Category Archives: Highlight

Ads & Web performance tracking คืออะไร? ฉบับอัพเดท2024

Ads & Web performance tracking

ในโลกดิจิทัลที่แข่งขันกันสูงในปัจจุบัน  Ads & Web performance tracking เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ให้สูงสุด การติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาไม่ได้เป็นเพียงแค่การรู้ว่าโฆษณาใดได้รับคลิกมากที่สุดเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการทำความเข้าใจผู้ชมของคุณ การปรับงบประมาณให้เหมาะสม และการปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดของคุณ บทความนี้จะพาเจาะลึกวิธีการติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาของคุณ

 

Ads & Web performance tracking คืออะไร?

การติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาหมายถึงกระบวนการรวบรวมข้อมูลว่าโฆษณาของคุณทำงานได้ดีเพียงใดในช่องทางต่างๆ เช่น Google, Facebook หรือ LinkedIn ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเมตริกสำคัญ เช่น จำนวนการแสดงผล จำนวนคลิก อัตราการแปลง และ ROI เพื่อประเมินประสิทธิภาพของแต่ละแคมเปญ สำหรับนักการตลาดและแบรนด์ กระบวนการนี้มีประโยชน์อย่างมากในการปรับแต่งกลยุทธ์ เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้จ่ายโฆษณาถูกใช้อย่างคุ้มค่า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม

 

ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้าที่กำลังรันแคมเปญ Google Ads หากไม่มีการติดตามประสิทธิภาพของโฆษณา พวกเขาจะไม่ทราบเลยว่าโฆษณากำลังกำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องหรือไม่ หรือว่าการใช้จ่ายของพวกเขากำลังเปลี่ยนเป็นยอดขายหรือไม่ การติดตามประสิทธิภาพช่วยให้พวกเขาเห็นว่าคำหลักใดทำให้เกิด Conversion มากที่สุด ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถจัดสรรงบประมาณใหม่ไปยังสิ่งที่ได้ผลดีที่สุด

 

วิธีการใช้งาน Ads & Web performance tracking 

ขั้นตอนที่ 1: ระบุเมตริกของคุณ

ขั้นตอนแรกคือการกำหนดเมตริกสำคัญที่สำคัญสำหรับแคมเปญของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงจำนวนการแสดงผล (โฆษณาของคุณแสดงบ่อยแค่ไหน) อัตราการคลิกผ่าน (CTR) อัตรา Conversion และต้นทุนต่อการได้มา (CPA) จัดตำแหน่งเมตริกเหล่านี้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายแคมเปญของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ การสร้างลูกค้าเป้าหมาย หรือการขายโดยตรง

ตัวอย่างเช่น หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างลูกค้าเป้าหมาย ให้เน้นที่อัตรา Conversion และ CPA มากกว่า CTR เพียงอย่างเดียว CTR สูงโดยไม่มี Conversion บ่งชี้ว่าโฆษณาและเนื้อหาหน้า Landing Page ของคุณไม่ตรงกัน

ขั้นตอนที่ 2: เลือกเครื่องมือติดตามโฆษณาของคุณ

การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรวบรวมข้อมูล แพลตฟอร์มอย่าง Google Analytics, Facebook Ads Manager และซอฟต์แวร์บุคคลที่สาม เช่น HubSpot สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือที่คุณเลือกผสานรวมเข้ากับชุดการตลาดที่มีอยู่ของคุณได้เป็นอย่างดี

เช่น บริษัท SaaS ที่ใช้ Google Analytics เพื่อติดตาม Conversion สามารถเชื่อมโยงกับ Google Ads เพื่อดูภาพที่ละเอียดขึ้น เช่น คำค้นหาใดนำไปสู่การสมัครแบบชำระเงิน

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบและวิเคราะห์

การตรวจสอบเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ ตรวจสอบรายงานประสิทธิภาพเป็นรายสัปดาห์เพื่อระบุแนวโน้มและรูปแบบ โฆษณาหนึ่งรายการมีประสิทธิภาพดีกว่าโฆษณาอื่นหรือไม่? กลุ่มเป้าหมายเฉพาะมีส่วนร่วมกับครีเอทีฟบางรายการมากกว่าหรือไม่?

เช่นแบรนด์ความงามที่ใช้โฆษณา Instagram อาจสังเกตเห็นว่าเนื้อหาวิดีโอนำไปสู่ Conversion มากกว่าภาพนิ่ง จากข้อมูลนี้ พวกเขาสามารถเปลี่ยนงบประมาณไปใช้โฆษณาวิดีโอได้มากขึ้น

ขั้นตอนที่ 4: ปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพ

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลของคุณแล้ว ให้ทำการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น ทดสอบรูปแบบโฆษณาใหม่ ปรับราคาเสนอ หรือเน้นกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันเพื่อดูว่าอะไรให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่ใช้โฆษณา Facebook อาจค้นพบว่าโฆษณาที่มีคำรับรองจากลูกค้ามีประสิทธิภาพดีกว่าโฆษณาที่มีเพียงรูปภาพอาหาร ด้วยข้อมูลเชิงลึกนี้ พวกเขาสามารถปรับปรุงโฆษณาของตนให้มีหลักฐานทางสังคมมากขึ้น

 

ประเภทของ Ads & Web performance tracking

Ads & Web performance tracking Type

Pixel-Based Tracking

วิธีนี้ใช้พิกเซลติดตามเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ มักใช้สำหรับการกำหนดเป้าหมายใหม่และการติดตาม Conversion เช่นแบรนด์อีคอมเมิร์ซมักใช้ Facebook Pixel เพื่อติดตามเมื่อผู้ใช้ดูผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ดำเนินการซื้อให้เสร็จสิ้น ทำให้พวกเขาสามารถแสดงโฆษณาการกำหนดเป้าหมายใหม่แบบส่วนบุคคลในภายหลังได้

 

UTM Tracking

พารามิเตอร์ UTM จะถูกเพิ่มไปยัง URL เพื่อติดตามแหล่งที่มา สื่อ และชื่อแคมเปญ วิธีนี้ช่วยให้คุณทราบว่าปริมาณการใช้งานของคุณมาจากที่ใด ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาบนโซเชียลมีเดียหรือแคมเปญอีเมลเช่น แบรนด์ฟิตเนสอาจใช้ลิงก์ UTM ในโฆษณา Instagram เพื่อดูว่ามีปริมาณการเข้าชมและยอดขายมากน้อยเพียงใดจากแพลตฟอร์ม

 

View-Through Conversions

การติดตามประเภทนี้จะบันทึก Conversion จากผู้ใช้ที่เห็นโฆษณา แต่ไม่ได้คลิกทันที ช่วยวัดการเปิดเผยแบรนด์และอิทธิพลระยะยาว เช่น บริษัทให้บริการทางการเงินที่ใช้โฆษณา YouTube อาจสังเกตเห็นผู้ใช้ที่เห็นโฆษณา แต่ทำการซื้อหลายสัปดาห์ต่อมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่ล่าช้าของแคมเปญวิดีโอของพวกเขา

 

ประโยชน์ของการติดตามโฆษณาคืออะไร? 

รู้จักลูกค้ามากขึ้น

การติดตามช่วยให้คุณเข้าใจว่าใครกำลังโต้ตอบกับโฆษณาของคุณ คุณสามารถวิเคราะห์อายุ เพศ สถานที่ และความสนใจ เพื่อปรับแต่งการกำหนดเป้าหมายของคุณให้ละเอียดขึ้น เช่นบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวสามารถใช้การติดตามโฆษณาเพื่อค้นพบว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลตอบสนองต่อโฆษณาที่มีแพ็คเกจการเดินทางผจญภัยได้ดีกว่าคนรุ่นเก่า

 

ปรับงบประมาณของคุณให้เหมาะสม 

การติดตามโฆษณาช่วยให้คุณจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการลงทุนในสิ่งที่ได้ผลมากขึ้น และลดแคมเปญที่ทำผลงานได้ไม่ดี

ตัวอย่างช่น บริษัทเทคโนโลยีอาจสังเกตเห็นว่า Google Ads นำไปสู่อัตรา Conversion ที่สูงกว่า LinkedIn Ads ซึ่งทำให้พวกเขาเปลี่ยนการใช้จ่ายโฆษณาไปที่ Google มากขึ้น

 

วัดความสำเร็จ

การติดตามเมตริก เช่น CTR และอัตรา Conversion ให้ตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโฆษณา ช่วยให้คุณวัดผลได้ว่าคุณบรรลุ KPI ของคุณหรือไม่

 

การทดสอบ A/B

การติดตามโฆษณาช่วยให้คุณทดลองใช้ครีเอทีฟพาดหัวข่าว และคำกระตุ้นการตัดสินใจที่แตกต่างกัน เพื่อดูว่าอะไรที่สอดคล้องกับผู้ชมของคุณมากที่สุด

 

ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการหลักสูตรออนไลน์อาจทำการทดสอบ A/B กับพาดหัวข่าวโฆษณาเพื่อดูว่า “เรียนรู้การเขียนโค้ดใน 30 วัน” ทำงานได้ดีกว่า “เรียนรู้การเขียนโค้ดอย่างรวดเร็ว” หรือไม่

 

การวางแผนอนาคต

 

ด้วยภาพที่ชัดเจนว่าอะไรใช้ได้ผลและอะไรไม่ได้ผล คุณสามารถวางแผนแคมเปญในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่ามีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

 

5 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการติดตามโฆษณา

1.ไม่เข้าใจค่า Metric

การมุ่งเน้นไปที่เมตริกที่ดูดี เช่น การแสดงผลหรือการคลิกโดยไม่วิเคราะห์ KPI ที่ลึกกว่า เช่น อัตรา Conversion อาจนำไปสู่การใช้จ่ายโฆษณาที่สูญเปล่า

2.ตั้งค่าแล้วลืม

แคมเปญต้องมีการตรวจสอบและปรับให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง การปล่อยให้โฆษณาทำงานโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอาจนำไปสู่ประสิทธิภาพที่ไม่ดี

3.มองข้ามการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

การปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งสำเนาโฆษณา หรือการกำหนดเป้าหมายในช่วงเวลาอื่นของวัน อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพ

4.ละเลยการทดสอบ A/B

การไม่ทดลองกับรูปแบบโฆษณาที่แตกต่างกัน หมายถึงการพลาดข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ

5.ไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด 

การไม่วิเคราะห์แคมเปญที่ผ่านมา และนำบทเรียนเหล่านั้นไปใช้กับความพยายามในอนาคต อาจส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำๆ กัน

 

สรุป

Ads tracking เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักการตลาดทุกคนที่มุ่งหวังที่จะเพิ่ม ROI ให้สูงสุด และบรรลุความสำเร็จที่ยั่งยืน โดยการทำตามกระบวนการที่มีโครงสร้าง ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไป คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณอย่างต่อเนื่อง และอยู่เหนือคู่แข่งได้ อย่าลืมติดตาม วิเคราะห์ และปรับตัวเพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาของคุณส่งมอบคุณค่าสูงสุด การมีเครื่องมือ  Ads & Web performance tracking อย่างเช่น Connect X จะช่วยให้แบรนด์ของคุณสามารถติดตามแคมเปญของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

    Yearly Budget

    How do you know us?

