Category Archives: Highlight

เผยเคล็ดลับทำการตลาด LINE Marketing อย่างไรให้ลูกค้าประทับใจ

LINE Marketing

แอปพลิเคชัน LINE นั้นเป็นแอปสื่อสารที่อยู่คู่กับมือถือของคนไทยในยุคนี้แทบทุกคน สอดคล้องกับสถิติล่าสุดที่มีจำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทยมากกว่า 49 ล้านคน อีกทั้งเป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง นักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ เล็งเห็นว่า ”การตลาด LINE Marketing” นั้นสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แล้วแบรนด์ของท่านจะทำการตลาดผ่าน LINE ได้อย่างไร? Connect X จะมาบอกเคล็ดลับให้ทราบกันครับ

เริ่มต้นทำการตลาด LINE Marketing อย่างไรดี?

การเข้าถึงลูกค้าผ่าน LINE นั้นแน่นอนว่าต้องมีการสร้างบัญชี LINE Official Account  หรือ LINE OA หรือที่หลายคนเรียกกันจนเคยชินว่า “ไลน์แอด” ซึ่งเดิมทีก็เป็นเครื่องมือที่มีฟังก์ชันหลากหลายอยู่แล้ว เช่น การแชท คูปอง บัตรกำนัลส่วนลด ไปจนถึงการส่งคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ สามารถสร้างความสัมพันธ์แบบ Personalized กับลูกค้าแต่ละคนได้ อีกทั้งยังใช้ตรวจสอบพฤติกรรมการซื้อและความสนใจได้ด้วย

สรุปง่ายๆ ว่าการตลาด LINE Marketing นั้นคือการทำการตลาดผ่าน LINE Official Account ของแบรนด์นั่นเอง ที่ไม่ว่า SME หรือธุรกิจใหญ่ๆ ก็ทำได้

ทำไมต้องทำการตลาด LINE Marketing?

เพราะว่า LINE Official Account นั้นมีข้อดีต่างๆ มากมายที่ให้ประโยชน์กับแบรนด์อย่างไม่ต้องสงสัย ทาง Connect X จึงนำข้อดีอย่างคร่าวๆ มาบอกทุกท่าน ได้แก่

  • แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ทันทีผ่านแชทและฟังก์ชัน LINE OA ทำให้ง่ายต่อการดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าและทำโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้าที่รู้จักแบรนด์อยู่แล้ว (Retargeting)
  • สะดวกสบายสำหรับร้านและลูกค้าทั้งในแง่ของการพูดคุย สอบถามรายละเอียดสินค้า ไปจนถึงการปิดการขาย
  • ลูกค้าส่วนใหญ่รู้สึกว่า LINE เป็นช่องทางการพูดคุยกับแบรนด์ที่ง่ายที่สุด เพราะ LINE เป็นแอปพลิเคชันแชทที่ผู้คนคุ้นเคย จึงทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถถามคำถามได้สะดวกและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ LINE ยังเป็นแพลตฟอร์มดัง ที่มีระบบ CRM ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อได้อีกด้วย ซึ่ง Connect X ก็สามารถทำได้อย่างราบรื่นเช่นกันครับ

ทำการตลาด LINE Marketing อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น แอปพลิเคชัน LINE มีฐานผู้ใช้งานจำนวนมาก และมีหลายกลุ่มเป้าหมาย Connect X จะมาบอกเคล็ดลับการทำการตลาดผ่าน LINE ให้ทุกท่านนำไปประยุกต์ใช้กับแบรนด์ของตน

1.เลือกใช้ฟังก์ชันให้ถูก

แอป LINE นั้นมีฟังก์ชันสำหรับการทำการตลาดมากมาย แบรนด์นั้นสามารถใช้เครื่องมือได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเพื่อประสิทธิภาพในการทำการตลาด ขอแนะนำให้ เลือกใช้เฉพาะฟังก์ชันที่จำเป็นหรือเหมาะสมกับแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น

  • Rich Menu – ส่วนแรกที่ลูกค้าเห็นเมื่อได้เพิ่มเพื่อนบน LINE OA ทางแบรนด์สามารถใส่เมนูหรือลิงก์ต่างๆ ได้ อาทิ รายละเอียดสินค้า บริการ วิธีการสั่งซื้อ ฯลฯ เพื่อเตรียมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า และแบรนด์ก็จะลดเวลาการเข้ามาตอบแชทอีกด้วย
  • Card Message – เครื่องมือมากประโยชน์ที่เหมาะสำหรับส่งข่าวสินค้าใหม่ โปรโมชัน และข้อมูลหลายๆ อย่าง ได้พร้อมๆ กัน และยังสามารถใส่ “ลิงก์” ไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์ได้อีกด้วย
  • Reward Card & Coupon – เป็นฟังก์ชันสำหรับการจัดโปรโมชันที่เป็นประโยชน์ในการกระตุ้นการขาย เช่น ให้ลูกค้าสะสมแต้มมาแลก Reward Card หรือการแจกคูปองเพื่อให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือบริการ

2.ห้ามลืมช่วงเทศกาล

ในการทำ LINE Marketing นั้นหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือจังหวะในการส่งข้อความ หรือการ Broadcast เพราะหากทำบ่อยเกินไปก็อาจสร้างความรำคาญ แต่หากทำน้อยเกินไป ลูกค้าก็อาจจะลืมแบรนด์ของคุณไปง่ายๆ ซึ่งช่วงเทศกาลนั้นถือเป็นจังหวะเหมาะในการส่งข้อความการตลาดต่างๆ ให้กับลูกค้า เช่น Black Friday, 11.11, คริสต์มาส, วันปีใหม่ เป็นต้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้บริโภคต่างต้องการจับจ่ายใช้สอยกันนั่นเอง

3.สร้างโฆษณาบน LINE Ads Platform

เมื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมในแอป LINE ไว้ได้แล้ว ก็ต้องค้นหาลูกค้าใหม่ด้วย ซึ่งสิ่งที่นักการตลาดหลายท่านแนะนำก็คือ LINE Ads Platform แบรนด์สามารถยิง Ad ได้ทั้งในหน้าแชท LINE, บน Timeline, LINE TODAY หรือแม้กระทั่งแอป LINE TV ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ทั้งหมดก็เป็นเคล็ดลับเบื้องต้นสำหรับการทำ LINE Marketing และยังมีเคล็ดลับอีกมากมายด้วยกัน

Connect X เชื่อมต่อ LINE OA

การมีความสม่ำเสมอในการบริการเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อแบรนด์มีแอดมินหลายคนที่คอยสับเปลี่ยนกันตอบแชทลูกค้า บางครั้งก็อาจเกิดปัญหา “ไม่ได้คุยในเรื่องที่ค้างไว้” ทำให้ลูกค้ารู้สึกแย่และศูนย์เสียลูกค้าไปในที่สุด

ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วย Connect X แพลตฟอร์ม CDP (Customer Data Platform) ที่สามารถเชื่อมต่อกับ LINE สามารถให้แอดมินแชทพูดคุยผ่าน Connect X ได้โดยไม่ต้องสลับไปมา พร้อมระบบจัดการ Admin แบบครบวงจร พร้อมยังสามารถดู Report ของ Performance แต่ละคนได้ด้วย สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างครบถ้วน และมี Marketing Automation ที่จะแบ่งกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจต่างกัน เพื่อส่ง Personalized Message เป็นแคมเปญหรือโปรโมชันที่ตรงกับความสนใจลูกค้าอย่างตรงจุดได้บน LINE และช่องทางยอดนิยมอื่นๆ อีกด้วย

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

 

สนใจติดต่อกับ Connect X โดยตรง

ได้ที่

Email : [email protected]

LINE : @connectx

ติดต่อ / ปรึกษาการทำตลาดออนไลน์ โทร. 0988509558

ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

*รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (Martech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

PDPA ในมุมมองของ SME ต้องเตรียมพร้อมด้านไหนบ้าง?

เมื่อ PDPA ถูกบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ธุรกิจเล็กใหญ่ต้องปรับตัวให้สามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ แล้วธุรกิจ SME เปิดใหม่ต้องเตรียมพร้อมด้านไหนบ้าง? มาหาคำตอบกัน

การตลาดและแบรนด์ต่างๆ ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อทำการเก็บรวบรวมและประเมินผลข้อมูลในการเข้าถึงความต้องการของลูกค้า กล่าวได้ว่าทุกวันนี้เป็นยุค “Data Driven” อย่างชัดเจน ทั้งยังมีระบบต่างๆ เกิดขึ้นมาสนับสนุน เช่น ระบบ AI, Marketing Automation, CRM หรือ CPD ฯลฯ ช่วยให้ธุรกิจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดได้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 1 มิ.ย. พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการบังคับใช้ “PDPA” หรือ “พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562” ส่งผลให้ธุรกิจ SME และผู้ประกอบการต้องปรับตัวกันยกใหญ่ แล้วแบรนด์ต่างๆ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อรับมือกับ PDPA?

ทำความเข้าใจ PDPA

เชื่อว่าด้วยกระแสของพรบ. ฉบับนี้ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตหลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่าคืออะไร แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่พึ่งเริ่มศึกษา PDPA นั้นย่อมาจาก Personal Data Protection Act ซึ่งหน้าที่ของมันเป็นก็ตามชื่อเลย คือการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ที่องค์กรได้เก็บรวบรวมหรือครอบครองไว้

พูดง่ายๆ ว่า ข้อดีของ PDPA คือความสามารถในการปกป้องข้อมูลของผู้บริโภคหรือลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งถ้าถามว่าข้อเสียหากไม่มี PDPA คืออะไร? ก็ตอบได้ว่าเจ้าของข้อมูลอาจถูกละเมิด ข้อมูลถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือมีผู้ไม่ประสงค์ดีนำข้อมูลไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางพาณิชย์ได้นั่นเอง

แม้จะฟังดูเป็นเรื่องดี แต่ในมุมมองของธุรกิจแล้วก็ถือเป็นเรื่องน่าปวดหัวเลยทีเดียว เพราะพรบ. นี้ส่งผลให้บริษัทต้องเปลี่ยนนโยบายการจัดเก็บข้อมูลให้มีมาตรฐานมากขึ้น ทั้งส่วนของเอกสารแบบออฟไลน์และดิจิทัล รวมไปถึงการตรวจสอบนโยบาย Privacy Policy และ Cookies Consent ในการเก็บข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟ้องร้องในภายหลัง

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PDPA ที่นี่

หน้าที่ของธุรกิจที่มีต่อข้อมูลลูกค้าในยุค PDPA

แบรนด์และธุรกิจมีหน้าที่สำคัญในการดูแลข้อมูลของลูกค้า ในฐานะ Data Controller และ Data Processer โดยมีหน้าที่ดังนี้

  • จัดระเบียบข้อมูลและจำแนกความสำคัญของข้อมูล
  • นำข้อมูลไปใช้งานอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ บริการด้านการตลาด หรือคัดเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งาน
  • การนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์สำหรับการทำงานต่อไป
  • การให้ความคุ้มครองและป้องกันข้อมูล

PDPA ในมุมมองของ SME ต้องเตรียมพร้อมด้านไหนบ้าง?

สิ่งที่ธุรกิจ SME ต้องเตรียมพร้อม รับกฎหมาย PDPA

มาถึงคำถามที่เจ้าของแบรนด์หลายๆ คนสงสัย ซึ่งก็ต้องมีการเตรียมตัวในหลายๆ ด้าน  Connect X ขอยกตัวอย่างมาให้ 5 ข้อ ดังนี้

1.ตั้ง Budget ให้พร้อม

ในการบริหารข้อมูลทั้งในรูปแบบเอกสารและข้อมูลดิจิทัลนั้นมีค่าใช้จ่าย เช่น เครื่องเซิร์ฟเวอร์ (Server) สำหรับเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสหรือ Ransomware และแพลตฟอร์มสำหรับจัดการข้อมูล นอกจากนี้อาจมีค่าใช้จ่ายในด้านของการปรึกษานักกฎหมายอีกด้วย

2.แต่งตั้ง DPO เพื่อดูแลข้อมูล

DPO หรือ Data Protection Officer คือเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแลและให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดในองค์กร เพื่อให้การจัดการข้อมูลเป็นไปตามกฎของ PDPA และประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐด้วยนั่นเอง

3.กำหนดประเภทข้อมูลและวัตถุประสงค์

อย่างที่กล่าวไปว่าธุรกิจต้องปรับโครงสร้างการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ให้จัดเก็บเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่สอบถามหรือขอข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหากไม่จำเป็น

4.ทบทวน Data Protection Policy

สำหรับธุรกิจที่ไม่ได้มีการร่างนโยบายหรือมาตรการป้องกันข้อมูลที่ครอบคลุมมากนัก ก็ควรที่จะตรวจสอบและทบทวนใหม่เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัยที่สุด พร้อม จัดทำเอกสารมาตรการความปลอดภัยและดำเนินการจริง เพื่อใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงว่าบริษัทมีการดำเนินการตามเกณฑ์

5.ค้นหาแพลตฟอร์ม CRM หรือ CPD ที่สอดคล้องกับ PDPA

ระบบ Customer Relationship Management (CRM) หรือ Customer Data Platform (CDP) ล้วนเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์บริหารความสัมพันธ์และจัดการข้อมูลของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งธุรกิจก็ควรเลือกใช้ระบบ CRM หรือ CDP ที่ใช้งานง่าย ครอบคลุม และปลอดภัย หากมีฟีเจอร์เด็ดๆ เสริมด้านการตลาดอย่าง Marketing Automation, Personalized Marketing, ระบบ AI หรืออื่นๆ จะยิ่งช่วยให้จัดการข้อมูลต่างๆ ของผู้บริโภคและลูกค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่น

ทั้ง 5 ข้อนี้ก็เป็นเพียงการเตรียมพร้อมเบื้องต้นสำหรับการรับมือ PDPA แล้วยังมีด้านอื่นๆ ที่ขอแนะนำให้เจ้าของธุรกิจศึกษาอย่างละเอียดและเข้าใจ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจอย่างถูกต้อง และสามารถนำข้อมูลต่างไปใช้ในการตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ส่วนท่านใดกำลังที่กำลังมองหาตัวช่วยเก็บและบริหารข้อมูลที่สอดคล้องกับ PDPA อย่างแพลตฟอร์ม CDP จาก Connect X และระบบ Marketing Automation ในตัว สามารถส่งแคมเปญทางการตลาดและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น SMS, Email, Social Media และเว็บไซต์ มอบประสบการณ์แบบ Personalized แก่รายบุคคล ทั้งยังช่วยวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้เหมาะสม เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ซ้ำใคร

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย