Category Archives: Marketing Automation

อยากทำ Email Marketing ให้ประสบความสำเร็จ ต้องระวัง 5 สิ่งนี้

หนึ่งในวิธีการที่มีความน่าสนใจแต่นักการตลาดรุ่นใหม่หลายคนมักมองข้ามคือการทำ Email Marketing หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “การตลาดผ่านอีเมล” เพราะอย่าลืมว่าอีเมลเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีอยู่ในแทบทุกองค์กรด้วยความที่เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการสื่อสารทางธุรกิจ ต้องบอกว่าการตลาดผ่านอีเมลนี้ไม่เพียงแค่ช่วยในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มจำนวน Traffic บนเว็บไซต์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ แถมยังเป็น Organic Traffic แบบที่ไม่ต้องเสียเงินโปรโมตแคมเปญใดๆ แม้แต่สตางค์เดียว

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน เป็นการเปลี่ยนผ่านจากโลกการค้าขายแบบ Analog ไปสู่ยุค Digital Transformation โดยสมบูรณ์ ทำให้รูปแบบของการทำการตลาดของนักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ ได้เปลี่ยนโฉมตามไปด้วยเช่นกัน และหนึ่งในแนวโน้มสำคัญที่เกิดขึ้นคือการที่กลุ่มธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมต่างใช้เทคโนโลยีอย่าง Marketing Automation และระบบ CRM กันมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การจัดเก็บข้อมูลและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมไปถึงความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงจากการทำการตลาดแบบเดิมๆ แต่ต้องสามารถนำเสนอความต้องการที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากแบรนด์หรือนักการตลาดไม่ระวังข้อผิดพลาดเกี่ยวกับ EDM ผลลัพธ์ที่ควรจะดีอาจจะกลายเป็นเรื่องร้ายๆ ที่สายเกินแก้ไข ดังนั้นในวันนี้ Connect X จะพาทุกคนมารู้จัก 5 ข้อควรระวังเกี่ยวกับ EDM (Electronic Direct Mail Marketing) กัน เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์การตลาดของแบรนด์จะประสบความสำเร็จตลอดปี 2023 ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

1. เนื้อหาไม่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

นักการตลาดหลายคนที่เริ่มต้นทำ Email Marketing มักจะพุ่งเป้าไปที่การสื่อสาร แต่กลับละเลยเรื่องเล็กๆ ที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดคือ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายผู้ที่เป็นคนรับสาร เพราะต่อให้หัวข้อของอีเมลดูน่าสนใจและสร้างแรงดึงดูดได้มากแค่ไหน แต่ถ้าสาระสำคัญของเนื้อหาไม่สามารถให้คุณค่าหรือประโยชน์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้จริง ก็ไม่ต่างอะไรกับอีเมลสแปมที่ใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาที ก็กลายเป็นอีเมลที่อยู่ในถังขยะของลูกค้าไปแล้ว

โดยประเภทของการส่งอีเมลสามารถแบ่งได้ 3 รูปแบบ คือ

  • Information Email – เป็นการให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่ช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยอาจจะเกิดจากการกดรับสมัครติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ จากทางเว็บไซต์
  • Transactional Email – ส่วนมากจะเป็นอีเมลอัตโนมัติที่แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินซื้อสินค้าหรือบริการ
  • Navigation Email – เป็นอีเมลที่มีหน้าที่ในการนำทางกลุ่มเป้าหมายไปยังเว็บไซต์ เช่น อาจมีการเปิดเว็บไซต์ใหม่ อัปเดตฟีเจอร์สำคัญๆ หรือมีการให้บริการอะไรใหม่ๆ

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำ Email Marketing นั่นเอง

2. ต้องทดสอบด้วยวิธี A/B Testing ก่อนเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์วิธีใดก็ตาม การทำ A/B Testing ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ควรทำควบคู่กันไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นการทดสอบเพื่อจับจุดว่าเนื้อหา ข้อความ รูปภาพ และ CTA แบบไหนที่กลุ่มเป้าหมายสนใจมากกว่ากัน ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็จะสามารถปรับปรุงแก้ไขการทำ Email Marketing ต่อไปในอนาคตให้มีความน่าสนใจมากขึ้นได้