    ทักษะที่คนเป็น Digital Marketer ควรมี สำหรับธุรกิจยุคใหม่

    digital marketer

    ในยุคดิจิทัลที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับ Digital Marketer ที่ต้องการ เนื่องจากแนวโน้มเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการพัฒนา การก้าวนำหน้าเกมจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณกำลังมองหาที่จะร่วมลงทุนในขอบเขตของการตลาดดิจิทัล การเตรียมกลยุทธ์และข้อมูลเชิงลึกที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ในบทความนี้ เราจะสำรวจเคล็ดลับอันล้ำค่าและคำแนะนำที่ขาดไม่ได้เพื่อช่วยคุณทำการตลาดดิจิทัลด้วยความมั่นใจและแม่นยำ

    ทำความเข้าใจการตลาดดิจิทัล

    การตลาดดิจิทัลครอบคลุมแพลตฟอร์ม กลยุทธ์ และเครื่องมือที่หลากหลายซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายทางออนไลน์ รวมถึงการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) การตลาดเนื้อหา การตลาดผ่านอีเมล และอื่นๆ การทำความเข้าใจไดนามิกของแต่ละองค์ประกอบถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความเข้าใจการตลาดดิจิทัลอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ การอัพเดทเทรนด์และนวัตกรรมล่าสุดเป็นสิ่งสำคัญในการปรับตัวและเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้

    ในฐานะนักการตลาดดิจิทัลที่มีความมุ่งมั่น สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงอิทธิพลของแพลตฟอร์มดิจิทัลในการกำหนดพฤติกรรมผู้บริโภคและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการพึ่งพาช่องทางดิจิทัลสำหรับข้อมูลและความบันเทิงที่เพิ่มมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ จึงใช้ประโยชน์จากการตลาดดิจิทัลเพื่อเชื่อมต่อกับผู้ชมด้วยวิธีที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงนี้และการทำความเข้าใจความซับซ้อนของการตลาดดิจิทัลจะเป็นพื้นฐานของความสำเร็จของคุณในสาขานี้

    ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Digital Marketer

    เพื่อให้เป็นเลิศในด้านการตลาดดิจิทัล นักการตลาดที่ต้องการฝึกฝนทักษะที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหา การวิเคราะห์ข้อมูล การคิดเชิงกลยุทธ์ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการปรับตัว ทักษะการสร้างเนื้อหามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างข้อความที่น่าสนใจซึ่งโดนใจกลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ

    นอกจากนี้ ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลและรับข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้นั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดและการวัดประสิทธิผล

    การคิดเชิงกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานกันในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดเชิงนวัตกรรมที่ตัดผ่านสัญญาณรบกวนทางดิจิทัลและดึงดูดความสนใจของผู้ชม นอกจากนี้ ความสามารถในการปรับตัวถือเป็นกุญแจสำคัญ เนื่องจากวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลและพฤติกรรมผู้บริโภค ในฐานะนักการตลาดดิจิทัล การเปิดกว้างต่อการเรียนรู้และเปิดรับการเปลี่ยนแปลงถือเป็นสิ่งสำคัญในการคงความเกี่ยวข้องและมีประสิทธิภาพในบทบาทของคุณ

    การสำรวจช่องทางการตลาดดิจิทัลต่างๆ

    การตลาดดิจิทัลครอบคลุมช่องทางมากมาย โดยแต่ละช่องทางมีจุดแข็งและกลยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn เสนอช่องทางในการมีส่วนร่วมกับผู้ชมผ่านเนื้อหาภาพ การสนทนา และการโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย การทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละแพลตฟอร์มและการปรับแต่งเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชมเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มผลกระทบสูงสุด

    การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) เป็นอีกหนึ่งแง่มุมพื้นฐานของการตลาดดิจิทัล ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ในการเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพคำหลัก คุณภาพเนื้อหา และลิงก์ย้อนกลับ นักการตลาดดิจิทัลสามารถปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์และดึงดูดปริมาณการเข้าชมทั่วไปได้ ในทางกลับกัน การตลาดผ่านอีเมลยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรักษาลูกค้าเป้าหมายและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการสื่อสารส่วนบุคคล

    การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลในฐานะนักการตลาดดิจิทัล

    ในโลกดิจิทัล การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและการมองเห็น ในฐานะนักการตลาดดิจิทัลที่มีความมุ่งมั่น การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลสามารถทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง และวางตำแหน่งคุณในฐานะผู้มีอำนาจในอุตสาหกรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแสดงความเชี่ยวชาญของคุณผ่านเนื้อหาความเป็นผู้นำทางความคิด การมีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมงานในอุตสาหกรรม และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการอภิปรายและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

    การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก ความสำเร็จ และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสามารถขยายสถานะดิจิทัลของคุณและดึงดูดโอกาสได้ นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมในการตีพิมพ์ที่มีชื่อเสียงและการมีส่วนร่วมในการพูดในที่สาธารณะสามารถยกระดับแบรนด์ส่วนบุคคลของคุณในวงการการตลาดดิจิทัลได้มากขึ้น โปรดจำไว้ว่า การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอ ความน่าเชื่อถือ และความมุ่งมั่นในการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ชมของคุณ

    การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์ในการตลาดดิจิทัล

    ข้อมูลและการวิเคราะห์มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเช่น Google Analytics นักการตลาดจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ การเข้าชมเว็บไซต์ และอัตราคอนเวอร์ชั่น ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้มีข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยให้นักการตลาดปรับแต่งกลยุทธ์และจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพตามการสังเกตที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

    นอกจากนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลยังช่วยให้นักการตลาดสามารถระบุแนวโน้ม วัดผลกระทบของความคิดริเริ่มทางการตลาด และเข้าใจถึงความชอบและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งในทางกลับกัน จะอำนวยความสะดวกในการสร้างแคมเปญที่ปรับแต่งให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ชมเฉพาะ นำไปสู่การมีส่วนร่วมและการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้น การใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและเพิ่มผลกระทบสูงสุดจากความพยายามทางการตลาดดิจิทัล

    อัพเดทเทรนด์การตลาดดิจิทัลอยู่เสมอ

    ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การตามทันเทรนด์และนวัตกรรมล่าสุดถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและการสำรวจเทคโนโลยีเกิดใหม่ พฤติกรรมผู้บริโภค และการพัฒนาอุตสาหกรรม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปรับตัวให้เข้ากับการตลาดดิจิทัลที่กำลังพัฒนา การสมัครรับข้อมูลสิ่งพิมพ์ของอุตสาหกรรม การเข้าร่วมการสัมมนาทางเว็บ และการเข้าร่วมการประชุมสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับแนวโน้มและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดที่กำลังจะเกิดขึ้น

    นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมกับชุมชนการตลาดดิจิทัลและการสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยังมอบโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับมุมมองใหม่ๆ และรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับกระแสอุตสาหกรรมล่าสุด การใช้แนวทางเชิงรุกในการเรียนรู้และการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการตลาดดิจิทัลจะช่วยให้คุณมีความรู้และวิสัยทัศน์กว้างไกลเพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในแนวนอนและใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่

    การสร้างเครือข่ายและการสร้างการเชื่อมต่อในอุตสาหกรรมการตลาดดิจิทัล

    การสร้างเครือข่ายมีบทบาทสำคัญในการเติบโตทางสายอาชีพและโอกาสสำหรับนักการตลาดดิจิทัลที่มีความมุ่งมั่น การสร้างความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ผู้นำทางความคิด และผู้ร่วมงานที่มีศักยภาพสามารถเปิดประตูสู่การให้คำปรึกษา ความก้าวหน้าทางอาชีพ และโครงการความร่วมมือ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเครือข่ายเฉพาะอุตสาหกรรม ชุมชนออนไลน์ และการรวมตัวทางสังคมสามารถอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อที่มีความหมายและขยายแวดวงอาชีพของคุณ

    นอกจากนี้ การเข้าร่วมการอภิปราย แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรม และการให้การสนับสนุนแก่เพื่อนร่วมงานจะช่วยเพิ่มการมองเห็นและความน่าเชื่อถือของคุณภายในชุมชนการตลาดดิจิทัล การสร้างเครือข่ายยังเป็นช่องทางในการติดตามแนวโน้มของอุตสาหกรรม การได้รับมุมมองจากวงใน และการเข้าถึงโอกาสทางอาชีพอันมีค่า การสร้างเครือข่ายมืออาชีพที่แข็งแกร่งเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของคุณในฐานะนักการตลาดดิจิทัล

