Category Archives: Highlight

Personalized Marketing (2023) ต้องรู้ใจผู้บริโภคอย่างแท้จริงถึงจะชนะใจผู้บริโภคได้

วันนี้ทาง ConnectX จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ Personalized Marketing กับเทรนในปี 2023

ขอเกริ่นก่อนว่าในปัจจุบันนั้นไม่มีใครไม่พูดถึงหรือไม่รู้จัก Personalized Marketing อย่างแน่นอน

Personalized Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเกือบทุกบริษัทบนโลกในปัจจุบัน ปัจจุบันการตลาดแบบ Mass ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพแล้วถ้าเปรียบเทียบจาก ROI ที่หลายๆบริษัทได้มีการรายงานออกมา

https://segment.com/

การตลาดแบบ Personalized Marketing คือหนึ่งในเทรนด์การตลาดดิจิทัลที่จะเข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในปี 2023 ต่อธุรกิจต่างๆ ขอยกตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้ Personalized Marketing และประสบความสำเร็จจนได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้หรือผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น Tiktok, Netflix และ Spotify ทั้งสามแอพลิเคชั่นนี้ถือว่าได้ทำ Personalized Marketing จนประสบความสำเร็จอย่างมากจนได้รับความชื่นชนจากผู้ใช้งาน User ต่างๆทั่วโลกว่ามีอัลกอริทึมที่รู้ใจผู้ใช้งานสามารถแนะนำเพลง หนัง หรือวีดีโอแบบรู้ใจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่เบื่อเลยสักนิดเวลาใช้งานตัวแอพลิเคชั่นเหล่านี้

ปัจจุบันลูกค้าหรือผู้บริโภคคาดหวังให้แบรนด์จะต้องรู้ใจ มากไปกว่านั้นผู้บริโภคเกิน 80% ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัทที่ให้ประสบการณ์แบบที่รู้ใจดังเช่นที่ได้ยกตัวอย่างไปด้านบนว่ามีแอพลิเคชั่นอะไรบ้าง ด้วยการเข้าถึงข้อมูลที่มากขึ้นและมีระบบ Marketing automation ที่ดีนักการตลาดจึงสามารถสร้างการสื่อสารส่วนบุคคล (Personalized Marketing) และข้อเสนอที่เกี่ยวข้องและมีประสิทธิภาพ นักการตลาดยังสามารถติดตาม Customer journey ผ่านช่องทาง touchpoint ต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เป็นแบบ Ominichannel และมากไปกว่านั้นมีรายงานระบุว่าซอฟแวร์ต่างๆที่ทำเกี่ยวกับ Personalized Marketing คาดว่าน่าจะมีการเติบโตเป็น 2.2 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2569

ในปัจจุบันเราไม่สามารถปฏิเสธเลยได้ว่าเราใช้ AI เข้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและผู้บริโภคที่เข้ามาเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกหรือที่เราเรียกกันว่า Insight

Insight เหล่านี้ AI สามารถดูแลจัดการประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับลูกค้าผ่านจุด Touchpoints ต่างๆ ผสานเข้าด้วยเทคโนโลยีแบบ ominichannel ในปัจจุบัน จนเกิดเป็น Personalized marketing ในที่สุด

ผู้เชี่ยวชาญได้บอกไว้อีกว่าตลาดของ AI ที่จะใช้ในการทำ Personalized marketing นั้นมีมูลค่ามากถึว 4.45 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 จะเติบโตที่ CAGR 15.4% จนถึงปี 2571

สรุป

เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าในปัจจุบันนั้น การทำการตลาดแบบ Personalized marketing นั้นมีประสิทธิภาพและได้ผลมากกว่าแบบเก่าที่เราเรียกกันว่าการตลาดแบบกลุ่มใหญ่หรือ Mass ที่เน้นส่งไปหากลุ่มคนที่มากๆแม้คนกลุ่มนั้นจะไม่ใช่เป้าหมายของเราก็ตามเพื่อให้เกิด Awareness แต่สุดท้ายกลุ่มเหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะ Convert ทำให้เกิดการซื้อหรือใช้ได้

ดังนั้นถ้าผู้อ่านคนไหนยังไม่มีตัวเก็บข้อมูลที่เป็น First party data เป็นของตัวเองสามารถติดต่อสอบถามกับทาง ConnectX ได้เลยนะคะ

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

เผยเคล็ดลับทำการตลาด LINE Marketing อย่างไรให้ลูกค้าประทับใจ

Line marketing

การตลาด LINE Marketing นั้นเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งกับผู้ประกอบการและธุรกิจต่างๆ แล้วแบรนด์ของท่านจะสร้างความประทับใจเหล่านั้นได้อย่างไร?

แอปพลิเคชัน LINE นั้นเป็นแอปสื่อสารที่อยู่คู่กับมือถือของคนไทยในยุคนี้แทบทุกคน สอดคล้องกับสถิติล่าสุดที่มีจำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทยมากกว่า 49 ล้านคน อีกทั้งเป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง นักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ เล็งเห็นว่า ”การตลาด LINE Marketing” นั้นสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แล้วแบรนด์ของท่านจะทำการตลาดผ่าน LINE ได้อย่างไร? Connect X จะมาบอกเคล็ดลับให้ทราบกันครับ

เริ่มต้นทำการตลาด LINE Marketing อย่างไรดี?

การเข้าถึงลูกค้าผ่าน LINE นั้นแน่นอนว่าต้องมีการสร้างบัญชี LINE Official Account  หรือ LINE OA หรือที่หลายคนเรียกกันจนเคยชินว่า “ไลน์แอด” ซึ่งเดิมทีก็เป็นเครื่องมือที่มีฟังก์ชันหลากหลายอยู่แล้ว เช่น การแชท คูปอง บัตรกำนัลส่วนลด ไปจนถึงการส่งคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ สามารถสร้างความสัมพันธ์แบบ Personalized กับลูกค้าแต่ละคนได้ อีกทั้งยังใช้ตรวจสอบพฤติกรรมการซื้อและความสนใจได้ด้วย

สรุปง่ายๆ ว่าการตลาด LINE Marketing นั้นคือการทำการตลาดผ่าน LINE Official Account ของแบรนด์นั่นเอง ที่ไม่ว่า SME หรือธุรกิจใหญ่ๆ ก็ทำได้

ทำไมต้องทำการตลาด LINE Marketing?

เพราะว่า LINE Official Account นั้นมีข้อดีต่างๆ มากมายที่ให้ประโยชน์กับแบรนด์อย่างไม่ต้องสงสัย ทาง Connect X จึงนำข้อดีอย่างคร่าวๆ มาบอกทุกท่าน ได้แก่

  • แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ทันทีผ่านแชทและฟังก์ชัน LINE OA ทำให้ง่ายต่อการดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าและทำโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้าที่รู้จักแบรนด์อยู่แล้ว (Retargeting)
  • สะดวกสบายสำหรับร้านและลูกค้าทั้งในแง่ของการพูดคุย สอบถามรายละเอียดสินค้า ไปจนถึงการปิดการขาย
  • ลูกค้าส่วนใหญ่รู้สึกว่า LINE เป็นช่องทางการพูดคุยกับแบรนด์ที่ง่ายที่สุด เพราะ LINE เป็นแอปพลิเคชันแชทที่ผู้คนคุ้นเคย จึงทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถถามคำถามได้สะดวกและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ LINE ยังเป็นแพลตฟอร์มดัง ที่มีระบบ CRM ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อได้อีกด้วย ซึ่ง Connect X ก็สามารถทำได้อย่างราบรื่นเช่นกันครับ

ทำการตลาด LINE Marketing อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น แอปพลิเคชัน LINE มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมาก และมีหลายกลุ่มเป้าหมาย Connect X จะมาบอกเคล็ดลับการทำการตลาดผ่าน LINE ให้ทุกท่านนำไปประยุกต์ใช้กับแบรนด์ของตน