3. กลยุทธ์ต้องพร้อมก่อนส่งอีเมล

ใครที่คิดว่าการส่งอีเมลไม่เห็นจำเป็นต้องมีการวางแผนหรือคำนึงถึงกลยุทธ์การส่งอีเมล บอกได้เลยว่าความคิดดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่ย้อนกลับมาทำร้ายธุรกิจของคุณได้ในทันที ยกตัวอย่างเช่น หากแบรนด์ส่งอีเมลไปยังผู้ที่ไม่ต้องการที่จะได้รับอีเมลของเรา พูดง่ายๆ ก็คือ อยู่ดีๆ ก็มีอีเมลที่ไหนไม่รู้ส่งเข้ามาขายของ เชื่อได้เลยว่าร้อยทั้งร้อยก็กดลบอีเมลนั้นทิ้งเผลอๆ อาจกดปุ่ม Report เป็นของแถมด้วย ทำให้แบรนด์ต้องเสียเครดิตไป ดังนั้นหากแบรนด์มีเว็บไซต์ อาจตั้งค่าให้มีการกดรับสมัครหรือยินยอมในการรับอีเมลก่อนเสมอ เพื่อเป็นการล็อกกลุ่มเป้าหมาย แถมยังสามารถเก็บข้อมูลในส่วนนี้ นำมาแบ่งรายชื่อออกมาจัดกลุ่ม ใช้ระบบ Marketing Automation ช่วยในการติดตามผล ส่งอีเมลต่อในอนาคต

4. ให้ความสำคัญกับ Mobile First

อย่างที่รู้กันดีว่าเทรนด์ Mobile First กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการแสดงผลในทุกกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่การทำ Email Marketing ที่ต้องคำนึงถึงการแสดงผลอีเมลบนมือถือให้มีประสิทธิภาพที่ดีไม่ต่างกับบนเดสก์ท็อปและแท็บเล็ต แม้อาจจะดูเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่หากอีเมลมีการแสดงผลที่ไม่ดี หรือกลุ่มเป้าหมายไม่สามารถเข้าถึงหรือมองเห็นได้อย่างชัดเจน ก็อาจกลายเป็นการทิ้งโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของแบรนด์ต่อๆ ไปในอนาคต

5. ไม่ใส่ Alt ในภาพ

ในกรณีที่อีเมลของแบรนด์ที่มีเนื้อหาหลักเป็นภาพ อาจเกิดปัญหากับกลุ่มเป้าหมายบางคนที่มีการตั้งค่าปิดกั้นการมองเห็นรูปภาพ นั่นหมายความว่าในอีเมลนั้นจะไม่สามารถปรากฏเนื้อหาใดๆ ก็ตามบนหน้าจอ ฉะนั้นอีกหนึ่งเคล็ดลับคือการเพิ่ม Alt ให้กับรูปภาพทุกครั้งในการทำ Email Marketing

จบไปแล้วกับ 5 ข้อ ควรระวังเกี่ยวกับ EDM ที่ Connect X ได้นำมาฝากกัน ถ้าไม่อยากถูกคู่แข่งทิ้งห่างก็ถึงเวลาแล้วที่แบรนด์จะลองนำเทคนิคนี้ผสานเข้าไปในแผนการตลาดออนไลน์  เพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุด รับรองได้เลยว่า 5 ข้อด้านบนนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที

[/col] [/row]

6. บริการให้คำปรึกษาทั้งก่อนและหลัง

สำหรับวิธีเลือกระบบ CRM ข้อนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวแพลตฟอร์มโดยตรง อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยธุรกิจได้ โดยควรมี “ศูนย์บริการลูกค้า” ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำหรือการตอบคำถามของธุรกิจ มีการคลาสฝึกสอน (Training) ก่อนเริ่มต้นใช้งานระบบ รวมถึงเมื่อใช้งานระบบไปแล้ว แต่เกิดมีปัญหา ผู้ให้บริการก็ควรที่จะให้คำปรึกษาได้ สามารถติดต่อได้สะดวก และมีทางแก้ไขที่ชัดเจน ไม่ทิ้งกันไปกลางคัน

เมื่อได้อ่านทั้ง 5 ข้อนี้ไปแล้ว ทุกท่านคงจะตระหนักดีว่าการเลือกระบบ CRM นั้นอาจจะต้องใช้เวลาและความละเอียดรอบคอบในการพิจารณาก่อนตัดสินใจ ซึ่งถ้าใครเลือกได้แล้วว่าต้องการใช้ Customer Relationship Management ตัวไหน ก็สามารถวางแผนในการเริ่มซื้อและใช้งานได้เลย ซึ่ง Connect X ขอแนะนำให้กำหนดวันที่ติดตั้งชัดเจนและเชื่อมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้เรียบร้อยก่อนใช้งานจริง ให้ทีมงานได้ทำความคุ้นเคยกับตัวระบบและเตรียมความพร้อมข้อมูลเพื่อที่จะติดตั้งระบบใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

    Yearly Budget

    How do you know us?

    ระวัง 3 สิ่งนี้! ก่อน Marketing Automation จะทำร้ายลูกค้า

    การตลาดออนไลน์ในยุคนี้สามารถทำได้ง่ายมากกว่าแต่ก่อน เนื่องจากมีแพลตฟอร์มและเครื่องมือมากมายที่พัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกกับธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือการใช้ Marketing Automation ที่สามารถทำการตลาดได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำ Lead Scoring จัดกลุ่มลูกค้า (Segmentation) ส่งโปรโมชันและประชาสัมพันธ์ ไปจนถึงการบริการความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า ฯลฯ ทั้งหมดล้วนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเก่าอย่างเห็นได้ชัด

    แม้จะมีข้อดีและประโยชน์มากขนาดนี้ แต่หากใช้งาน Marketing Automation อย่างไม่ระมัดระวังก็อาจจะเป็นการทำร้ายลูกค้าแทน ทั้งด้านความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้จากแบรนด์ สงสัยแล้วใช่ไหมว่า ข้อควรระวังของ Marketing Automation มีอะไรบ้าง? ตาม Connect X มาดูคำตอบกัน! ซึ่งอย่างแรก มาดูข้อดีของ Marketing Automation กันเลย

    ข้อดีที่ทำให้ใครๆ ต่างใช้ Marketing Automation

    Marketing Automation หรือ “ระบบการตลาดแบบอัตโนมัติ” ก็คือแพลตฟอร์มหรือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งฟังก์ชันและฟีเจอร์นับไม่ถ้วน แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการตลาดด้านต่างๆ อาทิ

    • การเข้าถึง Potential Customer
    • การเก็บข้อมูลของลูกค้าและสร้างฐานข้อมูลให้กับธุรกิจ
    • ช่วยบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า ซึ่งมักมาพร้อมกับระบบ CRM
    • สร้างและส่งแคมเปญการตลาด เช่น Email Marketing, SMS, Web Push Notification รวมไปถึงการโฆษณาบนสื่อ Social Media ยอดฮิตต่างๆ
    • ช่วย Save Cost ทั้งด้านเงินลงทุนและเวลาในการสร้างแคมเปญการตลาดให้ประสบความสำเร็จ

    นอกจากนี้ระบบ AI ที่ทำงานแบบอัตโนมัติยังช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนอย่างการสร้าง Report การ Tracking ไปจนถึงการตอบกลับแชทข้อความของลูกค้า จึงสามารถลดความผิดพลาดที่เกิดจากคน (Human Error) ได้เป็นอย่างดี เห็นแล้วใช่ไหมว่าระบบ Marketing Automation นั้นเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจมากแค่ไหน โดยเฉพาะธุรกิจใหม่หรือ SME ที่มีงบประมาณไม่มาก ก็สามารถใช้ระบบการตลาดแบบอัตโนมัตินี้อัปเกรดตัวเองได้ให้แข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ๆ ในตลาดได้

    คราวนี้มาศึกษาข้อควรระวังต่างๆ กันเลย

    3 ข้อควรระวังของ Marketing Automation

    ก่อนที่ระบบ Marketing Automation จะช่วยแบรนด์ได้ดีอย่างที่กล่าวไปข้างต้น แต่ในหลายๆ กรณีก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นจากการใช้งาน ทำให้แบรนด์ต้องปวดหัวกับการหาโซลูชัน

    ยกตัวอย่างเช่น ระบบตอบกลับอัตโนมัติไม่สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้จริงๆ ทำให้แอดมินต้องมาตอบเอง ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อน หรือการยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย แต่กลับไม่มี Lead กลับเข้ามา เพราะแคมเปญนั้นๆ ไม่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และปัญหาร้อยแปดที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่เว้นแต่ละวัน สุดท้ายแล้วหลายๆ แบรนด์ไล่ตามการทำ Marketing Automation เพื่อหวังทำกำไร แต่กลับกลายเป็นว่าได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม ซึ่งมี 3 ข้อควรระวังในการใช้งานระบบการตลาดแบบอัตโนมัติดังนี้

    1. ไม่ทำความเข้าใจผู้บริโภคก่อนเริ่มทำแคมเปญ

    ความสะดวกสบายในการทำงาน คือ สิ่งที่ธุรกิจส่วนมากต้องการจาก Marketing Automation เพื่อลดภาระของตัวผู้ประกอบการที่ต้องดูแลในส่วนอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม ตัว Marketing Automation นั้นเป็นเพียงแค่ “ระบบ” เท่านั้น จึงไม่ได้เข้าใจว่าผู้บริโภคตอนนั้นอยากได้อะไร เช่น เวลามีปัญหาร้ายแรงหรือเร่งด่วน ลูกค้าก็อยากคุยกับคนที่เข้าใจถึงปัญหามากกว่า ดังนั้นการจะทำ Marketing Automation ให้มีประสิทธิภาพ คือการทำความเข้าใจ Customer Journey ของลูกค้าเสียก่อน เพื่อที่จะออกแบบการใช้งาน Marketing Automation ให้ถูกต้องและแม่นยำ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้นั่นเอง

    2. แบรนด์พึ่งพาระบบ Marketing Automation มากเกินไป

    การปล่อยให้ระบบ Marketing Automation ดูแลลูกค้าของเราหรือทำการตลาดแทนคนมากเกินไป มักเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้หลายๆ แบรนด์เคยสะดุดมาแล้ว เพราะแทนที่จะช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายขึ้นกลับทำให้ลำบากแทน เช่น มีการส่งโปรโมชันที่ลูกค้าคนนั้นๆ ไม่ได้สนใจ ระบบ AI ตอบแชทที่เป็นคำถามซับซ้อนไม่ได้ เป็นต้น ซึ่งต้องขอบอกว่า Marketing Automation ในปัจจุบันยังไม่มีความฉลาดหรือมีสัญชาตญาณที่เข้าใจมนุษย์ขึ้นมา ไม่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เหมือนกับมนุษย์เรา ดังนั้นก่อนที่จะนำระบบนี้เข้ามาช่วยในการทำการตลาด แบรนด์ต้องมีการวางแผนในจุดต่างๆ ให้รอบคอบก่อน พร้อมทดสอบการใช้งานก่อนนำไปใช้จริง

    3. ข้อมูล (Data) ที่มียังน้อยไป

    เข้าใจว่าเจ้าของแบรนด์ต่างต้องการให้ Marketing Automation ทำงานที่ซ้ำซ้อนแทน เช่น การยิงโฆษณาหรือแคมเปญการตลาด แต่บ่อยครั้งที่ธุรกิจมี “ข้อมูล” น้อยเกินไป ส่งผลให้กิจกรรมทางตลาดไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะดึงดูดลูกค้า ระบบเรียนรู้ได้อย่างจำกัดและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าไม่ได้ ทำให้เจ้าของแบรนด์มักเข้าใจผิดว่าระบบหรือแพลตฟอร์มที่ใช้นั้นไม่มีคุณภาพ ซึ่งแบรนด์และนักการตลาดต้องกลับมาย้อนดูว่า Data ของตัวเองนั้นมีใช้อย่างเพียงพอหรือไม่ Data ดังกล่าวนั้นถูกหรือไม่ เตรียมป้อน Data ทุกอย่างให้ระบบหรือยัง เพื่อทำให้ระบบสามารถต่อยอดและแสดงประสิทธิภาพให้ได้อย่างเต็มที่

    ทั้ง 3 ข้อควรระวังของ Marketing Automation นี้เป็นสิ่งที่เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดต้องทบทวนเสมอ ก่อนที่จะจำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้งานกับธุรกิจ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าแบรนด์จะสามารถสร้างแคมเปญการตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ กระตุ้นการขาย และเพิ่มกำไรให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างปัจจุบันได้

    แล้วผู้ให้บริการระบบ Marketing Automation เก่งๆ มีใครบ้าง? ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะ Connect X นั้นเป็น Marketing Platform ที่มาพร้อมกับ CDP (Customer Data Platform) ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้าแบบ 360 องศาและระบบ Marketing Automation ที่มี AI แสนฉลาด สามารถเรียนรู้และรู้ใจลูกค้าได้ง่ายๆ ประกอบกับเครื่องมือสื่อสารการตลาดแบบ Real-Time ช่วยเพิ่มยอดขายกับธุรกิจอย่างรวดเร็วทันใจ หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!

    [/col] [/row]

    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

    ตอบ 3 คำถามยอดฮิต Marketing Automation ที่เจ้าของธุรกิจสงสัย!

    Marketing Automation เป็นเครื่องมือที่ช่วยทุ่นแรงธุรกิจได้ดี แต่เจ้าของแบรนด์ต่างก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเครื่องมือนี้อยู่ วันนี้ Connect X จะมาตอบคำถามให้เอง

    การทำการตลาดออนไลน์หรือ Digital Marketing นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการสานสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม เก็บข้อมูลเชิงลึกของผู้ที่สนใจสินค้า ค้นหา Lead และส่งแคมเปญหรือโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อกระตุ้นการขาย

    สำหรับนักการตลาดสายดิจิทัลและเจ้าของธุรกิจคงพอทราบเกี่ยวกับ Marketing Automation กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับมือใหม่หรือคนกำลังสร้างแบรนด์ธุรกิจของตัวเอง อาจจะมีคำถามเกี่ยวกับ “การตลาดอัตโนมัติ” อยู่ไม่น้อย

    Connect X จะมาตอบข้อสงสัยยอดฮิตต่างๆ ที่เจ้าของธุรกิจมักสงสัยกัน แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่า จริงๆ แล้ว MA คืออะไรกันแน่?

    รู้จักกับ Marketing Automation

    MA หรือ การตลาดอัตโนมัติ หมายถึงเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำกิจกรรมทางการตลาดได้หลากหลาย ซึ่งจะช่วยประหยัดทั้งแรงงาน เวลา และงบประมาณที่แบรนด์ต้องลงทุน

    การตลาดอัตโนมัติสามารถเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และสร้างแคมเปญที่เฉพาะบุคคลได้ตรงจุด (Personalized Marketing) แล้วที่สำคัญยังสามารถตอบสนองได้ทันที (Real-Time) ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่ม Conversion และเพิ่มยอดขายในกับแบรนด์นั่นเอง

    เชื่อว่าเจ้าของแบรนด์อาจจะรู้สึกคุ้นขึ้นมากันบ้าง โดยเฉพาะแพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติผ่านอีเมล (Email Marketing) ที่มีให้เห็นกันบ่อยๆ แต่ระบบ MA นั้นสามารถส่งผ่านแคมเปญไปได้อีกหลายช่องทาง อาทิ SMS, Facebook, Instagram, Google Ads หรือแม้กระทั่ง Web Push Notification ที่สื่อสารด้วยข้อความและแจ้งเตือนแบบเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มลูกค้า (Customer segmentation) นั้นๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน จึงช่วยลดภาระการทำงานที่ซ้ำซ้อนได้ แถมยังเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากใน Touch Point ต่างๆ ได้พร้อมกัน เพิ่ม Conversion ยอดขาย และช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    เมื่อทราบกันแล้วว่าระบบ MA สามารถใช้ประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไรได้บ้าง มาดูคำถามและคำตอบที่หลายคนมีเกี่ยวกับเครื่องมือการตลาดออนไลน์กันเลย

    1. รู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจเหมาะที่จะใช้ Marketing Automation หรือไม่?

    อย่างที่ได้กล่าวไป MA นั้นสามารถให้ประโยชน์แก่ธุรกิจได้หลากหลาย ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับธุรกิจที่มีฐานลูกค้า และต้องการประหยัดงบประมาณกับเวลาให้มากขึ้น หากจะพูดว่า  MA เหมาะกับธุรกิจแทบทุกรูปแบบก็ไม่ผิดนัก แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวธุรกิจหรือแบรนด์ ว่าจะนำไปปรับใช้อย่างไรนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนจะทำการตลาดอัตโนมัติได้ ธุรกิจควรมีลูกค้าเข้ามาติดต่อกับธุรกิจและต้องสามารถเก็บข้อมูล Lead มาได้ก่อน จึงจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้กับระบบ MA ได้

    ตัวอย่างเช่น การใช้ MA เพื่อเก็บข้อมูลอีเมลของลูกค้า จัดเรียงและวิเคราะห์ผู้ที่เป็น “Potential Customer” จากนั้นให้ทำการส่งแคมเปญ โปรโมชัน หรือข้อเสนอต่างๆ แบบ Personalized Email ให้แต่ละบุคคล เป็นต้น

    2. Marketing Automation สามารถสนับสนุนการตลาดใน Stage ใด?

    เมื่อทราบแล้วว่าธุรกิจนั้นเหมาะกับ MA มากน้อยแค่ไหน คำถามต่อมาคือ จะใช้เครื่องมือนี้ยังไง ในขั้น (Stage) ไหนของการตลาด? ซึ่งโดยปกติแล้วการทำการตลาดออนไลน์นั้นประกอบไปด้วย 3 Stage หลักๆ ได้แก่

    • Top of Funnel (TOFU) – ที่มุ่งเน้นการสร้าง Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จักและให้ลูกค้าเกิดปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์
    • Middle of Funnel (MOFU) – เป็น Stage ที่สำคัญมากๆ ซึ่งก็คือการเปลี่ยน Leads เป็น Potential Customer ธุรกิจต้องเก็บข้อมูลของลูกค้า เพื่อนำมาทำการตลาดเพื่อปิดการขายต่อไป
    • Bottom of Funnel (BOFU) – คือลำดับขั้นสุดท้ายสำหรับปิดการขาย ซึ่งแบรนด์ต้องช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าด้วยการมอบโปรโมชันต่างๆ หรือข้อเสนอทดลองใช้ฟรี และอื่นๆ

    ต้องบอกเลยว่า MA นั้นสามารถช่วยได้ทั้ง 3 Stage เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการยิงโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ ส่งต่อโปรโมชันช่วยลูกค้าตัดสินใจ หรือแม้แต่ช่วยปิดการขาย แต่แบรนด์ต้องตอบคำถามที่ว่า ธุรกิจกำลังอยู่ใน Stage ไหนและมีเป้าหมายอะไร? ตัวอย่างเช่น ถ้าแบรนด์ต้องการสร้าง Awareness ให้มากขึ้น นั่นหมายความว่าธุรกิจควรนำเอาระบบ MA มาช่วยในขั้นตอน Top of Funnel นั่นเอง

    3. ระบบ Marketing Automation เหมาะที่จะใช้กับการตลาดในด้านไหน?

    การทำ Digital Marketing นั้น แต่ละแบรนด์ แต่ละแคมเปญ ล้วนมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งระบบการตลาดอัตโนมัตินั้นสามารถช่วยสนับสนุนได้หลากหลายด้าน ยกตัวอย่างเช่น

    • สร้าง Awareness เพิ่มจำนวนคนที่รู้จักแบรนด์ให้มากขึ้น โดยอาศัย MA ในการจัดระเบียบการส่งโปรโมชันไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่มีความสนใจต่างกัน บนเว็บไซต์ ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ในคราวเดียวกัน
    • เพิ่ม Engagement โดยการใช้ระบบวิเคราะห์ความชอบ ความสนใจของลูกค้า จากพฤติกรรมและ Customer Journey เพื่อนำไปปรับใช้ สร้างแคมเปญหรือคอนเทนต์ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วมมากขึ้นนั่นเอง

    เพิ่ม Conversion Rate ผ่านระบบ Lead Scoring ให้คะแนนลูกค้าที่มีโอกาสที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของธุรกิจมากที่สุด และสร้างแคมเปญการตลาดแบบ Personalized ไปยังลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

    [/col]
    marketing automation

    นอกจากนี้แพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติยังสามารถสนับสนุนธุรกิจได้อีกหลายด้าน เช่นการรักษาความสัมพันธ์หรือตอบคำถามลูกค้าผ่านฟีเจอร์ Chatbot หรือ CRM ก็ตาม หวังว่าคำตอบที่ Connect X ได้นำมาตอบคำถามในบทความนี้ จะสามารถไขข้อสงสัยของเจ้าของแบรนด์ได้ และเป็นส่วนช่วยในการพิจารณาก่อนตัดสินใจนำระบบ MA มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ส่วนเจ้าของธุรกิจที่สนใจอยากนำเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติเข้ามาใช้กับธุรกิจ

    [/row]

    Connect X เป็นระบบ Customer Data Platform (CPD) ที่มาพร้อมกับ MA ที่สามารถวิเคราะห์ได้ลึกถึง Insight แบ่งกลุ่ม Audience Segment ชัดเจนเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และสร้างแคมเปญการตลาดพร้อมส่งไปยังลูกค้าที่ใช่ในทุกช่องทาง สร้างความประทับใจและประสบการณ์การใช้งานที่ลูกค้าต้องติดใจอย่างแน่นอน เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Platform ทางการตลาดที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

    Connect X เข้าใจนักการตลาดทุกคนว่าการเลือก Platform มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

    *รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (Martech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