    เครื่องมือและแหล่งข้อมูลสำหรับนักการตลาดดิจิทัลผู้มุ่งมั่น

    ในแวดวงการตลาดดิจิทัล การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและทรัพยากรที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของคุณได้อย่างมาก ตั้งแต่แพลตฟอร์มการวิเคราะห์และเครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดียไปจนถึงซอฟต์แวร์สร้างเนื้อหาและทรัพยากร SEO มีโซลูชันมากมายที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงแง่มุมต่างๆ ของการตลาดดิจิทัล การทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือเหล่านี้และทำความเข้าใจแอปพลิเคชันสามารถยกระดับความสามารถของคุณในฐานะนักการตลาดดิจิทัลได้ แพลตฟอร์ม เช่น ConnectX CDP, Hootsuite, Buffer และ Sprout Social นำเสนอฟังก์ชันการจัดการโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุม ช่วยให้คุณสามารถกำหนดเวลาโพสต์ ติดตามการมีส่วนร่วม และวิเคราะห์ตัวชี้วัดประสิทธิภาพในหลายแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ เครื่องมือสร้างเนื้อหา เช่น Canva, Adobe Creative Cloud และ Grammarly ยังช่วยให้นักการตลาดสามารถผลิตเนื้อหาที่ดึงดูดสายตาและปราศจากข้อผิดพลาด การติดตามเครื่องมือและเทคโนโลยีล่าสุดในพื้นที่การตลาดดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการทำงานของคุณและมอบผลลัพธ์ที่มีผลกระทบ

    สรุป

    ในขณะที่ทางดิจิทัลยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักการตลาดดิจิทัลที่มีความมุ่งมั่นจะต้องปรับตัว สร้างสรรค์ และปรับปรุงทักษะของตนเพื่อเติบโตในสภาพแวดล้อมแบบไดนามิกนี้ ด้วยการทำความเข้าใจความซับซ้อนของการตลาดดิจิทัล การฝึกฝนทักษะที่จำเป็น การสำรวจช่องทางที่หลากหลาย การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์ การอัพเดทเทรนด์ การส่งเสริมการเชื่อมต่อ การใช้เครื่องมือ และการใฝ่หาการศึกษาอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถวางตำแหน่งตัวเองเพื่อความสำเร็จใน ทรงกลมการตลาดดิจิทัล

    โปรดจำไว้ว่า ทางดิจิทัลมอบโอกาสอันไร้ขอบเขตสำหรับความคิดสร้างสรรค์ ผลกระทบ และการเติบโต โอบรับการเดินทางด้วยใจที่เปิดกว้าง ความกระหายในความรู้ และความหลงใหลในการเชื่อมต่อกับผู้ชมอย่างมีความหมาย ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ คุณสามารถกำหนดเส้นทางของคุณในขอบเขตการตลาดดิจิทัล และสร้างผลกระทบที่สำคัญในดิจิทัลที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา ต่อไปนี้คือความสำเร็จของคุณในฐานะนักการตลาดดิจิทัลผู้มุ่งมั่น!

    โดยสรุป การสำรวจดิจิทัลในฐานะนักการตลาดดิจิทัลที่ต้องการนั้นต้องใช้แนวทางที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมทั้งทักษะ ความรู้ในอุตสาหกรรม และกรอบความคิดเชิงรุก ด้วยการเปิดรับการเปลี่ยนแปลงของการตลาดดิจิทัลและใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่ระบุไว้ในบทความนี้ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางด้วยความมั่นใจและเริ่มต้นเส้นทางการเติบโตและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการตลาดดิจิทัล

    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

      Yearly Budget

      How do you know us?

      ยกระดับประสิทธิภาพการตลาดด้วยเครื่องมือ Martech ConnectX CDP สำหรับนักการตลาดยุคใหม่

      cdp martech

      หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีสินค้า และสาขามากมาย แล้วสนใจที่จะเจาะลึกเข้าไปในพฤติกรรมของลูกค้า บทความนี้ เราจะเปิดเผยส่วนที่น่าสนใจของ “Next Level” สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีความหลงใหลในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า และใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่กำหนดเป้าหมายแบรนด์ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาด โปรดคอยติดตามในขณะที่เราแนะนำให้คุณรู้จักกับเครื่องมือ cdp martech อันทรงพลัง – ConnectX

      CDP คืออะไร?

      ในมุมมองของ ConnectX  แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP) เป็นแหล่งเก็บข้อมูลที่รวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลที่กระจัดกระจายบนออฟไลน์และออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะพร้อมใช้งาน

      ConnectX มีหน้าที่อะไร?

      ConnectX รวบรวมข้อมูลจากทุก Touchpoint โดยจัดเป็นหมวดหมู่แยกส่วนเพื่อการใช้งานที่ราบรื่น

      จุดเด่นที่ทำให้คนต้องเลือก ConnectX

      1. ความยืดหยุ่นและการปรับแต่งแพลตฟอร์มให้สะดวกต่อการใช้งาน

      ConnectX สามารถปรับเปลี่ยนและปรับแต่งได้ ไม่ว่าคุณจะใช้ระบบ Backend หรือระบบ POS ใดก็ตาม ConnectX สามารถพัฒนาโปรแกรมรวบรวมข้อมูลที่เหมาะกับความต้องการของคุณได้ ในฐานะบริษัทซอฟต์แวร์ นำเสนอการพัฒนา Plug & Play ได้อย่างคุ้มค่า

      2. ความปลอดภัยของข้อมูล

      ConnectX จัดการข้อมูลปริมาณมากได้อย่างมั่นใจ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่มีการใช้งานและพุ่งทะยานจะไม่ล้นเกินความสามารถ และ  ConnectX ได้รับการรับรองผ่าน ISO27001 ระบบมาตรฐานหลักในหมวดระบบมาตรฐานความปลอดภัยสารสนเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของบริษัทนั้นปลอกภัยไร้กังวล

      3. เทคโนโลยีขั้นสูง

      ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ConnectX จึงสามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลเฉพาะบุคคลเพื่อความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการโต้ตอบกับลูกค้า พร้อมกับระบบ AI จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจกลุ่มลูกค้าได้อย่างเร็วและแม่นยำมากขึ้น

      connectx cdp martech

      Customer Journey บน ConnectX

      การเดินทางข้อมูลของ ConnectX เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลจากช่องทางต่างๆ ที่ไม่ว่าจะมากจาก ออฟไลน์ หน้าร้านค้าสาขาต่างๆ และทางออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Instragram, Whatsapp หรือ Marketplace เป็นต้น นำมาฝากไว้ใน CDP จากนั้นจึงแบ่งส่วน แพลตฟอร์มดังกล่าวซิงค์กับโฆษณา Facebook ได้อย่างราบรื่น ทำให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าตามพฤติกรรมเฉพาะได้

      ConnectX นำเสนอข้อมูลในรูปแบบช่องทางการตลาด อำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์และการนำกลยุทธ์ทางการตลาดไปใช้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามและวัดประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มสื่อ KOL และการลงทุนทางการตลาด

      • Marketing Automation ของ ConnectX:

      สร้างและตรวจสอบโฆษณาได้อย่างง่ายดาย การปิดโฆษณาที่ไม่ได้ใช้งานโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

      การจัดการงบประมาณสำหรับตำแหน่งโฆษณา

      เช่น SMS ที่สามารถ Customize รูปแบบ เนื้อหา สี  Call-to-action ตามกลุ่มลูกค้าและช่องทางที่ต้องการจะ Publish ได้

      • ทักษะการตลาดอัตโนมัติสำหรับนักการตลาดยุคใหม่:

      ในภาพรวมทางการตลาดในปัจจุบัน การทำความเข้าใจและการวางแผนการเดินทางของลูกค้าถือเป็นสิ่งสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจะต้องได้รับทักษะในการทำการตลาดอัตโนมัติเพื่อวางแผนการเดินทางอย่างมีกลยุทธ์และการจัดสรรงบประมาณ

      • ข้อเสนอการขายที่เป็นเอกลักษณ์ของ ConnectX:

      ConnectX ได้รับตำแหน่งเป็น CDP ที่ครบวงจรที่สุด โดยมาพร้อมกับ ConnectX Dashboard ซึ่งนำเสนอ CDP แบบเรียลไทม์และความสามารถในการแบ่งส่วน

      บทสรุป

      ConnectX cdp martech พร้อมด้วย mini-CRM ที่มีฟีเจอร์หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงกลุ่มการช็อปปิ้งและการใช้ข้อมูลได้อย่างง่ายดาย แนวทางที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ของแพลตฟอร์มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ใช้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก

      โดยสรุป ConnectX ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งเก็บข้อมูลเท่านั้น เป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถยกระดับกลยุทธ์การตลาด ทำให้กระบวนการสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ หากคุณสนใจ ชมคลิปเต็มเพื่อดูข้อมูลเชิงลึกและโปรโมชั่นพิเศษ โปรดติดตามตอนต่อไปในซีรีส์ “The Next Level” ลาสำหรับตอนนี้!

      สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

      เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

      Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

        Yearly Budget

        How do you know us?

        7 เคล็ดลับในการจัดการธุรกิจให้เป็นระบบมากขึ้น

        จัดการธุรกิจ

        ด้วยการ จัดการธุรกิจ ทางเทคโนโลยีของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิต การทำงาน และความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงเกิดขึ้นในทุกธุรกิจ

        สิ่งนี้เป็นจริงทวีคูณในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ซึ่งองค์กรในทุกอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับความต้องการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอย่างกะทันหัน และทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและยืดหยุ่นมากขึ้น

        เป็นเวลาที่ดีที่จะถามว่าธุรกิจของคุณสามารถจัดระเบียบกระบวนการหลักเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับทั้งพนักงานและลูกค้าของคุณได้อย่างไร

        ด้วยการผสมผสานที่เหมาะสมที่สุดระหว่างบุคลากร กระบวนการ และเทคโนโลยี คุณสามารถทำให้องค์กรของคุณปรับตัวได้กับการเปลี่ยนแปลงและอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเพื่อเติบโตและก้าวหน้า

        ด้วยเหตุนี้ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับองค์กร 7 ประการสำหรับธุรกิจที่จะช่วยให้คุณดำเนินการต่อในแนวทางที่ถูกต้อง นอกจากนี้ เรายังรวมเป้าหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับเคล็ดลับแต่ละข้อ เพื่อให้คุณสามารถวัดความสำเร็จเมื่อเวลาผ่านไป

        7 เคล็ดลับ จัดการธุรกิจ เพื่อการเติบโตของธุรกิจ

        ขยายการทำงานของเทคโนโลยี

        เป้าหมาย: ปรับปรุงกลุ่มเทคโนโลยีธุรกิจของคุณเพื่อช่วยให้ทีมของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

        เทคโนโลยีสามารถเพิ่มองค์กร ผลผลิต และการทำงานร่วมกันของธุรกิจของคุณได้ อย่างไรก็ตาม มีเครื่องมือบางอย่างมากเกินไปหรือที่เรียกว่าการขยายเทคโนโลยี

        เมื่อองค์กรใช้แอปและเครื่องมือมากเกินความต้องการ องค์กรอาจประสบปัญหาอย่างรวดเร็วจากความซับซ้อนมากเกินไป สิ่งรบกวน และปัญหาด้านความปลอดภัย

        หากฟังดูคุ้นๆ ก็ถึงเวลาประเมิน ปรับแต่ง และเพิ่มประสิทธิภาพกองเทคโนโลยีของธุรกิจคุณ

        เพื่อให้ระบบนิเวศเทคโนโลยีของคุณอยู่ภายใต้การควบคุมและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่แอประบบคลาวด์สามารถนำเสนอได้ ให้สร้างชุดกระบวนการที่สอดคล้องกันโดยใช้แอปและฟังก์ชันที่คุณต้องการเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง

        กำหนดรากฐานเพื่อให้พนักงานไม่ต้องพยายามเล่นกลสิ่งที่แตกต่างกันเป็นร้อยๆ อย่างในคราวเดียวบนแอพจำนวนมากเกินไป

        สร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับการให้รางวัล

        เป้าหมาย: แทนที่จะคาดหวังการสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องจากสมาชิกในทีมทุกคนเมื่อพวกเขาอยู่ที่โต๊ะทำงาน ให้จัดสรรเวลาให้พนักงานทุกคนมุ่งเน้นไปที่จุดที่พวกเขามอบคุณค่าสูงสุด

        การจัดระเบียบอยู่เสมอขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณในการหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน ซึ่งไม่ง่ายเสมอไปในองค์กรที่มีวัฒนธรรมของการขัดจังหวะอย่างต่อเนื่องซึ่งปลอมแปลงเป็นการทำงานร่วมกัน

        การเสียเวลาในชีวิตประจำวันโดยทั่วไป ได้แก่ การใช้เครื่องมือทางธุรกิจที่ซับซ้อนเกินไปหรือไม่เหมาะกับงาน สิ่งรบกวนบนโซเชียลมีเดีย และการป้อนข้อมูลด้วยตนเองในระบบที่แตกต่างกันหลายระบบที่ทำงานร่วมกันได้ไม่ดีนัก

        อย่าลืมเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าความล้าของการแจ้งเตือนที่เกิดจากการโดนโจมตีจากการแจ้งเตือนและอีเมลที่ไม่เกี่ยวข้องทุกวัน

        ต่อไปนี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดสิ่งที่เสียเวลาในธุรกิจของคุณ:

        • ใช้เครื่องมือบนคลาวด์ที่คัดสรรมาอย่างดีซึ่งทุกคนในบริษัทของคุณรู้วิธีใช้
        • สร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีแบบบูรณาการที่เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
        • สร้างกระบวนการทั่วทั้งบริษัทที่ลดการประชุมทางธุรกิจที่ไม่จำเป็นให้เหลือน้อยที่สุด
        • กระตุ้นให้สมาชิกในทีมปิดกั้นสิ่งรบกวนในช่วงเวลาที่กำหนดของเวลาที่มีสมาธิ

        ธุรกิจที่มีระเบียบแบบแผนมากที่สุดคือธุรกิจที่ตระหนักว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำสิ่งต่างๆ อย่างที่เคยเป็นมา กระบวนการและสมมติฐานใดที่คุณสามารถคิดใหม่เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณมีระเบียบและมีประสิทธิผลมากขึ้น

        โยกย้ายไปยังคลาวด์

        เป้าหมาย: ระบุแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่ยังคงได้รับการจัดการผ่านระบบหรือเครื่องมือที่ล้าสมัย และวางแผนว่าคุณจะแทนที่ด้วยเวิร์กโฟลว์และแอปบนคลาวด์อย่างไร

        เกือบทุกธุรกิจใช้เทคโนโลยีคลาวด์บางรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นเพียงอีเมลบนเว็บก็ตาม แต่ระบบคลาวด์มีอะไรมากกว่าที่ธุรกิจจำนวนมากตระหนัก

        ไม่ว่าจะเป็นการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) การจัดเก็บข้อมูล หรือระบบอัตโนมัติทางธุรกิจที่ส่งผ่านเว็บ ภาระงานดิจิทัลเกือบทั้งหมดสามารถโอนย้ายไปยังระบบคลาวด์ได้

        ด้วยเครื่องมือ SaaSหรือแอปบนระบบคลาวด์ที่มีรูปแบบการสมัครรับข้อมูลธุรกิจของคุณสามารถหลีกหนีข้อจำกัดทางกายภาพของคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และทำให้พนักงานสามารถทำงานกับพวกเขาได้ทุกที่

        นำธุรกิจของคุณไปสู่ระบบคลาวด์ต่อไปและลดการกลับไปกลับมาที่มาพร้อมกับสภาพแวดล้อมการประมวลผลที่ล้าสมัย

        ยอมรับรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน

        เป้าหมาย: สร้างแผนเพื่อรองรับธุรกิจของคุณในอนาคตโดยยอมรับรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น การทำงานจากระยะไกลหรือชั่วโมงที่ยืดหยุ่น

        ตั้งแต่สตาร์ทอัพที่คล่องตัวไปจนถึงองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) หลายองค์กรเริ่มเปิดรับข้อดีของรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันแล้ว ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในสำนักงานที่ลดลง และการเข้าถึงผู้มีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น

        แต่แม้ว่าองค์กรของคุณยังไม่พร้อมที่จะได้รับประโยชน์ทั้งหมดของการทำงานจากระยะไกลและชั่วโมงที่ยืดหยุ่น การทำให้สิ่งนี้มีความสำคัญในระยะยาวจะช่วยให้คุณพิสูจน์ธุรกิจของคุณในอนาคตได้ และทำให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น

        หากคุณต้องการเปิดใช้งานการทำงานจากระยะไกลมากขึ้นในธุรกิจของคุณ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด:

        • เปลี่ยนนโยบายบริษัทของคุณเพื่อตอบสนองแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานจากระยะไกล
        • เสริมสร้างการสื่อสารและการทำงานร่วมกันในทีมด้วยแอพบนคลาวด์ เช่น Slack
        • ลดการพึ่งพาการประชุมแบบตัวต่อตัวด้วยการแนะนำแอปแฮงเอาท์วิดีโอ
        • ปรับกองเทคโนโลยีของคุณเพื่อมุ่งเน้นไปที่แอปบนระบบคลาวด์ที่ทีมของคุณสามารถใช้ได้ทุกที่

        มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่เล็กกว่า

        เป้าหมาย: ดูที่เป้าหมายทั้งบริษัท ระดับแผนก และระดับบุคคลเพื่อให้แน่ใจว่ามีการแบ่งออกเป็นขั้นตอนที่สามารถดำเนินการได้

        เป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจของคุณที่จะจัดระเบียบ หากคุณตั้งเป้าหมายที่สูงและน่ากลัวและยากต่อการมุ่งเน้น

        ในทุกแผนกและทุกบทบาทงาน ให้กำหนดวิธีที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดที่ทีมของคุณจะไปถึงเป้าหมายหลักของคุณก่อนที่จะแยกย่อยออกเป็นขั้นตอนถัดไปที่สามารถดำเนินการได้

        ด้วยเป้าหมายที่เล็กลงและวัดผลได้ง่าย ทีมของคุณจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในการมีสมาธิและหลีกเลี่ยงความเหนื่อยหน่ายและความสับสน

        องค์กรไร้กระดาษ

        เป้าหมาย: ระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดกองกระดาษในองค์กรของคุณ และสร้างกระบวนการเพื่อลดสิ่งนี้ให้เหลือน้อยที่สุด

        กระดาษเป็นสาเหตุของความวุ่นวายทั่วไปในสำนักงานหลายแห่ง แต่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากคุณยังไม่มีระบบการยื่นแบบดิจิทัล ก็ถึงเวลาสร้างแล้ว

        ต่อไปนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้ธุรกิจของคุณไร้กระดาษ:

        • แนบบันทึกย่อและไฟล์กับบันทึกของลูกค้าแบบดิจิทัลใน CDP ของคุณ
        • ใช้แอปของทีม เช่น Google ไดรฟ์เพื่อทำงานร่วมกันในโครงการของทีม
        • ลงนามเอกสารออนไลน์ด้วยแอปต่างๆ เช่น DocuSign

        ยิ่งคุณลดการพึ่งพากระดาษมากเท่าไร ธุรกิจของคุณก็จะทันสมัยเร็วขึ้นเท่านั้น และจัดระเบียบเวิร์กโฟลว์ของคุณก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น

        ธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นอาจมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเนื่องจากมักมีข้อมูลจำนวนมากในเอกสารสิ่งพิมพ์หรือสื่อดิจิทัลที่จับต้องได้

        เริ่มต้นด้วยการสแกนและทำให้ทุกอย่างเป็นดิจิทัลและอัปโหลดไปยังระบบจัดการเอกสาร เป็นระเบียบมากกว่าการมีเอกสารเป็นรีมและกระดาษใบเสร็จพะรุงพะรังทั่วสำนักงาน!

        ทำให้เวิร์กโฟลว์เป็นอัตโนมัติ

        เป้าหมาย: ระบุสิ่งที่ใช้เวลาโดยไม่จำเป็นในองค์กรของคุณ และกำหนดวิธีที่คุณสามารถใช้เวิร์กโฟลว์อัตโนมัติเพื่อเพิ่มเวลาให้มากขึ้นเพื่อโฟกัสสิ่งที่สำคัญ

        หากมีสิ่งหนึ่งที่ขัดขวางประสิทธิภาพการทำงานเหนือสิ่งอื่นใด นั่นคือกระบวนการแบบ Manual ที่ยุ่งยากซึ่งกินเวลาและปล่อยให้เวิร์กโฟลว์เปิดรับโอกาสข้อผิดพลาดจากมนุษย์

        การนำเข้าหรือส่งออกข้อมูลด้วยตนเองระหว่างซอฟต์แวร์การตลาดผ่านอีเมลและ CDP อาจฟังดูไม่เป็นเรื่องใหญ่ในตอนแรก จนกว่าคุณจะรู้ว่าคุณต้องทำสิ่งเดียวกันนี้กับแอปและฐานข้อมูลอื่นๆ จำนวนมาก ในที่สุด ความท้าทายของขนาดทำให้มันเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

        คำแนะนำของ Sage ถือได้ว่าสิ่งใดที่สามารถทำให้เป็นอัตโนมัติได้ควรทำให้เป็นอัตโนมัติ คุณสามารถเริ่มต้นโดยการทำงานอัตโนมัติ:

        • การให้คะแนนลูกสำหรับผู้ติดต่อใหม่ (New Lead)ในฐานข้อมูลของคุณ
        • เวิร์กโฟลว์อีเมลสำหรับดูแลการขาย
        • การสำรองและการซิงค์ระหว่างแอพ
        • กระบวนการดูแลลูกค้า เช่น การแจ้งเตือนผู้จัดการบัญชี
        • เพิ่มคุณค่าข้อมูลระหว่างแอปด้วยการผสานรวมแบบสองทาง เช่น ระหว่าง CDP และแพลตฟอร์มจัดการข้อูล

        เป้าหมายควรเป็นการรวมระบบและกระบวนการเทคโนโลยีของคุณให้เป็นหนึ่งเดียวในสภาพแวดล้อมที่เหนียวแน่นซึ่งทุกคนในทีมของคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม

        ด้วยเครื่องมือและข้อมูลที่เหมาะสม ทุกคนในทีมของคุณสามารถจัดระเบียบได้โดยไม่จมอยู่กับงานที่ต้องทำด้วยตนเองซ้ำๆ หรือใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อพยายามติดตามเอกสารสำคัญเพียงฉบับเดียว

        เมื่อธุรกิจของคุณมีอะไรมากมาย การจัดระเบียบให้เป็นระเบียบจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการปรับปรุงกระบวนการหลักของคุณให้คล่องตัวและมองไปยังอนาคต คุณจะสามารถรับมือกับความท้าทายของขนาดและทำให้ธุรกิจของคุณอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเพื่อการเติบโตในอีกหลายปีข้างหน้า

        สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ ConnectX ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

        เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย ConnectX Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

        ConnectX คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

          Yearly Budget

          How do you know us?

          การตลาด Line Marketing: ความสำคัญและวิธีการใช้งาน

          การตลาด line marketing

          หากคุณกำลังมองหาวิธีการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ การตลาด Line Marketing อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ ในบทความนี้เราจะแนะนำวิธีการใช้งาน Line Marketing ให้ได้อย่างถูกต้อง พร้อมกับเคล็ดลับและเทคนิคที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          ความสำคัญของการตลาดออนไลน์ผ่าน Line Marketing

          การตลาดออนไลน์ผ่าน Line Marketing เป็นวิธีการตลาดที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากมีผู้ใช้งาน Line มากมาย โดยเฉพาะในประเทศไทย การใช้ Line Marketing จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ การตลาดผ่าน Line Marketing ยังช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

          วิธีการสร้างโปรไฟล์และเพิ่มเพื่อนใน Line

          เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน Line Marketing คุณจำเป็นต้องสร้างโปรไฟล์บนแอปพลิเคชัน Line โดยให้เตรียมรูปโปรไฟล์และข้อมูลส่วนตัวที่เป็นประโยชน์สำหรับลูกค้า เมื่อสร้างโปรไฟล์เสร็จแล้ว คุณสามารถเพิ่มเพื่อนใน Line โดยการสแกน QR Code หรือค้นหาชื่อผู้ใช้งาน หรือใช้เครื่องมือ Add Friends บนแอปพลิเคชัน Line แล้วเชิญเพื่อนๆ ให้เข้ามาติดตามธุรกิจของคุณบน Line ได้เลย

          การสร้างโปรโมชั่นและการส่งข้อความโฆษณา

          หลังจากที่คุณสร้างโปรไฟล์และเพิ่มเพื่อนใน Line แล้ว คุณสามารถใช้ Line Marketing เพื่อสร้างโปรโมชั่นและส่งข้อความโฆษณาไปยังลูกค้าของคุณได้โดยตรง โดยใช้เครื่องมือ Line@ ที่มีให้บริการฟรี คุณสามารถสร้างโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าของคุณ เช่น ส่วนลดพิเศษหรือของแถม เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า นอกจากนี้ คุณยังสามารถส่งข้อความโฆษณาเพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการของคุณได้อีกด้วย

          วิธีการวัดผลและปรับปรุงกิจกรรมการตลาดใน Line Marketing

          เพื่อให้การตลาดใน Line Marketing ของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณควรวัดผลและปรับปรุงกิจกรรมการตลาดของคุณอย่างสม่ำเสมอ คุณสามารถใช้เครื่องมือ Analytics ของ Line@ เพื่อวัดผลการโปรโมทและการตลาดของคุณ และดูว่ากิจกรรมใดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ข้อมูลจาก Analytics เพื่อปรับปรุงกิจกรรมการตลาดของคุณให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของคุณมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การวัดผลและปรับปรุงกิจกรรมการตลาดใน Line Marketing เป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรละเลย

          ใช้งาน Line Marketing ร่วมกับ CDP เพื่อผลประโยชน์สูงสุด

          ConnectX เป็นอีกหนึ่ง CDP (Customer Data Platform) โซลูชันและ Marketing Automation อันทรงพลังที่ผสานรวมกับ Line Marketing ได้อย่างลงตัว ด้วยการรวมความสามารถของ ConnectX และ Line คุณสามารถปลดล็อกประสิทธิภาพและประสิทธิผลทางการตลาดในระดับใหม่ทั้งหมด ConnectX ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวม จัดระเบียบ และวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่างๆ ให้มุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับลูกค้าของคุณ ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรม ความชอบ และความต้องการของพวกเขาโดยละเอียด

          ด้วย ConnectX CDP คุณสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงเป้าหมายและเป็นส่วนตัวซึ่งโดนใจผู้ชมของคุณ ใช้ประโยชน์จาก Line Marketing คุณสามารถใช้คุณลักษณะการทำงานอัตโนมัติขั้นสูงเพื่อส่งข้อความที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงอีเมล SMS โซเชียลมีเดีย และอื่นๆ อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ Line ทำให้ง่ายต่อการออกแบบและเปิดเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ เช่น ชุดการต้อนรับ การเตือนรถเข็นที่ถูกทิ้ง และคำแนะนำส่วนบุคคล โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด

          นอกจากนี้ การผสานรวมระหว่าง ConnectX และ Line Marketing ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลลูกค้าจะถูกแบ่งปันอย่างราบรื่นระหว่างสองแพลตฟอร์ม ทำให้สามารถ synchronize แบบเรียลไทม์และแบ่งส่วนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมโดย ConnectX เพื่อขับเคลื่อนแคมเปญการตลาด Line ของคุณ นำเสนอเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องอย่างมากซึ่งกระตุ้นการมีส่วนร่วมและการแปลง

          ด้วย ConnectX CDP และ Line Marketing คุณมีเครื่องมือในการปรับปรุงความพยายามทางการตลาดของคุณ เพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของลูกค้า และบรรลุผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม สัมผัสประสบการณ์การทำงานร่วมกันของ ConnectX และ Line วันนี้และปลดล็อกศักยภาพของกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ

          สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

          เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

          Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

            Yearly Budget

            How do you know us?

            Artificial Intelligence คืออะไร? ธุรกิจควรเตรียมรับมืออย่างไร?

            artificial intelligence คืออะไร

            Artificial Intelligence คืออะไร ? หากคุณเดินทางมาออฟฟิศเวลา 8.00 . มีงานหลายอย่างที่คุณต้องทำในวันนั้น เช็คอีเมล์ ซื้อกาแฟ ตรวจสอบจำนวนลูกค้าเป้าหมายรายเดือน สร้างรายการสำหรับการส่งอีเมลครั้งต่อไปของคุณ รายงานผลลัพธ์ของแคมเปญ

            บางวันอาจรู้สึกเหมือนไม่ได้ใช้เวลากับการตลาดมากนัก แทนที่จะสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดใจหรือสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าใหม่ๆ คุณกลับเอาแต่จ้องหน้าจอตัวเลข ถามตัวเองว่าหมายความว่าอย่างไร ตั้งคำถามว่าคุณตีความถูกต้องหรือไม่ จากนั้นค้นหาว่าข้อมูลนี้ควรนำไปใช้กับโครงการในอนาคตของคุณอย่างไร

            นั่นเป็นเรื่องประชดประชันกับการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เรามีข้อมูลและแดชบอร์ดมากมาย แต่เรารู้จริง ๆ ไหมว่าจะทำอย่างไรกับมันทั้งหมด?

            ในวันใดก็ตาม คุณทำการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ จำนวนมากซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อผลลัพธ์: ฉันควรส่งอีเมลกี่โมง ฉันควรเขียนบล็อกโพสต์ต่อไปในหัวข้อใด ควรเป็นบล็อกโพสต์หรือควรเป็นวิดีโอจริงๆ และสำหรับ CTA นั้นสรุปแล้วสีอะไรที่จะทำให้คนคลิก?

            เร็วๆ นี้ หุ่นยนต์จะตอบคำถามเหล่านี้ทั้งหมด

            ไม่ใช่หุ่นยนต์แต่เป็นปัญญาประดิษฐ์

            ไม่ว่าคุณจะคิดว่าตัวเองชอบเทคโนโลยีหรือไม่ก็ตาม คุณน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ AI บางทีคุณอาจจำฉากที่ Rosie กำลังทำอาหารเย็นให้กับ Jetsons หรือ HAL 9000 ที่ควบคุมห้องควบคุมยานอวกาศของ Dave หรือบางทีคุณอาจสังเกตเห็นการโจมตีของพาดหัวข่าวที่อธิบายว่า AI เป็นทั้งอนาคตหรือเป็นภัยต่อมนุษยชาติกันแน่

            ดังนั้นหากจะถามว่า Artificial Intelligence คืออะไร และ AI มีความหมายกับคุณอย่างไร? การปฏิวัติที่กำลังจะมาถึงจะมีความหมายอย่างไรต่องานประจำวัน ธุรกิจของคุณ และลูกค้าของคุณอย่างไร?