1.เลือกใช้ฟังก์ชันให้ถูก

แอป LINE นั้นมีฟังก์ชันสำหรับการทำการตลาดมากมาย แบรนด์นั้นสามารถใช้เครื่องมือได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเพื่อประสิทธิภาพในการทำการตลาด ขอแนะนำให้ เลือกใช้เฉพาะฟังก์ชันที่จำเป็นหรือเหมาะสมกับแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น

  • Rich Menu – ส่วนแรกที่ลูกค้าเห็นเมื่อได้เพิ่มเพื่อนบน LINE OA ทางแบรนด์สามารถใส่เมนูหรือลิงก์ต่างๆ ได้ อาทิ รายละเอียดสินค้า บริการ วิธีการสั่งซื้อ ฯลฯ เพื่อเตรียมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า และแบรนด์ก็จะลดเวลาการเข้ามาตอบแชทอีกด้วย
  • Card Message – เครื่องมือมากประโยชน์ที่เหมาะสำหรับส่งข่าวสินค้าใหม่ โปรโมชัน และข้อมูลหลายๆ อย่าง ได้พร้อมๆ กัน และยังสามารถใส่ “ลิงก์” ไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์ได้อีกด้วย
  • Reward Card & Coupon – เป็นฟังก์ชันสำหรับการจัดโปรโมชันที่เป็นประโยชน์ในการกระตุ้นการขาย เช่น ให้ลูกค้าสะสมแต้มมาแลก Reward Card หรือการแจกคูปองเพื่อให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือบริการ

2.ห้ามลืมช่วงเทศกาล

ในการทำ LINE Marketing นั้นหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือจังหวะในการส่งข้อความ หรือการ Broadcast เพราะหากทำบ่อยเกินไปก็อาจสร้างความรำคาญ แต่หากทำน้อยเกินไป ลูกค้าก็อาจจะลืมแบรนด์ของคุณไปง่ายๆ ซึ่งช่วงเทศกาลนั้นถือเป็นจังหวะเหมาะในการส่งข้อความการตลาดต่างๆ ให้กับลูกค้า เช่น Black Friday, 11.11, คริสต์มาส, วันปีใหม่ เป็นต้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้บริโภคต่างต้องการจับจ่ายใช้สอยกันนั่นเอง

3.สร้างโฆษณาบน LINE Ads Platform

เมื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมในแอป LINE ไว้ได้แล้ว ก็ต้องค้นหาลูกค้าใหม่ด้วย ซึ่งสิ่งที่นักการตลาดหลายท่านแนะนำก็คือ LINE Ads Platform แบรนด์สามารถยิง Ad ได้ทั้งในหน้าแชท LINE, บน Timeline, LINE TODAY หรือแม้กระทั่งแอป LINE TV ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ทั้งหมดก็เป็นเคล็ดลับเบื้องต้นสำหรับการทำ LINE Marketing และยังมีเคล็ดลับอีกมากมายด้วยกัน

Connect X เชื่อมต่อ LINE OA

การมีความสม่ำเสมอในการบริการเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อแบรนด์มีแอดมินหลายคนที่คอยสับเปลี่ยนกันตอบแชทลูกค้า บางครั้งก็อาจเกิดปัญหา “ไม่ได้คุยในเรื่องที่ค้างไว้” ทำให้ลูกค้ารู้สึกแย่และศูนย์เสียลูกค้าไปในที่สุด

ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วย Connect X แพลตฟอร์ม CDP (Customer Data Platform) ที่สามารถเชื่อมต่อกับ LINE สามารถให้แอดมินแชทพูดคุยผ่าน Connect X ได้โดยไม่ต้องสลับไปมา พร้อมระบบจัดการ Admin แบบครบวงจร พร้อมยังสามารถดู Report ของ Performance แต่ละคนได้ด้วย สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างครบถ้วน และมี Marketing Automation ที่จะแบ่งกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจต่างกัน เพื่อส่ง Personalized Message เป็นแคมเปญหรือโปรโมชันที่ตรงกับความสนใจลูกค้าอย่างตรงจุดได้บน LINE และช่องทางยอดนิยมอื่นๆ อีกด้วย

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

ถอดบทเรียน 3 ธุรกิจชื่อดังที่ใช้ระบบ CRM จนประสบความสำเร็จ!

