): API ช่วยให้การบำรุงรักษาระบบเป็นไปอย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับปรุงส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบได้โดยไม่กระทบต่อส่วนอื่น ๆ

      API Connect: เครื่องมือที่เชื่อมต่อธุรกิจและลูกค้า

      ในยุคที่การเชื่อมต่อข้อมูลเป็นหัวใจของความสำเร็จ API Connect จึงเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ทันที สร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

       

      ด้วยการใช้ API Connect ธุรกิจสามารถ:

      • รวมแอปพลิเคชันใหม่เข้ากับระบบที่มีอยู่แล้ว
      • เชื่อมต่อข้อมูลแบบ real-time
      • พัฒนานวัตกรรมและบริการใหม่ ๆ
      • ขยายธุรกิจได้อย่างราบรื่น
      • บำรุงรักษาระบบได้อย่างง่ายดาย

      API Connect เชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าไม่มีสะดุด

      API Connect ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานขององค์กรในยุคดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ยังเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด ด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลแบบ real-time ผ่าน API องค์กรสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ทันที สร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการสร้างความสำเร็จของธุรกิจในปัจจุบัน

       

      สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

      เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

      Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

        Yearly Budget

        How do you know us?

         

        Data Warehouse คลังเก็บข้อมูล สู่ความสำเร็จธุรกิจยุคดิจิตัล

        Data warehouse คลังเก็บข้อมูล

        Data Warehouse: เก็บข้อมูล เข้าใจลูกค้า เอาชนะคู่แข่งในยุคดิจิตัล

        ในยุคดิจิตัลที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าและสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อเอาชนะคู่แข่งได้ ในบทความนี้ Connect-X จะมาพูดถึงความสำคัญของการใช้ Data Warehouse หรือ คลังเก็บข้อมูลลูกค้า ในการทำความเข้าใจและวิเคราะห์พฤติกรรมดิจิตัลของลูกค้า

        ความสำคัญของ Data Warehouse คลังเก็บข้อมูลลูกค้าในยุคดิจิตัล

        1. การเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ

        Data Warehouse เป็นระบบที่สามารถเก็บข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการทำธุรกรรม, การใช้งานเว็บไซต์, การโต้ตอบกับฝ่ายบริการลูกค้า และข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย ด้วยการรวมข้อมูลทั้งหมดนี้ไว้ในที่เดียว ทำให้ผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น

        2. การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า

        การวิเคราะห์ข้อมูลใน Data Warehouse สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีค่าในการสร้างกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ เช่น การระบุแนวโน้มการซื้อสินค้า, การเข้าใจความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา และการคาดการณ์พฤติกรรมในอนาคต

        3. การปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า

        ด้วยข้อมูลที่ได้จาก Data Warehouse บริษัทสามารถปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงบริการ, การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการ หรือการสร้างโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าบริษัทเข้าใจและใส่ใจในความต้องการของพวกเขา

        การเอาชนะคู่แข่งด้วย Data Warehouse

        1. การสร้างความแตกต่างด้วยข้อมูลที่ชัดเจน

        การใช้ Data Warehouse ช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ไม่สามารถหาได้ง่าย ๆ ข้อมูลนี้สามารถนำไปใช้ในการวางแผนและตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน

        2. การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด

        การมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและแม่นยำจะช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

        3. การสร้างกลยุทธ์ที่ยั่งยืน

        ข้อมูลจาก Data Warehouse สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนและสร้างกลยุทธ์ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในระยะยาว

        Data Warehouse คลังข้อมูลลูกค้าของธุรกิจยุคดิจิตัล

        Data Warehouse หรือ คลังเก็บข้อมูลลูกค้า เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการทำความเข้าใจและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิตัล ด้วยการเก็บข้อมูลที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้ ผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวางแผนกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก Data Warehouse ยังช่วยสร้างความแตกต่างและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ทำให้บริษัทสามารถเอาชนะคู่แข่งและสร้างความสำเร็จในยุคดิจิตัลได้อย่างยั่งยืน

         

        สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

        เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

        Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

          Yearly Budget

          How do you know us?

          Experience Marketing : กลยุทธ์สร้างความประทับใจสู่การตลาดที่ยั่งยืน

          Experience Marketing : กลยุทธ์สร้างความประทับใจสู่การตลาดที่ยั่งยืน

          Experience Marketing : กลยุทธ์สร้างความประทับใจสู่การตลาดที่ยั่งยืน

          ในยุคดิจิตัลที่การแข่งขันทางการตลาดมีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการตลาดดิจิตัล การตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้า ด้วยแนวคิดที่ว่า “ลูกค้าซื้อประสบการณ์ ไม่ใช่ตัวสินค้า” ทำให้การตลาดเชิงประสบการณ์ ‘Experience Marketing’ กลายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญและได้รับความสนใจมากขึ้น การตลาดแบบ Experience Marketing นี้เป็นยังไง? และทำยังไงให้ยั่งยืน? วันนี้ Connect-X จะมาเล่าให้ฟัง

          ทำไม Experience Marketing ถึงสำคัญ?

          Experience Marketing เป็นการตลาดที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ผ่านการให้ประสบการณ์ที่มีคุณค่า การทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมและประทับใจในทุกจุดที่สัมผัสกับแบรนด์มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ อารมณ์ และพฤติกรรมของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการให้ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้า การจัดกิจกรรมพิเศษ หรือการสร้างบรรยากาศที่น่าดึงดูดใจ

           

          ตัวอย่างเช่น แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ IKEA ที่ให้ลูกค้าประกอบเฟอร์นิเจอร์เอง สร้างความภูมิใจและผูกพันกับสินค้า หรือ Haidilao ร้านอาหารสัญชาติจีนที่ให้บริการอย่างเต็มที่และสร้างความประทับใจในระหว่างการรอคิว เหล่านี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังของ Experience Marketing ในการสร้างความทรงจำที่ดีและนำไปสู่ Loyalty Customer ในที่สุด

          การใช้ Marketing Automation ในการสร้าง Experience ที่ดีกับลูกค้า

          การนำ Marketing Automation มาใช้ร่วมกับกลยุทธ์ Experience Marketing ช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการจัดการข้อมูลลูกค้า (Customer Data) และการวิเคราะห์เชิงลึก ธุรกิจสามารถทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละคนและตอบสนองตามความต้องการได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

          การจัดการข้อมูลลูกค้า (Customer Data Management)

          ใช้ Customer Data Platform หรือ CDP ช่วยให้การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องง่าย ทำให้เราสามารถทราบและเข้าใจถึงพฤติกรรม ความต้องการ และความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างละเอียด การใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยในการสร้างแคมเปญที่ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในแบบฉบับ Experience Marketing ได้อย่างแน่นอน

          การสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว (Personalized Experience)

          ด้วยข้อมูลที่ได้รับจาก CDP ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าแต่ละคน (Personalized Experience) เช่น การส่งข้อเสนอพิเศษหรือเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของลูกค้า การทำเช่นนี้ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและการมีส่วนร่วมของลูกค้า โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่าน Marketing Connect

          การติดตามและเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้า (Customer Journey)

          Customer Journey ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามผลและประเมินประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับได้อย่างต่อเนื่อง การใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับปรุงบริการและสินค้าให้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความประทับใจผ่าน Experience Marketing ที่จะนำไปสู่ Loyalty Customer ซึ่งคือความยั่งยืนทางการตลาดในที่สุด

          ตัวอย่างการใช้ Experience Marketing กับ Marketing Automation

          การจัดกิจกรรมออนไลน์

          ธุรกิจสามารถใช้ Marketing Automation ในการวางแผนและจัดการกิจกรรมออนไลน์ เช่น การสัมมนาออนไลน์หรือการทดลองใช้สินค้าออนไลน์ โดยสามารถส่งคำเชิญและติดตามการเข้าร่วมของลูกค้า รวมถึงเก็บข้อมูลเพื่อปรับปรุงกิจกรรมสร้างประสบการณ์ที่ดีแบบ Experience Marketing ในอนาคต

          การให้บริการลูกค้าแบบเรียลไทม์

          Marketing Automation ช่วยในการติดตามและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในเวลาจริง เช่น การใช้ Chatbot เพื่อให้ข้อมูลและคำปรึกษา หรือการใช้ระบบตอบกลับอัตโนมัติเพื่อจัดการกับคำถามหรือปัญหาของลูกค้าอย่างรวดเร็วให้ลูกค้าไม่ต้องรอนาน ก็สร้างความประทับใจสู่การตลาดที่ยั่งยืนได้เหมือนกัน

          การวิเคราะห์และปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า

          ด้วยข้อมูลที่ได้รับจาก Marketing Automation ธุรกิจสามารถวิเคราะห์และเข้าใจถึงจุดที่ลูกค้าพึงพอใจและจุดที่ต้องปรับปรุง การใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยในการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการบริการลูกค้าในฉบับ Experience Marketing ได้อีกด้วย

          Experience Marketing สร้างความประทับใจสู่การตลาดที่ยั่งยืน

          Experience Marketing การตลาดเชิงประสบการณ์ เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจในยุคดิจิตัล โดยการผสาน Marketing Automation เข้ากับกลยุทธ์นี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น การสร้างความได้เปรียบในตลาดโดยนำ Experience Marketing และ Marketing Automation มาใช้ร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าในการจัดการข้อมูล สร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว และติดตามผลการทำงาน ธุรกิจสามารถสร้างความประทับใจและความ Loyalty ต่อแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดปัจจุบัน

           

          สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

          เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

          Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

            Yearly Budget

            How do you know us?

            ระบบรวมแชท กุญแจสำคัญเปิดประตูความสำเร็จธุรกิจยุคดิจิตัล

            ระบบรวมแชท ระบบจำเป็นของทุกธุรกิจ

            ระบบรวมแชท กุญแจสำคัญเปิดประตูความสำเร็จธุรกิจยุคดิจิตัล

            ระบบรวมแชท สำคัญและมีบทบาทในโลกธุรกิจออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหัวใจของธุรกิจในโลกออนไลน์นี้คือ ‘แชท’ ช่องทางการสื่อสารที่เข้ามามีบทบาทอย่างสูงกับธุรกิจในทุกรูปแบบที่ต้องสื่อสารกับลูกค้าทางออนไลน์ ดังนั้น ระบบรวมแชทเลยกลายมาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับทุกธุรกิจที่จะพัฒนาระบบสื่อสารกับลูกค้าให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่วนใครที่ยังมีคำถามว่า ระบบรวมแชททำงานยังไง? และจะตอบโจทย์ธุรกิจคุณจริงมั้ย? วันนี้ Connect-X จะมาเล่าให้ฟัง

            ระบบรวมแชท ระบบช่วยงานธุรกิจยุคดิจิตัล

            ระบบรวมแชทคือเครื่องมือที่รวมข้อความจากหลายช่องทาง เช่น Facebook Messenger, Line, Insatgram, และ Tiltokไว้ในที่เดียว ช่วยให้ธุรกิจจัดการและตอบสนองลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความซับซ้อนในการสื่อสารและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีมงานให้รวดเร็วและตรงจุดมากขึ้น

            คุยง่าย รวบรวมข้อความลูกค้าจากทุกช่องทาง

            ในโลกดิจิตัลที่ธุรกิจต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด การสื่อสารกับลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ Social Connect ระบบรวมแชท เครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถรวบรวมข้อความจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook Messenger, Line, Instagram, และ Tiktok เข้าด้วยกัน ทำให้ทีมงานสามารถตอบกลับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และไม่พลาดข้อความสำคัญ

            ขายคล่อง เข้าใจลูกค้า ปิดดีลเร็ว ไม่ยุ่งยาก

            ระบบรวมแชทไม่เพียงแค่ช่วยให้การสื่อสารสะดวกขึ้น แต่ยังช่วยให้การขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การรวบรวมข้อความจากทุกช่องทางในที่เดียวทำให้ทีมขายสามารถติดตามและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันที นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีมงานมีข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับลูกค้า ทำให้สามารถเสนอขายสินค้าและบริการได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่าช่วยให้ปิดดีลได้เร็วและง่ายขึ้นอีกด้วย

            จัดเรียงระบบระเบียบให้ทำงานสะดวกขึ้น

            การมีข้อมูลลูกค้าที่กระจัดกระจายอาจทำให้การจัดการยากลำบาก ระบบรวมแชทช่วยให้การจัดเก็บและค้นหาข้อมูลเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทีมงานสามารถติดตามประวัติการสนทนาได้อย่างเป็นระเบียบและสามารถจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดความซับซ้อนและความผิดพลาดในการสื่อสาร ทำให้ทีมงานสามารถทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

            ระบบรวมแชท เปิดประตูสู่ความสำเร็จของธุรกิจยุคดิจิตัล

            การใช้ Social Connect ระบบรวมแชทเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ธุรกิจยุคดิจิตัลไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยให้การสื่อสารกับลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ การใช้ระบบรวมแชทช่วยให้ทีมงานสามารถจัดการกับข้อความลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

            สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

            เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

            Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

              Yearly Budget

              How do you know us?

               

               

              CDP กุญแจสำคัญ พาธุรกิจ Real Estate ก้าวกระโดด

              CDP กุญแจสำคัญ พาธุรกิจ Real Estate

              CDP กุญแจสำคัญ พาธุรกิจ Real Estate ก้าวกระโดด

                   ธุรกิจ Real Estate ในปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง การมี Customer Data Platform หรือ CDP ที่สามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากช่องทางต่างๆที่อยู่กระจายไปทั้ง Online และ Offline ไว้ใน platform เดียวและแสดงผลข้อมูลทั้งหมดของลูกค้าทุกคนให้อยู่ในที่เดียวจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในด้านการพัฒนาธุรกิจและการเติบโตของยอดขาย เช่นเดียวกับลูกค้าในธุรกิจ Real Estate ของ Connect X ที่มีการนำ CDP จาก Connect X เข้ามาใช้เพื่อเก็บ Customer Data ตั้งแต่ต้นทางไม่ว่าจะเป็น Customer Interest and Behavior จาก Feature Social Media และ Ads&Website Tracking ไปจนถึงการเก็บ Customer Profile ของลูกค้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าธุรกิจ Real Estate ในปัจจุบันมีการยิงโฆษณาผ่านทาง Online มากขึ้นทั้ง Social Media ช่องทางต่างๆและ Website ทำให้ข้อมูลลูกค้าที่เก็บมาได้นั้นกระจายไปอยู่ทุกช่องทาง ซึ่งการนำ CDP มาใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลไว้ใน Platform เดียวนั้นจึงเป็นตัวช่วยในการลดปัญหาเรื่องข้อมูลลูกค้าที่อยู่กระจัดกระจายตามช่องทางต่างๆได้และยังช่วยให้สามารถนำข้อมูลไปใช้งานต่อได้สะดวกมากขึ้น

               

              CDP Real Estate

               

                   นอกเหนือจากส่วนที่เก็บรวบรวมข้อมูลแล้ว CDP ยังช่วยส่งเสริมทำให้ Customer Data มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้เมื่อลูกค้ามีการเข้ามา Browsing บน Website ไม่ว่าจะมาจาก Ads หรือจากการ Search ใน Website ซึ่งในขั้นตอนนี้ระบบจะยังไม่รู้จักลูกค้าและเรียกลูกค้ากลุ่มนี้ว่าเป็น Unknown Customer และจะทำการเก็บ Cookie ID รวมถึง Customer Interest and Behavior ไว้เพื่อดูว่าลูกค้าสนใจ Website หน้าไหนหรือสินค้าอะไรบ้าง และเมื่อลูกค้าสนใจสินค้าภายใน Website นั้นและกดเข้ามาดูสินค้าพร้อมกับ Drop Form เข้ามา ระบบก็จะสามารถเก็บ Customer Profile มาได้ทั้ง ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และ E-mail ของลูกค้ารวมไปถึง Requirement ต่างๆที่ลูกค้าต้องการได้ ทำให้จาก Unknown Customer เปลี่ยนมาเป็น Known Customer และข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในขั้นตอนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการให้ Sales โทรไปเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการตามที่ลูกค้าแจ้ง Requirement มาได้อย่างตรงจุด หรือการทำ Audience Segmentation เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าและต่อยอดในการนำไปทำ Marketing Automation เพื่อส่ง Personalized Engagement ไปให้ลูกค้าได้ตรงจุดเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกค้าในธุรกิจ Real Estate บางคนสนใจบ้าน บางคนต้องการดูคอนโด หรือบางคนที่มองหาที่อยู่เช่น อยากได้อาศัยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ, งบประมาณไม่เกิน 3 ล้าน, อยากได้ที่พักเป็นคอนโด ก็สามารถส่ง Ads, โปรโมชั่นหรือข้อมูลที่มีความเฉพาะเจาะจงให้กับลูกค้าแต่ละคนได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถดูประสิทธิภาพของ Campaign Performance ที่มีการลงไปในแต่ละเดือนว่ามี Conversion กลับมาเท่าไหร่ได้ด้วย

                   ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคที่ธุรกิจถูกขับเคลื่อนด้วย Data การใช้ Customer Data Platform ที่สามารถจัดการและเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าไว้ได้ในที่เดียว เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่ง CDP ของ Connect X นอกจากจะสามารถเก็บรวมรวมข้อมูลได้แล้วยังมี Features ที่ตอบโจทย์ไม่ว่าจะเป็น Social Media , Ads&Web Tracking รวมไปถึงการทำ Audience Segmentation เพื่อต่อยอดในการทำ Marketing Automation ซึ่งช่วยในเรื่อง Marketing Campaign และทำให้ได้ Engagement จากลูกค้ากลับมามากขึ้น 40% และที่สำคัญที่สุดคือช่วยเรื่องการเติบโตของยอดขายได้มากถึง 25% นอกจากประโยชน์ในด้านการเติบโตของธุรกิจแล้ว CDP ยังเข้ามาช่วยเรื่องการทำงานให้สะดวกมากขึ้นและประหยัดเวลาได้ด้วย

               

              สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

              เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

              Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

                Yearly Budget

                How do you know us?

                 

                เริ่มใช้ GenAI Chat สำหรับองค์กรได้ ด้วย Connect X 

                Generative AI Chatbot

                เริ่มใช้ GenAI Chat สำหรับองค์กรได้ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ด้วย Connect X 

                Generative AI Chatbot คือการใช้ AI เพื่อตอบคำถามและตอบโต้กับลูกค้าขององค์กรหรือธุรกิจได้ง่ายๆ ซึ่งครอบคลุมรายละเอียดของสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าต้องการทราบ และสามารถปิดการขายได้เลยทีเดียว โดยความสามารถของ Generative AI Chatbot นั้นไม่ใช่แค่การตอบตาม keyword แต่สามารถตอบโต้ได้เสมือนคน หรือเป็นแอดมินคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่าการเรียนรู้ของ GenAI Chat ของ Connect X นั้นสามารถใส่ข้อมูลที่ต้องการให้ AI ตอบได้ทั้งหมด เพื่อให้เรียนรู้เนื้อหาที่ครอบคลุมครบทุกส่วน และสามารถ Update ข้อมูล หรือเพิ่มข้อมูลใหม่ได้ไม่จำกัด เมื่อมีลูกค้าทักเขามาสอบถาม AI จะประมวลผลและตอบคำตอบที่ดีที่สุดออกไป และสามารถตอบกลับได้แบบ 24/7 ซึ่งจะช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและเป็นผลดีต่อองค์กรหรือธุรกิจ ทั้งยังเพิ่มโอกาสการขายต่างๆได้อีกมากมาย

                Generative AI Chatbot ยังสามารถปรับใช้การสื่อสารได้หลากหลายรูปแบบ เช่น….
                – GenAI for Sales
                – GenAI for Customer Service
                – GenAI for Employee Assistance
                โดยสามารถปรับได้ตามการใช้งาน ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆก็คือ…

                GenAI for Sales

                เป็นการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อการขาย หรือการให้ข้อมูลต่างๆ ของบริการและสินค้า และยังสามารถใช้ร่วมกับ Social Media Platform อย่าง Facebook, Line OA, Live Chat ที่เป็นช่องทางการติดต่อของทางแบรนด์ได้อีกด้วย

                GenAI for Customer Service

                ในส่วนนี้จะเน้นการให้บริการเรื่องข้อมูลต่างๆ ซึ่งสะดวกสำหรับลูกค้าที่ต้องการสอบถามข้อมูลผ่าน Social Media ทำให้ลูกค้าไม่ต้องรอนานในการตอบกลับคำถามนั้นๆ และ AI จะช่วยให้ลูกค้าได้คำตอบอย่างที่ต้องการและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากเลยทีเดียว หรือหากมีปัญหาที่ AI ไม่สามารถดูแลได้เพราะเป็นปัญหาเฉพาะเจาะจง ระบบก็สามารถส่งเคสไปให้กับ Customer Service (คนดูแล) จัดการได้ต่อแบบไม่มีสะดุด

                GenAI for Employee Assistance

                เป็นความสามารถในการตอบคำถามต่างๆและสามารถปรับใช้กับพนักงานในองค์กรได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎข้อบังคับต่างๆของ HR หรือ ข้อมูลที่ใช้ในการทำงานขององค์กร ส่งผลให้การทำงานขององค์กรจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ช่วยลดปัญหาเรื่อง Process งานที่ไม่ชำนาญ ให้แต่ละฝ่ายทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใส่ข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น การเบิกเงิน กระบวนการขั้นตอนการทำงานของทุกฝ่าย การสั่งซื้อต่างๆ หรือการขอออกเอกสารให้กับลูกค้าและอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงเมื่อพนักงานมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไรก็สามารถพิมพ์ถาม AI ได้ทันที ซึ่งสะดวกและง่าย อีกทั้งยังลดต้นทุนได้มากเลยทีเดียว

                ทั้งหมดนี้คือการพัฒนา Chatbot ของ Connect X ให้มีความก้าวหน้าด้วยการใช้ AI เข้ามาช่วย นี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบ CDP ของเราให้เราประสิทธิภาพ และแน่นอนว่าเราไม่หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ ครั้งหน้ามีอะไรเจ๋งเราจะมาเล่าให้ฟังอย่างแน่นอนเลยทีเดียว

                สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

                เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

                Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

                  Yearly Budget

                  How do you know us?