            Artificial Intelligence คืออะไร?

            สิ่งแรกที่เราควรเข้าใจ คือ ปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้หมายถึงหุ่นยนต์ และอย่างน้อยในตอนนี้ มันก็ไม่ใช่รถบินได้หรือไซบอร์กที่พยามทำลายมนุษยชาติเช่นกัน

            ในความเป็นจริงปัญญาประดิษฐ์นั้นไม่ง่ายเลยที่จะนิยาม โดยทั่วไปแล้ว AI หมายถึงสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ทำให้เครื่องจักรทำสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องใช้สติปัญญาเหมือนมนุษย์ทำ ซึ่งรวมถึงงานต่างๆ เช่น การเรียนรู้ การมองเห็น การพูดคุย การเข้าสังคม การใช้เหตุผล หรือการแก้ปัญหา

            เราจะไม่ใช่คนแรกที่ยอมรับว่าคำจำกัดความนี้คลุมเครือเล็กน้อย เป็นเวลาหลายปีที่นักเทคโนโลยีโต้เถียงกันว่า Artificial Intelligence คืออะไร

            ตัวอย่างเช่น Machine Learning คือสิ่งที่ช่วยให้เครื่องค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ในชุดข้อมูลโดยไม่ต้องบอกอย่างชัดเจนว่าควรดูที่ใด ถ้ามันฟังดูซับซ้อน คุณไม่ได้อยู่คนเดียว แต่การเรียนรู้ของเครื่องเป็นเพียงการประยุกต์ใช้สถิติ

            เมื่อคุณใส่บางอย่างเข้าไป และคุณได้บางอย่างออกมา ด้วย Machine Learning สิ่งที่คุณใส่เข้าไปคือข้อมูลของคุณ และสิ่งที่คุณได้ออกมาคือคำตอบของข้อมูลบางอย่าง

            แม้ว่าคุณจะไม่คุ้นเคยกับความซับซ้อนเบื้องหลังการเรียนรู้ของเครื่อง แต่คุณน่าจะได้ประโยชน์จากผลลัพธ์ที่ได้มากที่สุด เมื่อ Spotify แนะนำเพลงที่คุณอาจชอบหรือเมื่อ Facebook แท็กเพื่อนในรูปภาพโดยอัตโนมัติ นั่นคือผลลัพธ์ของการเรียนรู้ของเครื่อง แอปพลิเคชันเหล่านี้จะเรียนรู้ความชอบของคุณหรือสามารถจดจำใบหน้าโดยอิงจากการโต้ตอบที่ผ่านมากับแพลตฟอร์ม ซึ่งช่วยให้โปรแกรมคาดการณ์และให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เครื่องจักรเหล่านี้เรียนรู้เหมือนอย่างที่มนุษย์ทำ ผ่านประสบการณ์และการเทรนนิ่ง

            With machine learning, programs learn like a human would — through experience and training.

            ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการสอนคอมพิวเตอร์ให้แยกแยะระหว่างแมวกับสุนัข คุณอาจพูดว่าแมวมีสี่ขา หาง และหูแหลม สุนัขมีสี่ขา หนึ่งหาง และหูฟลอปปี้ แต่ถ้าคุณเอาชิวาว่าหรือคอร์กี้ให้เครื่องนั้นดู มันจะบอกว่าเป็นแมวไหม?

            ระหว่างความยาวหาง ลักษณะขน และสี มีฉลากจำนวนมากที่นักพัฒนาจะต้องตั้งโปรแกรมด้วยตนเองเพื่อช่วยให้คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมมองเห็นความแตกต่างได้ แต่ด้วย Machine Learning คุณจะป้อนรูปภาพแมวและสุนัขหลายพันรูปให้กับคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ที่จะแยกแยะความแตกต่างจากประสบการณ์ หรือในโลกของ Machine Learning ซึ่งมีข้อมูลจำนวนมาก

            Artificial Intelligence คืออะไร

            จากนั้นคุณสามารถแบ่ง Machine Learning เพิ่มเติมได้โดยขึ้นอยู่กับจำนวนการมีส่วนร่วมของมนุษย์ในกระบวนการ ข้อมูลอาจมีป้ายกำกับเพื่อช่วยให้เครื่องจัดหมวดหมู่ข้อมูลผ่านสิ่งที่เรียกว่าการเรียนรู้ภายใต้การดูแล หรือในหลายกรณีที่ข้อมูลที่ติดป้ายกำกับนั้นยากหรือแพงเกินไปที่จะได้มา เครื่องจักรอาจใช้การเรียนรู้แบบไม่มีผู้ดูแลเพื่อค้นหารูปแบบในชุดข้อมูลด้วยตัวมันเอง

            อีกหนึ่งส่วนที่รู้จักกันดีของ AI คือการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ซึ่งเครื่องสามารถแปลงเสียงของคุณเป็นข้อความ ดำเนินการค้นหา และอ่านคำตอบกลับในรูปแบบไวยากรณ์ของมนุษย์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณไม่จำเป็นต้องพูดเป็นรหัสกับสมาร์ทโฟนของคุณ Cortana ผู้ช่วยเสียงของ Microsoft เลือกใช้คำสแลงและอารมณ์มากขึ้น

            การค้นหาด้วยเสียงซึ่งมีอยู่ในอุปกรณ์พกพา Apple, Android และ Windows จำนวน 3.9 พันล้านเครื่องทั่วโลก ได้ผลักดันการนำ AI มาใช้เพิ่มมากขึ้น ในความเป็นจริง 74% ของผู้ตอบแบบสำรวจของเราใช้อย่างน้อยหนึ่งครั้งในเดือนที่ผ่านมา ใช้ครึ่งหนึ่งทุกวันและพอใจกับคุณภาพของผลลัพธ์

            สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

            เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

            Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

              Yearly Budget

              How do you know us?

              อนาคตของ AI Marketing ที่พร้อมพลิกโฉมวงการการตลาดไปตลอดกาล

              The Importance of AI in Marketing

              AI Marketing หรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมการตลาด มอบโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่การตลาดแบบ Personalization ไปจนถึง AI Chatbot กำลังเปลี่ยนวิธีการใช้กลยุทธ์ของนักการตลาด ในบทความนี้ เราจะสำรวจผลกระทบของ AI ต่อการตลาดและผลต่ออนาคตของอุตสาหกรรม

              AI Marketing คืออะไร?

              AI ในด้านการตลาดหมายถึงการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อพัฒนาและทำให้งานและกระบวนการทางการตลาดต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับแต่งข้อความทางการตลาด การใช้แชทบอทเพื่อจัดการกับคำถามของลูกค้า และการใช้การวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์แนวโน้มและพฤติกรรมในอนาคตของลูกค้า AI สามารถช่วยนักการตลาดในการตัดสินใจอย่างรอบรู้มากขึ้น ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นในท้ายที่สุด

              Personalization และการตั้งเป้าหมายโดย AI

              ประโยชน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของ AI ในด้านการตลาดคือความสามารถในการปรับแต่งและกำหนดเป้าหมายข้อความทางการตลาดไปยังลูกค้าแต่ละราย ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า AI สามารถระบุรูปแบบและความชอบที่สามารถใช้เพื่อสร้างข้อความทางการตลาดและข้อเสนอส่วนบุคคลได้ สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า แต่ยังเพิ่มโอกาสในการซื้อและความภักดีของลูกค้าอีกด้วย AI ยังสามารถช่วยกำหนดเป้าหมายผู้ชมเฉพาะเจาะจงได้อย่างแม่นยำ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อความทางการตลาดจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม ในเวลาที่สมควร

              Forecasting : AI Marketing

              อีกวิธีที่ AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมการตลาดคือการวิเคราะห์และการคาดการณ์ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก AI สามารถทำนายแนวโน้มและพฤติกรรมในอนาคตได้ ทำให้นักการตลาดสามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับแคมเปญของตน ซึ่งอาจรวมถึงการคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการใดจะเป็นที่ต้องการสูง ช่องทางการตลาดใดจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด และแม้แต่ลูกค้ารายใดที่มีแนวโน้มจะซื้อมากที่สุด ด้วยข้อมูลนี้ นักการตลาดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์และ ROI สูงสุด

              Chatbots และการบริการลูกค้าด้วย AI

              แชทบอทเป็นอีกวิธีที่ AI เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการบริการลูกค้า แชทบอทเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถจำลองการสนทนากับผู้ใช้ที่เป็นมนุษย์ ให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พวกเขาสามารถตอบคำถามที่พบบ่อย ให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ และแม้แต่ดำเนินการตามคำสั่งซื้อ ด้วยการใช้แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI บริษัทต่างๆ สามารถให้การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24/7 โดยไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ ช่วยประหยัดเวลาและเงินในขณะที่ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า

              ข้อพิจารณาด้านจริยธรรมและอนาคตของ AI ในด้านการตลาด

              ในขณะที่ AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญคือต้องควรคำนึงทางจริยธรรมของการใช้งาน ตัวอย่างเช่น ศักยภาพของ AI ที่จะขยายเวลาอคติและการเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านต่างๆ เช่น การจ้างงานและการโฆษณา สิ่งสำคัญสำหรับบริษัทต่างๆ คือต้องมีความโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้ AI และเพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้ AI อย่างยุติธรรมและมีจริยธรรม ในขณะที่เทคโนโลยี AI มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักการตลาดจะต้องติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาล่าสุดและพิจารณาถึงผลกระทบทางจริยธรรมของการใช้งาน

              สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

              เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

              Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

                Yearly Budget

                How do you know us?

                5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกค้าของคุณสนใจ Upselling

                5 signs for upsell

                การเพิ่มยอดขายอาจเป็นกลยุทธ์ที่ยากที่สุดในการขายและการบริการลูกค้า  การเพิ่มโอกาสในการขายกับลูกค้า บางครั้งก็ยากสำหรับตัวแทนฝ่ายขายที่จะหายอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากบริษัทของคุณไม่มีประวัติเกี่ยวกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า จึงไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจะสนใจโปรโมชันหรือไม่

                การมองเห็นโอกาสในการขายต้องใช้กลเม็ดเด็ดพรายแบบเดียวกับที่คุณใช้เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าใหม่ โชคดีที่สถานการณ์ทั้งห้าด้านล่างสามารถนำมาใช้เพื่อระบุโอกาสที่ดีในการขายต่อยอดได้อย่างน่าเชื่อถือ

                5 สัญญาณว่าลูกค้าของคุณพร้อมสำหรับ Upselling

                1. ลูกค้าประสบความสำเร็จกับผลิตภัณฑ์ของคุณ

                เมื่อลูกค้าเริ่มเห็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับผลิตภัณฑ์ของคุณ ลูกค้าจะเปิดใจมากขึ้นที่จะเริ่มการสนทนาใหม่เกี่ยวกับแพ็คเกจที่ซับซ้อนมากขึ้น ท้ายที่สุด ลูกค้าเริ่มตระหนักถึงผลตอบแทนจากการลงทุนและเห็นด้วยตนเองว่าผลิตภัณฑ์ของคุณใช้ได้ผล

                2. บริษัทของลูกค้าอยู่ในตำแหน่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์

                เมื่อใดก็ตามที่บริษัทของลูกค้ากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสายผลิตภัณฑ์ใหม่ การเปลี่ยนไปใช้ข้อเสนอที่มีอยู่ หรือแค่เปลี่ยนแพ็คเกจ คุณควรพร้อมเสมอ

                หากคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกค้าจะต้องการก้าวไปอีกขั้นกับผู้ขายที่พวกเขารู้จักและไว้วางใจอยู่แล้ว โดยที่คุณสามารถขายสิ่งที่จะช่วยในความพยายามครั้งใหม่นี้ได้

                3. ลูกค้ามุ่งเน้นไปที่การจัดลำดับความสำคัญใหม่

                บริษัทส่วนใหญ่ไม่เผชิญความท้าทายเพียงครั้งเดียว ลูกค้ามักจะมีโครงการที่แข่งขันกันหลายโครงการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งซึ่งบางคนจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญ ซึ่งหมายความว่าเมื่อผลิตภัณฑ์ของคุณเข้าที่และแก้ไขปัญหาที่มีอยู่แล้ว ลูกค้าของคุณจะมีเวลาจัดการกับสิ่งอื่นๆ ในรายการของพวกเขา

                4. ลูกค้ากำลังแนะนำธุรกิจใหม่ให้กับคุณ

                หากลูกค้าของคุณส่งผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าและลีดใหม่ๆ มาให้คุณ นั่นเป็นสัญญาณว่าพวกเขาพอใจกับผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีใครจะใช้เวลานอกตารางงานหรือเสี่ยงต่อชื่อเสียงของตนเพื่อส่งการแนะนำในนามของบริษัทที่พวกเขากำลังจะยุติความสัมพันธ์ด้วย

                ในกรณีเหล่านี้ ให้ติดต่อลูกค้าของคุณเพื่อขอบคุณสำหรับการอ้างอิง จากนั้นใช้โอกาสนี้เป็นโอกาสในการถามลูกค้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง

                5. ธุรกิจของลูกค้ากำลังเติบโต

                การเติบโตยังบ่งชี้ว่าบริษัทกำลังลงทุนเพื่ออนาคตและมีแนวโน้มที่จะมีความต้องการใหม่ๆ เมื่อขยายขนาด ได้มากขึ้นแล้วคุณจะสามารถเติมเต็มความสัมพันธ์ไปอีกหลายปี

                สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

                เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

                Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

                  Yearly Budget

                  How do you know us?

                  เทคนิคการเลือก MarTech tool เพื่อธุรกิจของคุณ

                  how to choose martech tools

                  เครื่องมือทางการตลาด หรือ Martech สามารถเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดของตน ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย การเลือก marketing tools ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณอาจเป็นเรื่องยาก บทความนี้จะให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ธุรกิจคุณในการตัดสินใจและเลือก marketing tools ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของธุรกิจ

                  ตรวจสอบเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน

                  ก่อนที่จะเพิ่มเครื่องมือ marketing tools ใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ สิ่งสำคัญคือต้องประเมินสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว วิธีนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนและมั่นใจได้ว่า marketing tools ของคุณผสานรวมกับเครื่องมือที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น

                  จัดทำรายการ เครื่องมือทางการตลาดทั้งหมดที่คุณใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมถึงคุณลักษณะ ค่าใช้จ่าย และประสิทธิภาพ สิ่งนี้จะทำให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนว่าอะไรได้ผลและอะไรไม่ได้ผล และช่วยให้คุณระบุช่องว่างที่ต้องเติมเต็ม เมื่อคุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับ

                  เครื่องมือทางการตลาดดิจิทัล ปัจจุบันของคุณแล้ว คุณสามารถเริ่มสำรวจเครื่องมือทางการตลาดใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริม marketing tools ที่มีอยู่ของคุณ

                  กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการตลาดของคุณ

                  ก่อนที่จะเลือกเครื่องมือ Martech สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการตลาดของคุณ

                  เป้าหมายคืออะไรและด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดไหน? คุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ สร้างโอกาสในการขาย หรือการรักษาความสัมพันธ์ลูกค้าหรือไม่? เมื่อคุณมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายแล้ว

                  คุณสามารถเริ่มระบุเครื่องมือ marketing tools ที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ โปรดทราบว่าเครื่องมือที่แตกต่างกันอาจเหมาะกับเป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกอย่างชาญฉลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

                  เปรียบเทียบ Marketing tools

                  เมื่อคุณได้ประเมิน marketing tools ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันแล้ว ก็ถึงเวลาค้นคว้าและเปรียบเทียบตัวเลือกของคุณ มองหา marketing tools ที่แก้ไขช่องว่างที่คุณระบุไว้ในสินค้าคงคลังของคุณ และพิจารณาคุณสมบัติและประโยชน์

                  ที่สำคัญที่สุดสำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ อย่าลืมอ่านบทวิจารณ์และขอคำแนะนำจากนักการตลาดคนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมของคุณ เมื่อเปรียบเทียบตัวเลือกของ martech มีอะไรบ้าง

                  ให้พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุน ความสะดวกในการใช้งาน ความสามารถในการรวมระบบ และการสนับสนุนลูกค้า โดยการทำวิจัยและประเมินทางเลือกของคุณอย่างรอบคอบ คุณจะสามารถเลือกเครื่องมือทางการตลาดที่ดีที่สุดสำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ และทำให้ธุรกิจของคุณพร้อมสู่ความสำเร็จ

                  พิจารณาความสามารถในการผสานรวมของโซลูชัน Martech แต่ละรายการ

                  เมื่อเลือกมาร์เทคที่ดีที่สุดสำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าจะผสานรวมกับเครื่องมือและระบบที่คุณมีอยู่ได้ดีเพียงใด มองหาโซลูชันมาร์เทคที่ผสานรวมเข้ากับ CRM, แพลตฟอร์มการตลาดผ่านอีเมล (EDM), เครื่องมือจัดการโซเชียลมีเดีย และระบบหลักอื่นๆ เช่น Google analytics ได้อย่างราบรื่น วิธีนี้จะช่วยคุณหลีกเลี่ยงปัญหาและความไร้ประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับการจัดการเครื่องมือที่ไม่ได้เชื่อมต่อหลายรายการ นอกจากนี้ ให้พิจารณาความง่ายในการผสานรวม และพิจารณาว่าคุณจะต้องจ้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน IT เพื่อช่วยเหลือในกระบวนการนี้หรือไม่ การเลือกโซลูชัน marketing tools ที่มีความสามารถในการผสานรวมที่แข็งแกร่งจะช่วยประหยัดเวลา เงิน และอาการปวดหัวในระยะยาว

                  ประเมินต้นทุนและ ROI ของตัวเลือก Martech แต่ละรายการ

                  เมื่อเลือกมาร์เทคที่ดีที่สุดสำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาต้นทุนและผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่เป็นไปได้ของแต่ละตัวเลือก

                  แม้ว่าโซลูชัน marketing tools บางอย่างอาจดูเหมือนมีราคาแพง แต่อาจให้ประโยชน์ในระยะยาวและประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก ในทางกลับกัน ตัวเลือกที่ถูกกว่าอาจไม่ได้ให้ฟังก์ชันการทำงานหรือความสามารถในการรวมระบบในระดับเดียวกัน

                  พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ การบำรุงรักษาและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประสิทธิภาพทางการตลาดและรายได้ของคุณ ด้วยการประเมินต้นทุนและ ROI ของตัวเลือก marketing tools แต่ละตัวเลือกอย่างรอบคอบ คุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายและงบประมาณทางธุรกิจของคุณ

                  สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

                  เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

                  Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

                    Yearly Budget

                    How do you know us?

                    Customer 360 คืออะไร? สำคัญต่อธุรกิจคุณหรือไม่?

                    customer 360

                    Customer 360 คือ เครื่องมือช่วยรวบรวมข้อมูลจากทุกแพลตฟอร์ม ที่ไม่ว่าคุณจะเก็บไว้ไหน ให้รวบรวมมาอยู่ในที่เดียวแบบ customer 360

                    หากคุณกำลังเผชิญปัญหาการเก็บรวบรวมข้อมูลที่กระจัดจาย ตามแพลตฟอร์มหรือทีมต่างๆ แต่การรวบรวมข้อมูลต่างๆนั้นก็สำคัญต่อการนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนากลยุทธ์การขายเช่นกัน บทความนี้จะคุณไปทำความรู้จัก customer 360 ยิ่งขึ้นและผลประโยชน์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล 360 องศา

                    Customer 360 คืออะไร

                    Customer 360 เป็นรูปแบบการรูปแบบการรวบรวบข้อมูลลูกค้าที่ต่อเนื่องมาจาก Customer single view ที่สามารถแสดงข้อมูลของลูกค้าที่กระจัดจายออกไปในจุดเชื่อมต่อต่างๆ จากเชื่อมต่อจากแอปพลิเคชันและแหล่งข้อมูลที่ใช้สื่อสารกับลูกค้าเพื่อให้ธุรกิจมีมุมมองลูกค้าแบบ 360 องศา ซึ่งรวมถึงข้อมูลลูกค้าจาก: การบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM), โซเชียลมีเดีย, อีคอมเมิร์ซ, การตลาด, การขาย, การบริการลูกค้า, แอปมือถือ และจุดติดต่อลูกค้าอื่นๆ ธุรกิจต่างๆ ใช้ Customer 360 เพื่อรับข้อมูลลูกค้าแบบ Real-time เพื่อเพิ่มคุณภาพของการบริการลูกค้าเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดของลูกค้า การมีแหล่งข้อมูลเดียวช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นสำหรับการพัฒนาแผนการตลาดและกลยุทธ์การขาย

                    ความสำคัญของ Customer 360

                    ความสำคัญของ Customer 360 นั้น คือช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ดีขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเสริมสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพิ่มโอกาสในการขาย และการทำการตลาดของธุรกิจที่ดีขึ้น

                    ข้อมูลลูกค้า Customer data คืออะไร มีกี่ประเภท

                    ข้อมูลลูกค้ามี 4 ประเภทดังนี้

                    1. ข้อมูลพื้นฐาน (Basic data)

                    ข้อมูลลูกค้าส่วนบุคคลขั้นพื้นฐาน เช่น ชื่อผู้ติดต่อ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ตำแหน่งงาน และองค์กรที่เชื่อมโยงเป็นตัวอย่างของข้อมูลพื้นฐานลูกค้า เพศและรายได้ หรือข้อมูลบริษัท เช่น รายได้ต่อปีหรืออุตสาหกรรม ก็เป็นข้อมูลลูกค้าพื้นฐานเช่นกัน

                    2. ข้อมูลการโต้ตอบ (Interaction data)

                    ข้อมูลเกิดจาก การมีส่วนร่วมและการโต้ตอบกับลูกค้า รวมถึงจุดติดต่อต่างๆที่ลูกค้ามีกับแบรนด์ของคุณ ข้อมูลการโต้ตอบมีประโยชน์อย่างยิ่งในการการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางของผู้ซื้อ การดูหน้าเว็บ การดาวน์โหลดไฟล์ การแชร์บนโซเชียล การสอบถามทางอีเมล

                    3. ข้อมูลพฤติกรรม (Behavioral data)

                    ข้อมูล “พฤติกรรม” นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการจริงของผลิตภัณฑ์ บริษัทเทคโนโลยีมักอ้างถึงข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เช่น การลงทะเบียนทดลองใช้ฟรี การเข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้ ลักษณะการใช้งาน การเพิ่มสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้ การปิดการใช้งาน และการปรับลดการเข้าถึงต่างๆ เป็นต้น

                    ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เกือบทุกองค์กรเก็บข้อมูลพฤติกรรมบางประเภทไว้ หากคุณเป็นผู้ผลิต คุณจะได้รับใบสั่งซื้อที่ถูกติดตามใน ERP ของคุณเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้คุณทำตามคำขอของลูกค้าได้อย่างถูกต้องแล้ว ใบสั่งซื้อแต่ละใบยังแสดงถึงโอกาสในการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าและระบุแนวโน้มในอนาคต

                    4. ข้อมูลทัศนคติ (Attitudinal data)

                    ข้อมูล “ทัศนคติ” ช่วยให้คุณเข้าใจว่าลูกค้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับบริษัทของคุณและโซลูชันที่คุณนำเสนอ ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลสามประเภทอื่น ๆ ข้อมูลทัศนคตินำเสนอบัญชีโดยตรงของสิ่งที่ลูกค้าคิดจริง ๆ บทวิจารณ์ออนไลน์ ความคิดเห็นส่วนตัว และแบบสำรวจความพึงพอใจเป็นแหล่งข้อมูลทัศนคติ

                    การเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าแบบ customer360

                    การเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้านั้นสามารถทำได้หลายวิธีดังนี้

                    • สังเกตจากพฤติกรรมลูกค้าบนโลกออนไลน์
                    • การสัมภาษณ์ลูกค้า
                    • การวิเคราะห์และตรวจสอบผ่าน Website Analytics เช่น Google Analytics
                    • การสร้างแบบสอบถามออนไลน์
                    • การรวบรวมข้อมูลโดย Marketing Tools เช่น Connect X

                    อุปสรรคของการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า

                    อุปสรรคและข้อผิดพลาดที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อต้องการรวบรวมข้อมูล ได้แก่:

                    ปัญหาคุณภาพของข้อมูล

                    ข้อมูลดิบมักมีข้อผิดพลาด ความไม่สอดคล้องกัน และปัญหาอื่นๆ ตามหลักการแล้ว การรวบรวมข้อมูลได้รับการออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดปัญหาดังกล่าวให้เหลือน้อยที่สุด

                    การค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

                    การรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์อาจเป็นงานที่ซับซ้อนสำหรับนักการตลาด การใช้เทคนิคการจัดการข้อมูลช่วยให้ค้นหาและเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น

                    การเลือกประเภทของข้อมูล

                    มักเป็นปัญหาพื้นฐานทั้งสำหรับการรวบรวมข้อมูลดิบล่วงหน้า การรวบรวมข้อมูลที่ไม่จำเป็นจะเพิ่มเวลา ค่าใช้จ่าย และความซับซ้อนให้กับกระบวนการ แต่การละทิ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถจำกัดมูลค่าทางธุรกิจของชุดข้อมูลและส่งผลต่อผลการวิเคราะห์

                    การจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่

                    Big data มักประกอบด้วยข้อมูลที่มีโครงสร้าง ไม่มีโครงสร้าง และกึ่งโครงสร้างรวมกันในปริมาณมาก ทำให้ขั้นตอนการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลเริ่มต้นมีความซับซ้อนมากขึ้น

                    การขาดความร่วมมือของการสัมภาษณ์หรือตอบแบบสอบถาม

                    การขาดการตอบสนองหรือผู้เข้าร่วมที่เต็มใจจะทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความถูกต้องของข้อมูลที่รวบรวม

                    ข้อดีในการนำ Customer 360 มาใช้ในธุรกิจ

                    ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

                    การเข้าใจความต้องการ ความพึงพอใจ และพฤติกรรมของลูกค้า บริษัทต่างๆ สามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และการสื่อสารของตนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าที่ดีขึ้น

                    การเพิ่มโอกาสทางการขายและการตลาด

                    สามารถใช้ข้อมูล Customer 360 เพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้มในพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งสามารถช่วยบริษัทระบุโอกาสในการขายและการตลาดใหม่ๆ

                    การรักษาลูกค้าเก่า

                    การทำความเข้าใจปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความภักดีของลูกค้า บริษัทต่างๆ สามารถดำเนินการเพื่อปรับปรุงการรักษาและลดการเลิกราของลูกค้าได้

                    ช่วยในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล

                    ข้อมูล Customer 360 สามารถใช้เพื่อปรับปรุงการสื่อสารและทางการตลาด ให้ตรงตามพฤติกรรมของแต่ละกลุ่มลูกค้า หรือการทำ Personalized marketing

                    การใช้ Customer 360

                    การใช้ Customer 360 อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างรอบด้าน ด้วยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ บริษัทสามารถได้รับมุมมองที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นของลูกค้า ซึ่งสามารถนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีขึ้น เพิ่มโอกาสในการขายและการตลาด การรักษาลูกค้าที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพโดยรวมของธุรกิจที่ดีขึ้น

                    ขั้นตอนแรกในการใช้ Customer 360 คือ การกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน สิ่งนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าโปรแกรมนั้นสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยรวม และข้อมูลที่รวบรวมจะถูกใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น หากเป้าหมายคือการปรับปรุงการรักษาลูกค้า โปรแกรมควรมุ่งเน้นไปที่การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความภักดีของลูกค้า และระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการรักษาลูกค้า

                    เมื่อกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการระบุเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนกระบวนการทำงาน ซึ่งอาจรวมถึงแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล เครื่องมือวิเคราะห์ ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และระบบรวบรวมข้อมูลลูกค้า (CDP) สิ่งสำคัญคือต้องเลือกเครื่องมือที่สามารถรวมเข้ากับระบบที่มีอยู่และสามารถจัดการข้อมูลปริมาณและความหลากหลายของข้อมูลที่จะรวบรวมได้

                    การอบรมให้ความรู้ทีมที่ต้องผิดชอบข้อมูลถือเป็นส่วนสำคัญของการนำ Customer360 ไปใช้ ทีมนี้ควรรับผิดชอบในการรวบรวม วิเคราะห์ และตีความข้อมูล ตลอดจนการดำเนินการตามข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากข้อมูล ทีมควรมีบุคคลที่มีทักษะหลากหลาย รวมถึงนักวิเคราะห์ข้อมูล นักการตลาด และตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า

                    การใช้ Customer 360 อาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่การใช้อย่างถูกต้อง จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจใดๆ ด้วยการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ระบุเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม และสร้างทีมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ธุรกิจต่างๆ จะได้รับความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับลูกค้าของตน ซึ่งสามารถใช้ในการปรับปรุงผลลัพธ์ทางธุรกิจได้

                    สรุป

                    Customer 360 นั้นจะช่วยรวบรวมข้อมูลจากทุกแพลตฟอร์ม ที่ไม่ว่าคุณจะเก็บไว้ไหน ให้รวบรวมมาอยู่ในที่เดียว ไม่ว่าจะโดยการเลือกใช้ระบบ CDP หรือ CRM การเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน การอัปโหลดข้อมูล หรือการใช้ API integration การสามารถทำได้ เพื่อง่ายและสะดวกต่อการนำข้อมูลวิเคราะห์ และใช้งานต่อไป

                    โดยสรุป การใช้ Customer 360 อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจ ที่ต้องการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างรอบด้าน สามารถนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีขึ้น เพิ่มโอกาสในการขายและการตลาด การรักษาลูกค้าเก่า และประสิทธิภาพทางธุรกิจโดยรวมที่ดีขึ้น ด้วยการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ระบุเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม อย่างเช่น Connext X ระบบ CDP ที่ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลได้แบบ 360 องศา พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับทุกระบบ ให้ครบจบที่เดียว

                    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

                    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

                    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

                      Yearly Budget

                      How do you know us?