Connect X พาทุกท่านมาถอดบทเรียนเกี่ยวกับ 3 ธุรกิจชื่อดังระดับโลก ที่ได้นำระบบ CRM มาใช้จนประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นแนวทางนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ

ทุกวันนี้ การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือ Customer Relationship Management (CRM) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างเห็นผลแก่ธุรกิจแทบทุกรูปแบบ โดยจากสถิติพบว่า 75% ของธุรกิจต่างๆ กล่าวว่า ระบบ CRM เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้สามารถปิดการขายได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของผลประกอบการทั้งหมดเลยทีเดียว ระบบ CRM จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เหล่าธุรกิจชื่อดังประสบความสำเร็จ เพราะการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าให้เป็นไปได้ด้วยดี จะนำไปสู่การสร้างโอกาสให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการใหม่อีกครั้ง เกิดความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) พร้อมยังแนะนำให้คนอื่นๆ มาซื้อสินค้าจากแบรนด์ของคุณด้วยเช่นกัน

วันนี้ Connect X จะพามาถอดบทเรียน 3 ธุรกิจชื่อดังที่ใช้ระบบ CRM จนประสบความสำเร็จ เพื่อให้ธุรกิจของคุณได้เห็นตัวอย่างระบบ CRM และลองนำไปปรับใช้ได้ง่ายๆ ไม่ว่าธุรกิจของคุณมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็สามารถใช้งานได้ แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ CRM เบื้องต้นกันก่อน

ระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management คืออะไร?

เครื่องมือที่ใช้ในการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าขององค์กรหรือธุรกิจนั้นๆ ให้สามารถรักษาลูกค้าเอาไว้ได้นานที่สุด ผ่านการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและสร้างการปฏิสัมพันธ์แบบเฉพาะบุคคลอย่างมีความหมาย ให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ

นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสให้เกิดการซื้อจากบุคคลที่มีศักยภาพเป็นลูกค้า (Potential Customer) เพราะสามารถนำเสนอสินค้าได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะต้องอาศัยการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคมาวิเคราะห์ เพื่อหากลยุทธ์ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด จึงมีการรวบรวมข้อมูลของลูกค้าอย่างเป็นระบบระเบียบ ให้สามารถได้ข้อมูลลูกค้าตั้งแต่ก่อนเริ่มขายไปจนถึงการบริการหลังการขายได้ง่ายๆ ทำให้ธุรกิจเข้าถึงและรู้ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการเก็บข้อมูลดังกล่าวต้องได้รับการยินยอมจากลูกค้าก่อน ตามกฎหมาย PDPA หรือ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.​ 2562 เหล่าธุรกิจจึงสบายใจได้ว่ามีกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างแน่นอน

3 ธุรกิจที่ใช้ระบบ CRM จนประสบความสำเร็จ

เมื่อคุ้นเคยกับคำว่า CRM แล้ว มาดูกันว่ามีธุรกิจยักษ์ใหญ่อะไรบ้างที่ได้นำระบบนี้มาใช้บริหารความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า จนประสบความสำเร็จอย่างในปัจจุบัน

1. McDonald’s

ปัจจุบัน McDonald’s (แมคโดนัล) เป็นธุรกิจฟาสต์ฟู้ดแนวหน้าในบ้านเรา ซึ่งอยู่คู่คนไทยมานานกว่า 35 ปี และยังคงได้รับความนิยมเรื่อยมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับโลกนั้น แมคโดนัลได้ให้บริการลูกค้ากว่า 69 ล้านคนทั่วโลก และก้าวเป็นเชนร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์แมคโดนัลประสบความสำเร็จได้คือการใช้ระบบ CRM

แมคโดนัลใช้แพลตฟอร์ม CRM ที่เก็บข้อมูลของลูกค้า รวบรวมความคิดเห็น ระดับความและความพึงพอใจที่มีต่อสาขาในภูมิภาคต่างๆ ได้ และยังมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าแบบรายบุคคลอีกด้วย ซึ่งแมคโดนัลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาด้านความสัมพันธ์กับลูกค้าที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การมีระบบ CRM จะช่วยให้สามารถเพิ่มความพึงพอใจ และแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต

ระบบ CRM ของแมคโดนัลสามารถรวมข้อมูลของทุกสาขาทั่วโลกมาเก็บเอาไว้ที่ศูนย์กลาง ให้แฟรนไชส์และผู้จัดการสาขาสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าแบบเรียลไทม์ (Real-Time) ช่วยรายงานและแจ้งเตือนปัญหาได้อย่างแม่นยำ จนสามารถทำให้สามารถตัดสินใจได้ชาญฉลาดและทันท่วงที อีกทั้งช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมีระบบสมาชิกที่คอยส่งข้อมูลข่าวสาร แนะนำสินค้า และโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีลูกค้าขาประจำที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

2. Zara

หลายคนอาจรู้จักกับ Zara อยู่แล้ว ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าจากประเทศสเปน สู่แบรนด์ชั้นนำของยุโรปที่มีสาขากว่า 1,700 สาขาทั่วโลก ที่น่าสนใจคือเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ใช้เทคโนโลยี “Personal Digital Assistants” หรืออุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าแบบเรียลไทม์ เพื่อเข้ามาช่วยพัฒนาการบริการและพัฒนาสินค้า ซึ่งนำมาใช้ตั้งแต่ก่อนที่จะมีเครื่องมือทางการตลาดที่หลากหลายอย่างทุกวันนี้ และเมื่อระบบ CRM ถือกำเนิดขึ้น Zara จึงได้นำข้อมูลลูกค้าเหล่านั้นมาต่อยอดและสนับสนุนการขายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าจากการจัดแคมเปญ และแจกส่วนลดสินค้าได้อย่างแพร่พลาย

สำหรับความน่าสนใจอีกประการภายหลังจากที่ Zara ได้นำระบบ CRM มาใช้นั้น คือการทำให้แบรนด์สามารถระบุสไตล์และคาดการณ์พฤติกรรมในอนาคตของลูกค้าทั่วโลกได้ ทำให้เกิดการออกแบบสินค้าใหม่ๆ ที่ตรงความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ และยังทำให้แบรนด์สามารถรักษาราคาอยู่ในระดับที่สามารถเข้าถึงได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องนำสินค้ามาลดราคาเป็นประจำเพื่อล้างสต๊อกอีกต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยให้พนักงานของ Zara สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงตามความต้องการ และทำให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์ได้ในที่สุด

3. Activision

บริษัทค่ายเกมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ที่มีต้นกำเนิดมาจากนักศึกษามหาวิทยาลัย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2522 และปัจจุบันมีสำนักงานกว่า 15 ประเทศ โดยมีซีรีส์เกมที่ฮิตไปทั่วโลกอย่างเกม Warcraft, Guitar Hero หรือ Call of Duty เป็นต้น

Activision เป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเกมที่ใช้ระบบ CRM มาเชื่อมต่อกับเกมเมอร์ผ่านโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์, Facebook และ Twitter โดยเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ (Cloud) และหลังจากที่นำระบบดังกล่าวมาใช้แล้ว พบว่าช่วยให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้าลงถึง 25% สามารถประเมินและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการบริการได้อีก 82% และนำไปสู่การสร้างความพึงพอใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้สามารถสื่อสารกับเกมเมอร์ในคอมมูนิตี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังติดต่อแชทหรือข้อความเพื่อคุยโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ (Real-Time) อีกด้วย

หลังจากที่ Connect X ได้แนะนำตัวอย่างการใช้ระบบ CRM จากธุรกิจเจ้าดังที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยและระดับโลกกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าระบบ CRM มีประโยชน์อย่างมากในการปรับปรุงการให้บริการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า นอกจากนี้เรายังสามารถนำข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน ประวัติการเข้าชม หรือการปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ของลูกค้าไปต่อยอด เพื่อสร้างกิจกรรมและกลยุทธ์ทางการตลาดได้อีกมาก ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ในรูปแบบใด จะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็สามารถนำระบบ CRM ไปปรับใช้ให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย

หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่มีระบบ CRM ในตัวที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง Connect X คือแพลตฟอร์มที่พร้อมรองรับ PDPA และมีเครื่องมือเก็บข้อมูลลูกค้าเอาไว้ในที่เดียวกัน (CDP) นอกจากนี้ยังมี Marketing Automation กับ AI อัจฉริยะที่คอยช่วยเรื่องการตลาดแบบอัตโนมัติด้วย ทุกคนจึงสามารถมั่นใจได้ว่า Connect X มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และพร้อมที่จะช่วยให้คุณทำการตลาดได้ง่ายขึ้น

บทความอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ระบบ CRM (Customer Relationship Management)

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

PDPA ในมุมมองของ SME ต้องเตรียมพร้อมด้านไหนบ้าง?

เมื่อ PDPA ถูกบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ธุรกิจเล็กใหญ่ต้องปรับตัวให้สามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ แล้วธุรกิจ SME เปิดใหม่ต้องเตรียมพร้อมด้านไหนบ้าง? มาหาคำตอบกัน

การตลาดและแบรนด์ต่างๆ ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อทำการเก็บรวบรวมและประเมินผลข้อมูลในการเข้าถึงความต้องการของลูกค้า กล่าวได้ว่าทุกวันนี้เป็นยุค “Data Driven” อย่างชัดเจน ทั้งยังมีระบบต่างๆ เกิดขึ้นมาสนับสนุน เช่น ระบบ AI, Marketing Automation, CRM หรือ CPD ฯลฯ ช่วยให้ธุรกิจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดได้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 1 มิ.ย. พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการบังคับใช้ “PDPA” หรือ “พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562” ส่งผลให้ธุรกิจ SME และผู้ประกอบการต้องปรับตัวกันยกใหญ่ แล้วแบรนด์ต่างๆ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อรับมือกับ PDPA?

ทำความเข้าใจ PDPA

เชื่อว่าด้วยกระแสของพรบ. ฉบับนี้ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตหลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่าคืออะไร แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่พึ่งเริ่มศึกษา PDPA นั้นย่อมาจาก Personal Data Protection Act ซึ่งหน้าที่ของมันเป็นก็ตามชื่อเลย คือการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ที่องค์กรได้เก็บรวบรวมหรือครอบครองไว้

พูดง่ายๆ ว่า ข้อดีของ PDPA คือความสามารถในการปกป้องข้อมูลของผู้บริโภคหรือลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งถ้าถามว่าข้อเสียหากไม่มี PDPA คืออะไร? ก็ตอบได้ว่าเจ้าของข้อมูลอาจถูกละเมิด ข้อมูลถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือมีผู้ไม่ประสงค์ดีนำข้อมูลไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางพาณิชย์ได้นั่นเอง

แม้จะฟังดูเป็นเรื่องดี แต่ในมุมมองของธุรกิจแล้วก็ถือเป็นเรื่องน่าปวดหัวเลยทีเดียว เพราะพรบ. นี้ส่งผลให้บริษัทต้องเปลี่ยนนโยบายการจัดเก็บข้อมูลให้มีมาตรฐานมากขึ้น ทั้งส่วนของเอกสารแบบออฟไลน์และดิจิทัล รวมไปถึงการตรวจสอบนโยบาย Privacy Policy และ Cookies Consent ในการเก็บข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟ้องร้องในภายหลัง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PDPA ที่นี่

หน้าที่ของธุรกิจที่มีต่อข้อมูลลูกค้าในยุค PDPA

แบรนด์และธุรกิจมีหน้าที่สำคัญในการดูแลข้อมูลของลูกค้า ในฐานะ Data Controller และ Data Processer โดยมีหน้าที่ดังนี้

  • จัดระเบียบข้อมูลและจำแนกความสำคัญของข้อมูล
  • นำข้อมูลไปใช้งานอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ บริการด้านการตลาด หรือคัดเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งาน
  • การนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์สำหรับการทำงานต่อไป
  • การให้ความคุ้มครองและป้องกันข้อมูล

PDPA ในมุมมองของ SME ต้องเตรียมพร้อมด้านไหนบ้าง?

สิ่งที่ธุรกิจ SME ต้องเตรียมพร้อม รับกฎหมาย PDPA

มาถึงคำถามที่เจ้าของแบรนด์หลายๆ คนสงสัย ซึ่งก็ต้องมีการเตรียมตัวในหลายๆ ด้าน  Connect X ขอยกตัวอย่างมาให้ 5 ข้อ ดังนี้

1.ตั้ง Budget ให้พร้อม

ในการบริหารข้อมูลทั้งในรูปแบบเอกสารและข้อมูลดิจิทัลนั้นมีค่าใช้จ่าย เช่น เครื่องเซิร์ฟเวอร์ (Server) สำหรับเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสหรือ Ransomware และแพลตฟอร์มสำหรับจัดการข้อมูล นอกจากนี้อาจมีค่าใช้จ่ายในด้านของการปรึกษานักกฎหมายอีกด้วย

2.แต่งตั้ง DPO เพื่อดูแลข้อมูล

DPO หรือ Data Protection Officer คือเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแลและให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดในองค์กร เพื่อให้การจัดการข้อมูลเป็นไปตามกฎของ PDPA และประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐด้วยนั่นเอง

3.กำหนดประเภทข้อมูลและวัตถุประสงค์

อย่างที่กล่าวไปว่าธุรกิจต้องปรับโครงสร้างการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ให้จัดเก็บเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่สอบถามหรือขอข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหากไม่จำเป็น

4.ทบทวน Data Protection Policy

สำหรับธุรกิจที่ไม่ได้มีการร่างนโยบายหรือมาตรการป้องกันข้อมูลที่ครอบคลุมมากนัก ก็ควรที่จะตรวจสอบและทบทวนใหม่เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัยที่สุด พร้อม จัดทำเอกสารมาตรการความปลอดภัยและดำเนินการจริง เพื่อใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงว่าบริษัทมีการดำเนินการตามเกณฑ์

5.ค้นหาแพลตฟอร์ม CRM หรือ CPD ที่สอดคล้องกับ PDPA

ระบบ Customer Relationship Management (CRM) หรือ Customer Data Platform (CDP) ล้วนเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์บริหารความสัมพันธ์และจัดการข้อมูลของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งธุรกิจก็ควรเลือกใช้ระบบ CRM หรือ CDP ที่ใช้งานง่าย ครอบคลุม และปลอดภัย หากมีฟีเจอร์เด็ดๆ เสริมด้านการตลาดอย่าง Marketing Automation, Personalized Marketing, ระบบ AI หรืออื่นๆ จะยิ่งช่วยให้จัดการข้อมูลต่างๆ ของผู้บริโภคและลูกค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่น

ทั้ง 5 ข้อนี้ก็เป็นเพียงการเตรียมพร้อมเบื้องต้นสำหรับการรับมือ PDPA แล้วยังมีด้านอื่นๆ ที่ขอแนะนำให้เจ้าของธุรกิจศึกษาอย่างละเอียดและเข้าใจ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจอย่างถูกต้อง และสามารถนำข้อมูลต่างไปใช้ในการตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ส่วนท่านใดกำลังที่กำลังมองหาตัวช่วยเก็บและบริหารข้อมูลที่สอดคล้องกับ PDPA อย่างแพลตฟอร์ม CDP จาก Connect X และระบบ Marketing Automation ในตัว สามารถส่งแคมเปญทางการตลาดและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น SMS, Email, Social Media และเว็บไซต์ มอบประสบการณ์แบบ Personalized แก่รายบุคคล ทั้งยังช่วยวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้เหมาะสม เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ซ้ำใคร

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย