Author Archives: connectx

ทักษะที่คนเป็น Digital Marketer ควรมี สำหรับธุรกิจยุคใหม่

digital marketer

ในยุคดิจิทัลที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับ Digital Marketer ที่ต้องการ เนื่องจากแนวโน้มเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการพัฒนา การก้าวนำหน้าเกมจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณกำลังมองหาที่จะร่วมลงทุนในขอบเขตของการตลาดดิจิทัล การเตรียมกลยุทธ์และข้อมูลเชิงลึกที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ในบทความนี้ เราจะสำรวจเคล็ดลับอันล้ำค่าและคำแนะนำที่ขาดไม่ได้เพื่อช่วยคุณทำการตลาดดิจิทัลด้วยความมั่นใจและแม่นยำ

ทำความเข้าใจการตลาดดิจิทัล

การตลาดดิจิทัลครอบคลุมแพลตฟอร์ม กลยุทธ์ และเครื่องมือที่หลากหลายซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายทางออนไลน์ รวมถึงการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) การตลาดเนื้อหา การตลาดผ่านอีเมล และอื่นๆ การทำความเข้าใจไดนามิกของแต่ละองค์ประกอบถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความเข้าใจการตลาดดิจิทัลอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ การอัพเดทเทรนด์และนวัตกรรมล่าสุดเป็นสิ่งสำคัญในการปรับตัวและเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้

ในฐานะนักการตลาดดิจิทัลที่มีความมุ่งมั่น สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงอิทธิพลของแพลตฟอร์มดิจิทัลในการกำหนดพฤติกรรมผู้บริโภคและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการพึ่งพาช่องทางดิจิทัลสำหรับข้อมูลและความบันเทิงที่เพิ่มมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ จึงใช้ประโยชน์จากการตลาดดิจิทัลเพื่อเชื่อมต่อกับผู้ชมด้วยวิธีที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงนี้และการทำความเข้าใจความซับซ้อนของการตลาดดิจิทัลจะเป็นพื้นฐานของความสำเร็จของคุณในสาขานี้

ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Digital Marketer

เพื่อให้เป็นเลิศในด้านการตลาดดิจิทัล นักการตลาดที่ต้องการฝึกฝนทักษะที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหา การวิเคราะห์ข้อมูล การคิดเชิงกลยุทธ์ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการปรับตัว ทักษะการสร้างเนื้อหามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างข้อความที่น่าสนใจซึ่งโดนใจกลุ่มเป้าหมายบนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ

นอกจากนี้ ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลและรับข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้นั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดและการวัดประสิทธิผล

การคิดเชิงกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานกันในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดเชิงนวัตกรรมที่ตัดผ่านสัญญาณรบกวนทางดิจิทัลและดึงดูดความสนใจของผู้ชม นอกจากนี้ ความสามารถในการปรับตัวถือเป็นกุญแจสำคัญ เนื่องจากวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัลและพฤติกรรมผู้บริโภค ในฐานะนักการตลาดดิจิทัล การเปิดกว้างต่อการเรียนรู้และเปิดรับการเปลี่ยนแปลงถือเป็นสิ่งสำคัญในการคงความเกี่ยวข้องและมีประสิทธิภาพในบทบาทของคุณ

การสำรวจช่องทางการตลาดดิจิทัลต่างๆ

การตลาดดิจิทัลครอบคลุมช่องทางมากมาย โดยแต่ละช่องทางมีจุดแข็งและกลยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn เสนอช่องทางในการมีส่วนร่วมกับผู้ชมผ่านเนื้อหาภาพ การสนทนา และการโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย การทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละแพลตฟอร์มและการปรับแต่งเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชมเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มผลกระทบสูงสุด

การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) เป็นอีกหนึ่งแง่มุมพื้นฐานของการตลาดดิจิทัล ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ในการเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพคำหลัก คุณภาพเนื้อหา และลิงก์ย้อนกลับ นักการตลาดดิจิทัลสามารถปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์และดึงดูดปริมาณการเข้าชมทั่วไปได้ ในทางกลับกัน การตลาดผ่านอีเมลยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรักษาลูกค้าเป้าหมายและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการสื่อสารส่วนบุคคล

การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลในฐานะนักการตลาดดิจิทัล

ในโลกดิจิทัล การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและการมองเห็น ในฐานะนักการตลาดดิจิทัลที่มีความมุ่งมั่น การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลสามารถทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง และวางตำแหน่งคุณในฐานะผู้มีอำนาจในอุตสาหกรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแสดงความเชี่ยวชาญของคุณผ่านเนื้อหาความเป็นผู้นำทางความคิด การมีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมงานในอุตสาหกรรม และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการอภิปรายและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก ความสำเร็จ และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสามารถขยายสถานะดิจิทัลของคุณและดึงดูดโอกาสได้ นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมในการตีพิมพ์ที่มีชื่อเสียงและการมีส่วนร่วมในการพูดในที่สาธารณะสามารถยกระดับแบรนด์ส่วนบุคคลของคุณในวงการการตลาดดิจิทัลได้มากขึ้น โปรดจำไว้ว่า การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอ ความน่าเชื่อถือ และความมุ่งมั่นในการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ชมของคุณ

การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์ในการตลาดดิจิทัล

ข้อมูลและการวิเคราะห์มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเช่น Google Analytics นักการตลาดจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ การเข้าชมเว็บไซต์ และอัตราคอนเวอร์ชั่น ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้มีข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยให้นักการตลาดปรับแต่งกลยุทธ์และจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพตามการสังเกตที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

นอกจากนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลยังช่วยให้นักการตลาดสามารถระบุแนวโน้ม วัดผลกระทบของความคิดริเริ่มทางการตลาด และเข้าใจถึงความชอบและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งในทางกลับกัน จะอำนวยความสะดวกในการสร้างแคมเปญที่ปรับแต่งให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ชมเฉพาะ นำไปสู่การมีส่วนร่วมและการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้น การใช้แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและเพิ่มผลกระทบสูงสุดจากความพยายามทางการตลาดดิจิทัล

อัพเดทเทรนด์การตลาดดิจิทัลอยู่เสมอ

ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การตามทันเทรนด์และนวัตกรรมล่าสุดถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและการสำรวจเทคโนโลยีเกิดใหม่ พฤติกรรมผู้บริโภค และการพัฒนาอุตสาหกรรม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปรับตัวให้เข้ากับการตลาดดิจิทัลที่กำลังพัฒนา การสมัครรับข้อมูลสิ่งพิมพ์ของอุตสาหกรรม การเข้าร่วมการสัมมนาทางเว็บ และการเข้าร่วมการประชุมสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับแนวโน้มและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดที่กำลังจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมกับชุมชนการตลาดดิจิทัลและการสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยังมอบโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับมุมมองใหม่ๆ และรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับกระแสอุตสาหกรรมล่าสุด การใช้แนวทางเชิงรุกในการเรียนรู้และการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการตลาดดิจิทัลจะช่วยให้คุณมีความรู้และวิสัยทัศน์กว้างไกลเพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในแนวนอนและใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่

การสร้างเครือข่ายและการสร้างการเชื่อมต่อในอุตสาหกรรมการตลาดดิจิทัล

การสร้างเครือข่ายมีบทบาทสำคัญในการเติบโตทางสายอาชีพและโอกาสสำหรับนักการตลาดดิจิทัลที่มีความมุ่งมั่น การสร้างความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ผู้นำทางความคิด และผู้ร่วมงานที่มีศักยภาพสามารถเปิดประตูสู่การให้คำปรึกษา ความก้าวหน้าทางอาชีพ และโครงการความร่วมมือ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเครือข่ายเฉพาะอุตสาหกรรม ชุมชนออนไลน์ และการรวมตัวทางสังคมสามารถอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อที่มีความหมายและขยายแวดวงอาชีพของคุณ

นอกจากนี้ การเข้าร่วมการอภิปราย แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรม และการให้การสนับสนุนแก่เพื่อนร่วมงานจะช่วยเพิ่มการมองเห็นและความน่าเชื่อถือของคุณภายในชุมชนการตลาดดิจิทัล การสร้างเครือข่ายยังเป็นช่องทางในการติดตามแนวโน้มของอุตสาหกรรม การได้รับมุมมองจากวงใน และการเข้าถึงโอกาสทางอาชีพอันมีค่า การสร้างเครือข่ายมืออาชีพที่แข็งแกร่งเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของคุณในฐานะนักการตลาดดิจิทัล

เครื่องมือและแหล่งข้อมูลสำหรับนักการตลาดดิจิทัลผู้มุ่งมั่น

ในแวดวงการตลาดดิจิทัล การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและทรัพยากรที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของคุณได้อย่างมาก ตั้งแต่แพลตฟอร์มการวิเคราะห์และเครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดียไปจนถึงซอฟต์แวร์สร้างเนื้อหาและทรัพยากร SEO มีโซลูชันมากมายที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงแง่มุมต่างๆ ของการตลาดดิจิทัล การทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือเหล่านี้และทำความเข้าใจแอปพลิเคชันสามารถยกระดับความสามารถของคุณในฐานะนักการตลาดดิจิทัลได้ แพลตฟอร์ม เช่น ConnectX CDP, Hootsuite, Buffer และ Sprout Social นำเสนอฟังก์ชันการจัดการโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุม ช่วยให้คุณสามารถกำหนดเวลาโพสต์ ติดตามการมีส่วนร่วม และวิเคราะห์ตัวชี้วัดประสิทธิภาพในหลายแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ เครื่องมือสร้างเนื้อหา เช่น Canva, Adobe Creative Cloud และ Grammarly ยังช่วยให้นักการตลาดสามารถผลิตเนื้อหาที่ดึงดูดสายตาและปราศจากข้อผิดพลาด การติดตามเครื่องมือและเทคโนโลยีล่าสุดในพื้นที่การตลาดดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการทำงานของคุณและมอบผลลัพธ์ที่มีผลกระทบ

สรุป

ในขณะที่ทางดิจิทัลยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักการตลาดดิจิทัลที่มีความมุ่งมั่นจะต้องปรับตัว สร้างสรรค์ และปรับปรุงทักษะของตนเพื่อเติบโตในสภาพแวดล้อมแบบไดนามิกนี้ ด้วยการทำความเข้าใจความซับซ้อนของการตลาดดิจิทัล การฝึกฝนทักษะที่จำเป็น การสำรวจช่องทางที่หลากหลาย การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์ การอัพเดทเทรนด์ การส่งเสริมการเชื่อมต่อ การใช้เครื่องมือ และการใฝ่หาการศึกษาอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถวางตำแหน่งตัวเองเพื่อความสำเร็จใน ทรงกลมการตลาดดิจิทัล

โปรดจำไว้ว่า ทางดิจิทัลมอบโอกาสอันไร้ขอบเขตสำหรับความคิดสร้างสรรค์ ผลกระทบ และการเติบโต โอบรับการเดินทางด้วยใจที่เปิดกว้าง ความกระหายในความรู้ และความหลงใหลในการเชื่อมต่อกับผู้ชมอย่างมีความหมาย ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ คุณสามารถกำหนดเส้นทางของคุณในขอบเขตการตลาดดิจิทัล และสร้างผลกระทบที่สำคัญในดิจิทัลที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา ต่อไปนี้คือความสำเร็จของคุณในฐานะนักการตลาดดิจิทัลผู้มุ่งมั่น!

โดยสรุป การสำรวจดิจิทัลในฐานะนักการตลาดดิจิทัลที่ต้องการนั้นต้องใช้แนวทางที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมทั้งทักษะ ความรู้ในอุตสาหกรรม และกรอบความคิดเชิงรุก ด้วยการเปิดรับการเปลี่ยนแปลงของการตลาดดิจิทัลและใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่ระบุไว้ในบทความนี้ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางด้วยความมั่นใจและเริ่มต้นเส้นทางการเติบโตและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการตลาดดิจิทัล

สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

    Yearly Budget

    How do you know us?

    ยกระดับประสิทธิภาพการตลาดด้วยเครื่องมือ Martech ConnectX CDP สำหรับนักการตลาดยุคใหม่

    cdp martech

    หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีสินค้า และสาขามากมาย แล้วสนใจที่จะเจาะลึกเข้าไปในพฤติกรรมของลูกค้า บทความนี้ เราจะเปิดเผยส่วนที่น่าสนใจของ “Next Level” สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีความหลงใหลในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า และใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่กำหนดเป้าหมายแบรนด์ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาด โปรดคอยติดตามในขณะที่เราแนะนำให้คุณรู้จักกับเครื่องมือ cdp martech อันทรงพลัง – ConnectX

    CDP คืออะไร?

    ในมุมมองของ ConnectX  แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP) เป็นแหล่งเก็บข้อมูลที่รวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลที่กระจัดกระจายบนออฟไลน์และออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะพร้อมใช้งาน

    ConnectX มีหน้าที่อะไร?

    ConnectX รวบรวมข้อมูลจากทุก Touchpoint โดยจัดเป็นหมวดหมู่แยกส่วนเพื่อการใช้งานที่ราบรื่น

    จุดเด่นที่ทำให้คนต้องเลือก ConnectX

    1. ความยืดหยุ่นและการปรับแต่งแพลตฟอร์มให้สะดวกต่อการใช้งาน

    ConnectX สามารถปรับเปลี่ยนและปรับแต่งได้ ไม่ว่าคุณจะใช้ระบบ Backend หรือระบบ POS ใดก็ตาม ConnectX สามารถพัฒนาโปรแกรมรวบรวมข้อมูลที่เหมาะกับความต้องการของคุณได้ ในฐานะบริษัทซอฟต์แวร์ นำเสนอการพัฒนา Plug & Play ได้อย่างคุ้มค่า

    2. ความปลอดภัยของข้อมูล

    ConnectX จัดการข้อมูลปริมาณมากได้อย่างมั่นใจ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่มีการใช้งานและพุ่งทะยานจะไม่ล้นเกินความสามารถ และ  ConnectX ได้รับการรับรองผ่าน ISO27001 ระบบมาตรฐานหลักในหมวดระบบมาตรฐานความปลอดภัยสารสนเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของบริษัทนั้นปลอกภัยไร้กังวล

    3. เทคโนโลยีขั้นสูง

    ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ConnectX จึงสามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลเฉพาะบุคคลเพื่อความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการโต้ตอบกับลูกค้า พร้อมกับระบบ AI จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจกลุ่มลูกค้าได้อย่างเร็วและแม่นยำมากขึ้น

    connectx cdp martech

    Customer Journey บน ConnectX

    การเดินทางข้อมูลของ ConnectX เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลจากช่องทางต่างๆ ที่ไม่ว่าจะมากจาก ออฟไลน์ หน้าร้านค้าสาขาต่างๆ และทางออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Instragram, Whatsapp หรือ Marketplace เป็นต้น นำมาฝากไว้ใน CDP จากนั้นจึงแบ่งส่วน แพลตฟอร์มดังกล่าวซิงค์กับโฆษณา Facebook ได้อย่างราบรื่น ทำให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าตามพฤติกรรมเฉพาะได้

    ConnectX นำเสนอข้อมูลในรูปแบบช่องทางการตลาด อำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์และการนำกลยุทธ์ทางการตลาดไปใช้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามและวัดประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มสื่อ KOL และการลงทุนทางการตลาด

    • Marketing Automation ของ ConnectX:

    สร้างและตรวจสอบโฆษณาได้อย่างง่ายดาย การปิดโฆษณาที่ไม่ได้ใช้งานโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    การจัดการงบประมาณสำหรับตำแหน่งโฆษณา

    เช่น SMS ที่สามารถ Customize รูปแบบ เนื้อหา สี  Call-to-action ตามกลุ่มลูกค้าและช่องทางที่ต้องการจะ Publish ได้

    • ทักษะการตลาดอัตโนมัติสำหรับนักการตลาดยุคใหม่:

    ในภาพรวมทางการตลาดในปัจจุบัน การทำความเข้าใจและการวางแผนการเดินทางของลูกค้าถือเป็นสิ่งสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจะต้องได้รับทักษะในการทำการตลาดอัตโนมัติเพื่อวางแผนการเดินทางอย่างมีกลยุทธ์และการจัดสรรงบประมาณ

    • ข้อเสนอการขายที่เป็นเอกลักษณ์ของ ConnectX:

    ConnectX ได้รับตำแหน่งเป็น CDP ที่ครบวงจรที่สุด โดยมาพร้อมกับ ConnectX Dashboard ซึ่งนำเสนอ CDP แบบเรียลไทม์และความสามารถในการแบ่งส่วน

    บทสรุป

    ConnectX cdp martech พร้อมด้วย mini-CRM ที่มีฟีเจอร์หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงกลุ่มการช็อปปิ้งและการใช้ข้อมูลได้อย่างง่ายดาย แนวทางที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ของแพลตฟอร์มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ใช้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก

    โดยสรุป ConnectX ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งเก็บข้อมูลเท่านั้น เป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถยกระดับกลยุทธ์การตลาด ทำให้กระบวนการสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ หากคุณสนใจ ชมคลิปเต็มเพื่อดูข้อมูลเชิงลึกและโปรโมชั่นพิเศษ โปรดติดตามตอนต่อไปในซีรีส์ “The Next Level” ลาสำหรับตอนนี้!

    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

      Yearly Budget

      How do you know us?

      5 ตัวอย่างในการใช้ CDP ใน Financial services

      cdp financial

      ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีธุรกิจที่ให้บริการทางการเงินจำนวนมากใช้ CDP Financial service เช่น เทคโนโลยีทางการเงิน สกุลเงินดิจิทัล และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนจากโรคระบาด ได้เปลี่ยนอุตสาหกรรมบริการทางการเงินไปตลอดกาล เพื่อเป็นการตอบสนอง บริษัทที่ให้บริการทางการเงินกำลังหันมาใช้ CDP ในปี 2565 เพื่อกำหนดเงื่อนไขของการมีส่วนร่วมกับลูกค้าใหม่

      ในรายงาน CDP ของเรา ประสบการณ์ทางดิจิทัลที่ได้รับการปรับปรุง การใช้งานใหม่ของปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ ล้วนอยู่ในลำดับความสำคัญสูงมากสำหรับการใช้แพลตฟอร์มเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า (CDP) ผู้ตอบแบบสอบถามระบุความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการรวมการจัดการผู้ชมเป็นหนึ่งเดียวทั่วทั้งกลุ่มเทคโนโลยีและปรับปรุงคุณภาพข้อมูล นอกจากนี้ บริษัทการเงินยังลงทุนอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital transformation) โดย 95% กล่าวว่าเป็นปัจจัยหนึ่งในการเริ่มใช้ CDP

      ทั้งหมดนี้ถูกขับเคลื่อนไปสู่การนำ CDP มาใช้ ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มงานและนำ CDP ไปใช้กับบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน Connect X เป็นแพลตฟอร์ม CDP ชั้นนำของประเทศไทย

      5 ตัวอย่างในการใช้ CDP Financial Industry

      1. ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด ใน CDP Financial

      ข้อมูลลูกค้าของคุณถือเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าให้กับตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า กลยุทธ์ข้อมูลที่ครอบคลุมซึ่งจัดแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดให้สอดคล้องกัน จากนั้นจัดระเบียบข้อมูลดังกล่าวให้เป็นมุมมองเดียวของลูกค้าแต่ละราย จะช่วยให้องค์กรของคุณสามารถเปิดใช้งานแคมเปญที่ทรงพลังและเป็นส่วนตัวสูงได้เพียงแค่กด Run campaign

      2. ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงความคาดหวังของลูกค้า

      ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังผันผวน และการเร่งเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ล้วนส่งผลกระทบต่อสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังจากสถาบันการเงินของพวกเขา ด้านหนึ่งลูกค้าต้องการความชัดเจน ความเห็นอกเห็นใจ และการปกป้อง ในทางกลับกัน ลูกค้าต้องการวิธีที่สร้างสรรค์เพื่อเพิ่มพอร์ตการลงทุนและกลยุทธ์ในการลงทุนให้สูงสุด พวกเขายังคาดหวังให้สถาบันการเงินมีเทคโนโลยีระดับแนวหน้า เช่น แอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย เว็บไซต์ที่ใช้งานได้และครอบคลุม การบริการลูกค้าที่ได้รับการปรับแต่ง และการสื่อสารข้ามช่องทางที่ปรับปรุงบริการ คุณต้องมีแพลตฟอร์มข้อมูลที่จะช่วยให้องค์กรของคุณสามารถเปิดใช้งานข้อมูลลูกค้าได้อย่างง่ายดายในกลยุทธ์แบบหลายช่องทางเพื่อตอบสนองและหวังว่าจะเกินความคาดหวังของลูกค้า

      3. เตรียมพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆ

      นวัตกรรมเป็นธรรมชาติของโลกในทุกอุตสาหกรรม มีการประกาศผลิตภัณฑ์ บริการ และแพลตฟอร์มใหม่ทุกวัน สถาบันการเงินของคุณต้องมองหาวิธีการสร้างสรรค์รูปแบบธุรกิจของตนเองอย่างต่อเนื่อง แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าทำให้เกิดนวัตกรรมจำนวนมหาศาลจากการเชื่อมโยงข้อมูลเชิงลึกที่ทรงคุณค่าของลูกค้าทั่วทั้งองค์กรที่สามารถปลดล็อกแนวคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ กระบวนการที่จะปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่ลูกค้าต้องการทำธุรกิจ

      4. ไม่ใช่ (แค่) ส่วนบุคคล แต่เป็นการธนาคาร

      ในบริการทางการเงิน คุณไม่เพียงแค่มอบวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ เท่านั้น แต่คุณยังช่วยให้ลูกค้าของคุณบรรลุเป้าหมายในชีวิตอีกด้วย คุณสามารถเข้าถึงความจริงและการทดลองที่ใกล้ชิดที่สุดของพวกเขาได้ ลูกค้าของคุณหันมาหาคุณเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกที่สำคัญที่สุดช่วยให้พวกเขาสร้างชีวิตในฝันหรือเอาชนะความท้าทายที่ยากที่สุด

      ภาพที่เราได้รับคือผู้บริโภคไม่ได้ถือว่าบริการตนเองแบบดิจิทัลส่วนบุคคลเป็นบริการส่วนบุคคลหัวหน้าฝ่ายการธนาคารและการบริหารความมั่งคั่งระดับโลกของ EPAM ตอบสนองต่อรายงาน Consumer Banking Report 2021 ของพวกเขาถ้าฉันสามารถให้ได้ ปฏิสัมพันธ์ส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นการโทรหรือวิธีอื่นๆ ในการโต้ตอบแบบเรียลไทม์กับมนุษย์อีกคนหนึ่งนั่นเป็นบริการที่ผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาสนใจด้วย CDP สถาบันการเงินสามารถสร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบครบวงจรและถูกต้อง สร้าง Customer journey ที่ดีขึ้นตลอดการเดินทางของลูกค้า และขับเคลื่อนข้อมูลเชิงลึกตามเวลาจริง ณ ช่วงเวลาที่ต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่แค่เฉพาะบุคคล

      5. เพิ่มโอกาสสูงสุดที่สร้างโดยข้อมูลลูกค้า

      การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในภาคการเงินได้สร้างโอกาสที่น่าอัศจรรย์สำหรับสถาบันที่พร้อมจะคว้าโอกาสเหล่านั้นไว้ ไม่ใช่ว่าโอกาสใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจะเกิดขึ้น แต่ข้อมูลลูกค้าและแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าช่วยให้สถาบันการเงินสามารถตอบสนองลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการ แทนที่จะขาดสัญญาณ (ส่งผ่าน ข้อมูลลูกค้า) และทำให้เสียโอกาสในการจับธุรกิจ ผู้คนทำการตัดสินใจทางการเงินในช่วงเวลาสำคัญในชีวิต เช่น การแต่งงาน การหย่าร้าง การมีบุตรใหม่ การสำเร็จการศึกษา และการเกษียณอายุ การตั้งค่าโปรไฟล์ข้อมูลลูกค้าของคุณเพื่อจับช่วงเวลาสำคัญเหล่านี้จะเป็นการเปิดประตูสู่การจับธุรกิจของลูกค้าของคุณ รวมถึงความไว้วางใจของพวกเขาด้วย

      สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

      เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

      Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

        Yearly Budget

        How do you know us?

        Marketing Automation คืออะไร ทำไมแบรนด์ยุคนี้ถึงขาดไม่ได้

        marketing-automation

        Marketing Automation หรือ ระบบการตลาดอัตโนมัติ คือการใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ในการส่งข้อความการตลาด ติดตามพฤติกรรมลูกค้า และสร้างแคมเปญที่ Personalized Marketing แบบ Real‑time Marketing ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ Email, SMS, Facebook, LINE, Web Push, Mobile Push, Google Ads รวมถึงจอหน้าร้าน

        แล้วที่สำคัญ ถ้าจะให้ดีในยุคนี้ ก็ต้องตอบสนองได้แบบทันที (Real-time Marketingก็จะช่วยให้สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีในยุคดิจิทัลได้ รวมถึงการส่งสิ่งที่ลูกค้าต้องการไปให้ได้ตรงจด ก็อาจจะต้องให้การทำงานร่วมกัน Customer Insight ก็ช่วยให้เราสามารถทำ Personalized Marketing ได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

        ทำไม Marketing Automation สำคัญต่อธุรกิจยุคดิจิทัล

        1. ตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้า

          • ลูกค้าปัจจุบันต้องการการสื่อสารที่รวดเร็ว ถูกที่ ถูกเวลา

          • การทำ Real‑time Marketing ช่วยเพิ่มอัตราการเปิด (Engagement) และคลิก (CTR)

        2. ขับเคลื่อนยอดขายด้วย Personalization

          • แคมเปญอัตโนมัติที่อิงพฤติกรรม (Website, Social Media) เพิ่มโอกาสปิดการขาย

          • ลดต้นทุนโฆษณา ด้วยการส่งข้อเสนอให้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายจริง

        3. ประหยัดเวลาและทรัพยากร

          • ลดงานซ้ำซ้อน เมื่อตั้ง Workflow เอาไว้ ระบบจะส่งข้อความแทนทีมงานอัตโนมัติ

          • ทีมการตลาดโฟกัสที่กลยุทธ์และครีเอทีฟมากขึ้น

        4 ฟีเจอร์หลักของ Marketing Automation

        1. Omnichannel Real‑time

        รวมทุกช่องทาง (Online & Offline) ให้เชื่อมกันแบบ Seamless Customer Experience

        ตัวอย่าง: ลูกค้าดูลิปสติกบนเว็บ → ได้ส่วนลดทางอีเมล → พนักงานหน้าร้านแนะนำสินค้าตามโค้ดนั้น → ปิดการขาย

        2. Audience Segmentation

        แบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรม (Lead Scoring) เพื่อส่งแคมเปญแบบเจาะจง

        ตัวอย่าง: แยกลูกค้าที่คลิกดูสินค้า >5 ครั้ง → ส่ง Email โค้ดส่วนลด + แถมของแถมตรงกลุ่ม

        3. Customer Journey Automation

        กำหนดเส้นทางลูกค้า (Customer Journey) ตั้งแต่การเป็น Lead จนถึง Loyal Customer

        ตัวอย่าง:

        • ส่ง Web Push แจ้งโปรโมชั่น →

        • ถ้าไม่สนใจ ยิง Ads ตาม retargeting →

        • หากคลิกรับโปร → ส่ง SMS ยืนยันอัตโนมัติ

        4. Social Media Connect & Live Chat

        รวมทุกแชทจาก Facebook, LINE@, Instagram, Pantip, เว็บไซต์ เข้าหน้าจอเดียว พร้อม AI Chatbot

        ตัวอย่าง: แอดมินเห็นทุกการ Mention รวดเดียว ไม่พลาดดราม่า ตอบ Real‑time แล้วส่งต่อฝ่ายบริการ

        ใช้ Marketings Automation อย่างไรให้ได้ผลจริง?

        การใช้ระบบ Marketing Automation ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่แค่การติดตั้งเครื่องมือแล้วจบ แต่ต้องอาศัยการวางแผนที่ดีและเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าอย่างลึกซึ้ง:

        ✅ 1. เริ่มจากการรู้จักลูกค้า (Customer Insight)

        ใช้ Customer Data Platform (CDP) หรือระบบ CRM เพื่อรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าในทุกช่องทาง เช่น การเข้าชมเว็บไซต์, ประวัติการซื้อ, การโต้ตอบผ่าน Social Media ฯลฯ

        ✅ 2. ออกแบบเส้นทางลูกค้า (Customer Journey Mapping)

        วาง Flow ให้ชัดเจนว่า ลูกค้าจะได้รับข้อความอะไร เมื่อไร และจากช่องทางใด เช่น:

        • ลูกค้าใหม่ → ได้รับ Welcome Email

        • ลูกค้าไม่เปิด Email ภายใน 3 วัน → ส่งข้อความทาง LINE

        • ลูกค้าซื้อแล้ว → ได้รับคูปองส่วนลดครั้งต่อไป

        ✅ 3. ทดสอบและปรับแต่งอย่างสม่ำเสมอ

        ใช้ A/B Testing ทดสอบข้อความ, รูปภาพ หรือเวลาส่งแคมเปญ แล้ววัดผลด้วย Conversion Rate และ ROI เพื่อพัฒนาแคมเปญให้แม่นยำยิ่งขึ้น

        ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ Marketings Automation

        • ❌ ส่งข้อความซ้ำซ้อน หรือถี่เกินไปจนลูกค้ารู้สึกรำคาญ

        • ❌ ใช้ข้อมูลลูกค้าไม่ถูกต้อง หรือไม่มีการอัปเดตข้อมูล

        • ❌ ไม่มีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ต้องการยอดขาย, เพิ่ม engagement หรือสร้าง brand awareness

        ประโยชน์ของ Marketings Automation

        • เพิ่ม Conversion Rate: ข้อความตรงกลุ่ม เพิ่มโอกาสปิดการขาย

        • ปรับปรุง Customer Experience: ลูกค้าได้รับประสบการณ์ต่อเนื่อง

        • ลดค่าใช้จ่ายโฆษณา: ยิง Ads เฉพาะกลุ่มที่มีโอกาสสูง

        • เก็บข้อมูลเชิงลึก: วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า สร้างกลยุทธ์ระยะยาว

        ขั้นตอนเริ่มต้นใช้งาน Marketings Automation

        1. กำหนดเป้าหมาย (Goals & KPIs)

        2. เก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า (CDP/CRM Integration)

        3. สร้าง Workflow & Campaign

        4. ทดสอบ (A/B Testing)

        5. ติดตามและปรับปรุง (Analytics & Optimization)

        ทำไมต้องเลือก Connect X Marketing Platform

        Connect X มอบครบทั้ง

        • CDP: รวมข้อมูลลูกค้า 360°

        • Marketings Automation: ตั้งค่า Omnichannel & Personalization ได้ทันที

        • CRM & PDPA‑Ready: รองรับการใช้งานในไทยและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

        สรุป: Marketing Automation คือกุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่

        ระบบการตลาดอัตโนมัติไม่ใช่แค่ “เครื่องมือ” แต่คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจลูกค้า สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และเปลี่ยนข้อมูลเป็นยอดขายได้จริง

        Marketing Automation ช่วยให้ธุรกิจสามารถ…

        • 📈 ขยายยอดขายและลูกค้าใหม่อย่างแม่นยำ

        • 🔁 สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าเดิม

        • ⏱ ลดภาระงานซ้ำซ้อนของทีมการตลาด

        • 💡 วัดผลทุกแคมเปญแบบเรียลไทม์

         

        ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

        *รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (Mar tech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ


          Yearly Budget

          How do you know us?

          เจาะลึก 4 ข้อดีของ การตลาดอัตโนมัติ Marketing Automation ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต

          4-ข้อดี-การตลาดอัตโนมัติ-Marketing-Automation-มีอะไรบ้าง

          เจาะลึก 4 ข้อดีของ การตลาดอัตโนมัติ Marketing Automation ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต

          หลายคนอาจสงสัยว่า Marketing Automation มีอะไรบ้าง และทำไมธุรกิจยุคใหม่ถึงให้ความสำคัญกับการใช้ระบบนี้มากขึ้น คำตอบคือ Marketing Automation ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือส่งอีเมลอัตโนมัติ แต่เป็นโซลูชันครบวงจรที่ช่วยให้แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าได้แม่นยำ มีประสิทธิภาพ และใช้เวลาน้อยลงกว่าที่เคย ในบทความนี้ Connect X จะพาไปทำความรู้จักกับ Marketing Automation มากขึ้นกันค่ะ

          Marketing Automation คืออะไร?

          Marketing Automation คือ เทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินกิจกรรมทางการตลาดได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้แรงงานคนในทุกขั้นตอน ช่วยลดเวลาการทำงานซ้ำ เพิ่มความแม่นยำในการสื่อสาร และเปิดโอกาสให้ทีมงานสามารถโฟกัสกับกลยุทธ์ที่ซับซ้อนหรือสร้างสรรค์มากขึ้น

          ระบบนี้ทำงานผ่านการตั้งค่า “กฎ” หรือ “เงื่อนไข” ล่วงหน้า เช่น การส่งอีเมลอัตโนมัติเมื่อมีผู้สมัครรับข่าวสาร การติดตามผู้ที่เคยเข้าชมหน้าเว็บไซต์ หรือการส่งโปรโมชันให้เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์บางประเภท สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นโดยที่ทีมไม่ต้องคอยกดส่งเองในแต่ละครั้ง

          เป้าหมายของ Marketing Automation

          แม้หลายคนจะเข้าใจว่า Marketing Automation มีไว้เพื่อ “ประหยัดเวลา” แต่ความจริงแล้ว ระบบนี้มีบทบาทลึกกว่านั้น เพราะมันช่วยให้ธุรกิจสามารถ:

          • สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

          • ส่งสารที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล

          • ติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมแบบ Real-Time

          • วัดผลลัพธ์ของแต่ละแคมเปญได้อย่างแม่นยำ

          • ปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วโดยอิงจากข้อมูลจริง

          ช่องทางที่รองรับ Marketing Automation

          ระบบ Marketing Automation สามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมช่องทางสำคัญ เช่น:

          • Email Marketing: ส่งจดหมายข่าว โปรโมชัน หรือแคมเปญเฉพาะกลุ่มแบบอัตโนมัติ

          • SMS Marketing: ส่งข้อความสั้นเพื่อกระตุ้นการกลับมาซื้อ หรือแจ้งเตือนลูกค้าในจังหวะสำคัญ

          • Line OA / Facebook Messenger: สื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางที่พวกเขาใช้งานจริง

          • Website / App Trigger: ตั้งเงื่อนไขให้ส่งข้อมูลหรือติดตามลูกค้าจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ เช่น การคลิกปุ่ม การหยุดดูสินค้าบางรายการ หรือการไม่กดสั่งซื้อภายในระยะเวลาที่กำหนด

          ประโยชน์ของ Marketing Automation ต่อธุรกิจ

          การใช้ Marketing Automation อย่างมีระบบ ช่วยให้แบรนด์สามารถบริหารต้นทุนด้านเวลาและทรัพยากรบุคคลได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยลดข้อผิดพลาดในการสื่อสารกับลูกค้า และสร้างความต่อเนื่องในทุกแคมเปญโดยไม่ขาดช่วง

          นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประสบการณ์ลูกค้าในยุคดิจิทัล เพราะลูกค้ายุคใหม่ไม่ได้คาดหวังแค่ “ได้รับข้อความ” แต่คาดหวังว่า “ข้อความต้องตรงใจ” และ “ส่งมาในเวลาที่เหมาะสม”

          ฟังก์ชันหลักของ การตลาดอัตโนมัติ ทำอะไรได้บ้าง?

          • กำหนดกลุ่มเป้าหมายอัตโนมัติตามพฤติกรรมลูกค้า (Segmentation)

          • สร้าง Journey หรือ Flow การสื่อสารที่แตกต่างกันตามกลุ่ม

          • ตั้งเวลาและเงื่อนไขการยิงแคมเปญแบบแม่นยำ (Trigger-based Marketing)

          • ติดตามผลการสื่อสารแบบ Real-Time พร้อมระบบรายงานในตัว

          • เชื่อมต่อกับระบบ CRM หรือ CDP เพื่อเพิ่มคุณภาพข้อมูล

          เมื่อเครื่องมือเหล่านี้ถูกนำมาใช้ร่วมกันอย่างเหมาะสม ธุรกิจจะสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ใน “จังหวะที่ใช่” ด้วย “เนื้อหาที่ตรงใจ” โดยไม่ต้องทำงานซ้ำซ้อนหรือเสียเวลาไปกับงานที่ไม่สร้างมูลค่า

          4 ข้อดีของการใช้เครื่องมือ การตลาดอัตโนมัติ Marketing Automation มีอะไรบ้าง

          1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดเวลาทำงานซ้ำ

          หนึ่งในข้อดีหลักของการใช้ Marketing Automation คือความสามารถในการช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อนและงานที่ต้องทำตามรอบเวลา ระบบสามารถตั้งค่าการทำงานให้เป็นแบบอัตโนมัติ ทำให้ไม่จำเป็นต้องอาศัยแรงงานคนในทุกขั้นตอนอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับลูกค้า การตั้งแคมเปญ หรือการติดตามผลลัพธ์ สิ่งนี้ช่วยให้ทีมสามารถจัดสรรเวลาและทรัพยากรไปใช้กับงานที่สร้างมูลค่ามากขึ้น เช่น การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ การออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ หรือการวางแผนทางการตลาดเชิงลึก ส่งผลให้การทำงานทั้งระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น และต้นทุนทรัพยากรโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

          2. เจาะกลุ่มเป้าหมายและทำ Personalized Marketing ได้ลึกกว่า

          Marketing Automation ไม่ได้เพียงแค่ส่งข้อความอัตโนมัติ แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถรวบรวมและประมวลผลข้อมูลลูกค้าอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่พฤติกรรมการใช้งานไปจนถึงรูปแบบการตอบสนองต่อสื่อสารการตลาด ด้วยข้อมูลเชิงลึกนี้ ธุรกิจสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น และสร้างประสบการณ์การตลาดที่ปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะบุคคลได้จริง การสื่อสารจึงไม่ใช่แค่การกระจายข้อความแบบกว้าง แต่เป็นการสื่อสารที่ตรงกับความต้องการ ความสนใจ และความพร้อมของแต่ละคน ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์และความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในระยะยาว

          3. เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างลีดและเปลี่ยนเป็นยอดขาย

          ระบบ Marketing Automation ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับโอกาสทางการขายได้ดีขึ้น ผ่านการตรวจสอบและตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้สนใจในแบบเรียลไทม์ โดยไม่พลาดจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนลีดให้เป็นลูกค้าจริง อีกทั้งยังสามารถสร้างกระบวนการเลี้ยงดู (nurturing) กลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย ความเชื่อมั่น และแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อ ด้วยกระบวนการที่แม่นยำและต่อเนื่องนี้ ทำให้ประสิทธิภาพในการปิดการขายเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งลดช่องว่างของลีดที่ตกหล่นหรือถูกมองข้ามไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

          4. วิเคราะห์ผลและวัด ROI ได้แบบเรียลไทม์

          Marketing Automation ไม่ใช่แค่เครื่องมือส่งสาร แต่ยังทำหน้าที่เป็นระบบวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง ธุรกิจสามารถเห็นข้อมูลเชิงสถิติแบบเรียลไทม์จากทุกแคมเปญที่กำลังดำเนินอยู่ ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพของการส่งข้อความ ผลลัพธ์ของกลยุทธ์ที่ใช้ หรือแนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม การวัดผลเช่นนี้ทำให้สามารถตัดสินใจปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด และมีข้อมูลสนับสนุนอยู่เสมอ ส่งผลให้ ROI ของการทำการตลาดดีขึ้นต่อเนื่อง และงบประมาณถูกใช้อย่างคุ้มค่า

          พร้อมเริ่มใช้งานเครื่องมือ การตลาดอัตโนมัติ Marketing Automation แบบครบวงจรหรือยัง?

          ConnectX พาคุณไปไกลกว่าคำว่า “อัตโนมัติ” ด้วยแพลตฟอร์มที่รวม Marketing Automation และ Customer Data Platform (CDP) เข้าด้วยกัน ช่วยให้คุณวางแผนแคมเปญ วิเคราะห์พฤติกรรม และส่งข้อความ “ที่ใช่” ใน “เวลาที่เหมาะสม” ได้ง่ายกว่าที่เคย

          ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

          *รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (MarTech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

            Yearly Budget

            How do you know us?

            CDP Platform: 5 ข้อดีและประโยชน์ของที่ธุรกิจยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม

            CDP-Platform

            5 ข้อดีและประโยชน์ของ CDP Platform ที่ธุรกิจยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม

            ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพยากรสำคัญของธุรกิจ การเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งและใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นหัวใจสำคัญของการทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือ CDP ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากหลายแหล่งให้มาอยู่ในศูนย์กลางเดียว พร้อมจัดโครงสร้างข้อมูลให้ใช้งานได้ทันที

            แพลตฟอร์มประเภทนี้มีความแตกต่างจากระบบ CRM หรือ DMP อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสามารถรวบรวมข้อมูลแบบ first-party data ได้อย่างครบถ้วน ทั้งข้อมูลพฤติกรรมจากเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย อีเมล หรือแม้แต่จุดสัมผัสหน้าร้าน โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลและวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคได้แบบเจาะลึก

            มาดูกันว่า 5 ข้อดีหลักที่ทำให้ธุรกิจจำนวนมากตัดสินใจใช้งานแพลตฟอร์มนี้คืออะไรบ้าง:

            1. เจาะลึกกลุ่มเป้าหมายด้วยการแบ่งเซกเมนต์อย่างแม่นยำด้วย CDP Platform

            CDP สามารถรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชัน แล้วนำมาประมวลผลเพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็นเซกเมนต์ที่ชัดเจน เช่น กลุ่มที่ซื้อซ้ำบ่อย กลุ่มที่มีแนวโน้มเลิกใช้งาน หรือกลุ่มที่มีศักยภาพในการอัปเซลล์

            เมื่อเข้าใจว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมและความต้องการที่แตกต่างกัน ธุรกิจสามารถออกแบบเนื้อหา แคมเปญ และโปรโมชันให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการตอบสนอง (Engagement Rate) และโอกาสในการปิดการขายอย่างมีนัยสำคัญ

            2. การตลาดแบบ Omni-Channel เป็นเรื่องง่าย

            ในยุคที่ลูกค้าใช้งานหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน การทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าบนแต่ละช่องทางมีความสอดคล้องกันคือสิ่งสำคัญ CDP ช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากอีเมล Facebook Instagram LINE เว็บไซต์ หรือแม้แต่ POS หน้าร้านไว้ในระบบเดียว

            การมีมุมมองแบบ 360 องศาต่อพฤติกรรมลูกค้า ทำให้สามารถส่งข้อความหรือข้อเสนอที่เกี่ยวข้องได้ถูกที่ ถูกเวลา และบนช่องทางที่ลูกค้าชอบ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนผ่านแอป ส่งอีเมล หรือส่งคูปองส่วนลดทางไลน์ เพิ่มโอกาสให้แบรนด์สื่อสารได้อย่างต่อเนื่องและไม่ขาดตอน

            3. CDP Platform เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ด้วยระบบอัตโนมัติ

            CDP ช่วยลดภาระของทีมงานผ่านฟีเจอร์การทำงานอัตโนมัติ เช่น การกำหนด Workflow ในการส่งข้อความอัตโนมัติ เมื่อมีลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์ หรือการตั้งเงื่อนไขเพื่อเรียกใช้แคมเปญเมื่อเกิดเหตุการณ์เฉพาะ เช่น มีการเพิ่มสินค้าในตะกร้าแต่ไม่ชำระเงิน

            การจัดการงานซ้ำ ๆ แบบอัตโนมัติช่วยลดความผิดพลาด และประหยัดเวลาของทีมการตลาด ทำให้สามารถนำทรัพยากรไปใช้กับการคิดเชิงกลยุทธ์ เช่น การออกแบบประสบการณ์ลูกค้าหรือพัฒนาคอนเทนต์ที่สร้างมูลค่าได้มากกว่า

            4. ข้อมูลคุณภาพสูงและแม่นยำ

            ข้อมูลที่ได้รับจาก CDP ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่ได้จากลูกค้าโดยตรง (First-party data) ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ประวัติการสั่งซื้อ หรือการตอบแบบสอบถาม ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและแม่นยำสูง

            เมื่อธุรกิจมีฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้ ก็สามารถใช้ในการวิเคราะห์เชิงลึก เช่น การคาดการณ์ยอดขาย การประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญ หรือการทำ A/B Testing เพื่อหาสิ่งที่เวิร์กจริงสำหรับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมั่นใจ ลดการตัดสินใจที่อิงแค่สัญชาตญาณ

            5. ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

            เมื่อเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งผ่านข้อมูลที่รวบรวมไว้ใน CDP ธุรกิจสามารถส่งมอบประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลได้ในทุกจุดสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นแนะนำสินค้าที่สอดคล้องกับความสนใจของลูกค้าในหน้าเว็บไซต์ การส่งอีเมลโปรโมชันที่เหมาะกับความต้องการ หรือแม้แต่ปรับหน้าตาแอปให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้งาน

            ลูกค้าจะรู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจและใส่ใจในความต้องการส่วนบุคคล ทำให้เกิดความประทับใจ ความไว้วางใจ และความภักดีในระยะยาว ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคที่การแข่งขันสูง

            CDP กับการสร้างทีมการตลาดยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

            นอกเหนือจากประโยชน์ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยีแล้ว CDP ยังช่วยเปลี่ยนวิธีคิดและการทำงานของทีมการตลาดในยุคปัจจุบัน โดยการเปิดโอกาสให้ทีมทำงานแบบ Cross-Functional ร่วมกับทีมอื่น ๆ เช่น ทีมขาย ทีมบริการลูกค้า หรือแม้แต่ทีมพัฒนาโปรดักต์ ด้วยข้อมูลชุดเดียวกันที่เป็นจริงและอัปเดตตลอดเวลา

            สิ่งนี้ช่วยลดความสับสนในการตีความข้อมูล สร้างความเข้าใจร่วม และยกระดับการทำงานแบบ Collaborative ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้ทั้งองค์กรสามารถตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และตรงจุดมากกว่าเดิม

            ทำไม CDP Platform ถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคดิจิทัล?

            ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การมีระบบบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างครอบคลุมช่วยให้ธุรกิจสามารถวางกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำและมั่นใจ CDP ยังช่วยให้ทุกทีมในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการตลาด ฝ่ายขาย หรือฝ่ายบริการลูกค้า สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างสอดคล้อง

            นอกจากนี้ ยังช่วยให้สามารถพัฒนาแคมเปญใหม่ได้รวดเร็ว ทดสอบแนวคิดใหม่ ๆ ได้บ่อยขึ้น และตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

            อีกหนึ่งประโยชน์ที่สำคัญคือการเก็บข้อมูลแบบต่อเนื่อง ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของลูกค้าในระยะยาว และสร้างโมเดลคาดการณ์พฤติกรรมในอนาคตได้แม่นยำ ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่ม Conversion, ลด Churn และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

            หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือเพื่อยกระดับกลยุทธ์การตลาด เพิ่มยอดขาย และเสริมความภักดีของลูกค้าในยุคดิจิทัล CDP คือคำตอบ

            ConnectX พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ของคุณในการวางระบบ CDP ที่เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด พร้อมบริการให้คำปรึกษาเพื่อให้คุณเติบโตได้อย่างมั่นคงในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

            ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

            *รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (MarTech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

              Yearly Budget

              How do you know us?

              ทำไม Personalize Marketing ถึงช่วยให้แบรนด์รู้ใจลูกค้ายุคใหม่?!

              personalize-marketing

              การแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และผู้บริโภคยุคนี้มีความคิดแบบใหม่ หากแบรนด์ของท่านไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์หรือความแตกต่างได้ อีกไม่นานธุรกิจของท่านอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง “Personalize Marketing” จึงมีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน

              Personalize Marketing คืออะไร?

              การตลาดเฉพาะบุคคล หรือ Personalized Marketing คือ การเสนอสินค้าและบริการ โปรโมชัน สิทธิพิเศษ และคอนเทนต์ ที่เจาะจงไปตามความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคล ถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือการทำให้ลูกค้าคนดังกล่าวรู้เหมือนได้เป็นคนพิเศษนั่นเอง

              แบรนด์จะรู้ใจลูกค้าได้อย่างไร?

              Personalized Marketing ไม่ใช่การเดาใจลูกค้าแต่อย่างใดนะครับ แต่เป็นการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ “Data” หรือข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า และนำมาทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล Cookies จากการท่องเว็บไซต์ แบบฟอร์มที่กรอก หรือการสมัครสมาชิก ข้อมูลที่มียกตัวอย่างเช่น ชื่อ ที่อยู่ ความสนใจ พฤติกรรมการบริโภค หรือประวัติการติดต่อกับแบรนด์ เป็นต้น

              ข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้นักการตลาดสามารถออกแบบแคมเปญใหม่ๆ ให้ตรงใจลูกค้ายุคปัจจุบันได้มากที่สุด

              มีอะไรที่ช่วยให้เก็บข้อมูลได้อีก?

              นอกจากการเก็บข้อมูลในแบบข้างต้นแล้ว ในยุคใหม่นี้ก็ได้มีการประยุกต์ใช้ AI หรือ Machine Learning เข้ามาช่วยเก็บและประมวลผลข้อมูล รวมไปถึงแพลตฟอร์ม CDP (อย่าง Connect X) และระบบ CRM ที่เข้ามาช่วยให้การทำ Personalized Marketing มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอีกด้วย

              ทำไมต้องทำการตลาดแบบ Personalize Marketing?

              การตลาดรูปแบบเดิมๆ เช่น การติดโฆษณาบนป้ายบิลบอร์ด (Billboard) การโทรไปขายตรง หรือโฆษณาแบบแมส (Mass Marketing)  มีผลวิจัยได้แสดงให้เห็นมากกว่า 60% ของผู้บริโภครู้สึกเบื่อหน่ายในวิธีการตลาดเหล่านี้ ที่นำเสนอข้อความโฆษณาแบบซ้ำๆ และกว้างๆ เนื่องจากสิ่งที่ลูกค้าในปัจจุบันต้องการ คือ การให้แบรนด์ใส่ใจต่อลูกค้าแต่ละคนมากกว่า

              อีกทั้งจากผลการสำรวจของ Epsilon ที่สอบถามผู้บริโภค 1,000 คน อายุระหว่าง 18-64 ปี พบว่ากว่า 80% มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าและบริการกับแบรนด์ที่สามารถมอบประสบการณ์แบบส่วนตัวได้

              ประโยชน์ของการทำ Personalize Marketing

              กลยุทธ์การทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล จะสามารถสร้างผลดีให้กับแบรนด์ในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้นำมาใช้นั้น เป็นแบบ Real-Time อยู่เสมอ ทำให้นักการตลาดสามารถสื่อคอนเทนต์ต่างๆ ที่ตรงใจ เสนอสินค้า และบริการให้ผู้บริโภคได้แบบคนรู้ใจ รวมถึงมอบสิทธิพิเศษได้อย่างเหมาะสม ซึ่งประโยชน์ที่แบรนด์จะได้จาก Personalized Marketing มีดังนี้

              • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ด้วยคอนเทนต์ที่ตรงใจและขายสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ ลดโอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจไปใช้สินค้าและบริการจากคู่แข่ง
              • สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบัน ให้กลายเป็นลูกค้าภักดี (Loyal Customer) และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้ในระยะยาว
              • สร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น เมื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้ตรงกับที่ต้องการ
              • ใช้ Data คาดการณ์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ในอนาคต
              • มอบประสบการณ์ดีๆ ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

              ทำ Personalize Marketing บน Connect X

              อย่างที่ทราบกันดี Connect X เป็น CDP (Customer Data Platform) ที่มาพร้อมกับระบบ Marketing Automation ที่จะช่วยให้แบรนด์ของท่านสามารถทำ Personalized Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำการตลาดออนไลน์ได้หลายช่องทาง เช่น Email Personalized Marketing, SMS Personalization, หรือผ่านโซเชียลมีเดียก็ทำได้ สามารถแนบชื่อลูกค้า เพิ่มความเอาใจใส่ได้อีกขั้น

              Connect X สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ตั้งแต่ Unknown Data จนเป็น Known จะเป็นลูกค้าหน้าใหม่ก็รู้ใจได้ไม่ยาก หากส่งโปรโมชันไปแล้วลูกค้าไม่สนใจ ก็สามารถตั้งค่าให้ส่งผ่านช่องทางอื่นได้ทันที ผ่านช่องที่หลากหลาย เช่น Line Message, Facebook Message, Email ,SMS เป็นต้น ช่วยให้แบรนด์รู้ถึงข้อมูล Insight เบื้องลึกของลูกค้า สามารถเก็บข้อมูลได้แบบรอบด้าน

              อย่ารอช้าและมา….

              สร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

              Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

              ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

              *รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (MarTech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

                Yearly Budget

                How do you know us?

                Personalized Marketing (2025) ต้องรู้ใจผู้บริโภคอย่างแท้จริงถึงจะชนะใจผู้บริโภคได้

                personalized marketing

                ในยุคที่ข้อมูลคือพลัง แบรนด์ที่สามารถมอบประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าได้มากที่สุด ย่อมได้เปรียบทางการแข่งขันทางการตลาด วันนี้ทาง ConnectX จะพาทุกคนไปเจาะลึก Personalized Marketing พร้อมอัปเดตเทรนด์ที่น่าจับตามองในปี 2025 และเหตุผลว่าทำไมการตลาดแบบรู้ใจถึง “ชนะใจลูกค้า” ได้อย่างแท้จริง

                Personalize Marketing คืออะไร?

                Personalized Marketing หรือ การตลาดแบบเฉพาะบุคคล คือกลยุทธ์ที่แบรนด์สร้างประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงตามพฤติกรรม ความสนใจ และข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เป้าหมายคือการเพิ่มโอกาสในการสร้าง Engagement และ Conversion ด้วยการสื่อสารที่ “ตรงใจ” ลูกค้าในทุก Touchpoint

                จากเดิมที่เราเคยใช้การตลาดแบบ Mass Marketing ที่สื่อสารแบบเดียวกันกับผู้บริโภคทุกคน กลับกลายเป็นว่าในยุคนี้ วิธีการแบบเดิมอาจไม่ได้ผลอีกต่อไปเมื่อเทียบกับ ROI ที่ได้จาก Personalized Campaigns ที่ส่งถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำกว่า

                ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้ Personalize Marketing สำเร็จ

                • Netflix แนะนำคอนเทนต์ที่ตรงความสนใจจากประวัติการชม

                • Spotify สร้าง Playlist แบบเฉพาะบุคคล เช่น “Discover Weekly”

                • TikTok ใช้อัลกอริทึมที่เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้แบบ Real-time

                ทั้งสามแบรนด์นี้แสดงให้เห็นว่า “การเข้าใจลูกค้า” คือหัวใจหลักของ Personalized Marketing ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

                [/col]

                https://segment.com/

                การตลาดแบบ Personalization คือหนึ่งในเทรนด์การตลาดดิจิทัลที่จะเข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในปี 2023 ต่อธุรกิจต่างๆ ขอยกตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้ การตลาดแบบ Personalization และประสบความสำเร็จจนได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้หรือผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น Tiktok, Netflix และ Spotify ทั้งสามแอพลิเคชั่นนี้ถือว่าได้ทำ Personalized Marketingจนประสบความสำเร็จอย่างมากจนได้รับความชื่นชนจากผู้ใช้งาน User ต่างๆทั่วโลกว่ามีอัลกอริทึมที่รู้ใจผู้ใช้งานสามารถแนะนำเพลง หนัง หรือวีดีโอแบบรู้ใจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่เบื่อเลยสักนิดเวลาใช้งานตัวแอพลิเคชั่นเหล่านี้

                ปัจจุบันลูกค้าหรือผู้บริโภคคาดหวังให้แบรนด์จะต้องรู้ใจ มากไปกว่านั้นผู้บริโภคเกิน 80% ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัทที่ให้ประสบการณ์แบบที่รู้ใจดังเช่นที่ได้ยกตัวอย่างไปด้านบนว่ามีแอพลิเคชั่นอะไรบ้าง ด้วยการเข้าถึงข้อมูลที่มากขึ้นและมีระบบ Marketing automation ที่ดีนักการตลาดจึงสามารถสร้างการสื่อสารส่วนบุคคล (Personalize Marketing) และข้อเสนอที่เกี่ยวข้องและมีประสิทธิภาพ นักการตลาดยังสามารถติดตาม Customer journey ผ่านช่องทาง touchpoint ต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เป็นแบบ Ominichannel และมากไปกว่านั้นมีรายงานระบุว่าซอฟแวร์ต่างๆที่ทำเกี่ยวกับ Personalize Marketingคาดว่าน่าจะมีการเติบโตเป็น 2.2 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2569

                ในปัจจุบันเราไม่สามารถปฏิเสธเลยได้ว่าเราใช้ AI เข้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและผู้บริโภคที่เข้ามาเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกหรือที่เราเรียกกันว่า Insight

                Insight เหล่านี้ AI สามารถดูแลจัดการประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับลูกค้าผ่านจุด Touchpoints ต่างๆ ผสานเข้าด้วยเทคโนโลยีแบบ ominichannel ในปัจจุบัน จนเกิดเป็นการตลาดแบบ Personalization ในที่สุด

                ผู้เชี่ยวชาญได้บอกไว้อีกว่าตลาดของ AI ที่จะใช้ในการทำ Personalized marketingนั้นมีมูลค่ามากถึง 4.45 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 จะเติบโตที่ CAGR 15.4% จนถึงปี 2571

                 

                เทรนด์ Personalize Marketing ปี 2025 ที่นักการตลาดต้องรู้

                1. AI และ Machine Learning เข้ามาช่วยในทุกกระบวนการ

                  • วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า

                  • สร้างแคมเปญอัตโนมัติ

                  • ส่งข้อความหรือโฆษณาที่ตรงเวลา (Real-time Personalization)

                2. First-party Data คือสมบัติที่มีค่ามากที่สุด

                  • การเก็บและใช้งานข้อมูลลูกค้าด้วยความยินยอม

                  • เสริมความแม่นยำในการสื่อสารแบบ Personalize

                3. Omnichannel Experience

                  • ลูกค้าไม่สนใจว่าตัวเองอยู่ช่องทางไหน แค่ต้องการประสบการณ์ที่ “ต่อเนื่องและรู้ใจ” ตั้งแต่ Online ถึง Offline

                4. Marketing Automation + CDP (Customer Data Platform)

                  • ใช้เทคโนโลยีในการรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง

                  • ประมวลผลข้อมูลเพื่อสร้างแคมเปญเฉพาะบุคคลอย่างแม่นยำ

                สถิติที่ยืนยันว่า Personalize Marketing คืออนาคต

                • 80% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ “รู้ใจ”

                • ตลาดซอฟต์แวร์ด้าน Personalize Marketing คาดว่าจะเติบโตถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2026

                • มูลค่าตลาด AI ที่ใช้ใน Personalize Marketing คาดว่าจะเติบโตที่อัตรา 15.4% CAGR จนถึงปี 2028

                (อ้างอิง: McKinsey, Segment)

                สรุป

                เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าในปัจจุบันนั้น การทำการตลาดแบบ Personalize marketing นั้นมีประสิทธิภาพและได้ผลมากกว่าแบบเก่าที่เราเรียกกันว่าการตลาดแบบกลุ่มใหญ่หรือ Mass ที่เน้นส่งไปหากลุ่มคนที่มากๆแม้คนกลุ่มนั้นจะไม่ใช่เป้าหมายของเราก็ตามเพื่อให้เกิด Awareness แต่สุดท้ายกลุ่มเหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะ Convert ทำให้เกิดการซื้อหรือใช้ได้

                ดังนั้นถ้าผู้อ่านคนไหนยังไม่มีตัวเก็บข้อมูลที่เป็น First party data เป็นของตัวเองสามารถติดต่อสอบถามกับทาง ConnectX ได้เลยนะคะ

                ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

                *รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Tranformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (Mar tech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

                  Yearly Budget

                  How do you know us?

                  [/row]

                   

                  6 กลยุทธ์ใช้ Marketing Automation Platform ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ

                  Marketing-Automation-Platform

                  Connect X จะมาแนะนำ 6 กลยุทธ์ Marketing Automation Platform ที่ธุรกิจควรเลือกใช้ เพราะจะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย

                  ทุกวันนี้ หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Marketing Automation  กันมากขึ้น เพราะเป็นรูปแบบการตลาดที่มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยผลสำรวจพบว่าเกินกว่าครึ่งของธุรกิจแบบ B2B (ประมาณ 53% ของธุรกิจทั้งหมด) ได้มีการใช้ B2B Marketing Automation แล้วในตอนนี้ และอีกกว่า 37% เริ่มวางแผนใช้เครื่องมือดังกล่าวเข้ามาเป็นตัวช่วยให้กับธุรกิจในอนาคตอันใกล้นี้ แต่การตลาดแบบอัตโนมัตินี้ก็มีกลยุทธ์ในรูปแบบต่างๆ ซ่อนอยู่มากมาย แล้วเราจะเลือกใช้กลยุทธ์อะไรบ้างในธุรกิจของเราเพื่อให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด

                  วันนี้ Connect X จะพาทุกท่านมารู้จักกับ 6 กลยุทธ์ของการตลาดแบบอัตโนมัติที่เวิร์กสุดๆ ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน เพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและก้าวสู่การเป็นผู้นำทางการตลาดได้อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก “Marketing Automation” กันก่อนว่าคืออะไร และเหมาะกับธุรกิจประเภทใดบ้าง

                  Marketing Automation Platform คืออะไร และเหมาะกับใคร

                  Marketing Automation Platforms หรือการตลาดแบบอัตโนมัติ คือเครื่องมือทางการตลาดที่เข้ามาช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจลูกค้าได้ตรงจุด สามารถพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการได้มากที่สุด อีกทั้งช่วยให้ลำดับความสำคัญและดำเนินงานด้านการตลาดได้อย่างคล่องตัว เพื่อเพิ่มยอดขายและปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าในด้านต่างๆ แล้วตอบโต้กลับได้แบบเรียลไทม์ พร้อมนำไปวิเคราะห์ เพื่อพัฒนากิจกรรมทางการตลาด ตลอดจนสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

                  การตลาดแบบอัตโนมัติสามารถนำไปใช้กับธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าทุกประเภทและการให้บริการด้านต่างๆ เช่น การบิน, การโรงแรม, การขนส่ง เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมทั้งธุรกิจแบบ B2C (Business-to-Customer) ธุรกิจแบบ B2B (Business-to-Business) และธุรกิจ B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบไหน ประเภทอะไรก็สามารถนำ Marketing Automation มาปรับใช้ได้อย่างลงตัว ซึ่งข้อมูลจาก Nucleus Research พบว่าการตลาดแบบดังกล่าวช่วยเพิ่มยอดขายได้ถึง 14.5% พร้อมยังลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตลาดได้ 12.2% เห็นได้ว่า Marketing Automation ช่วยให้ประหยัดเวลาและแรงงาน แต่กลับได้ประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว จึงเป็นกุญแจไปสู่ความสำเร็จที่ธุรกิจทั่วโลกเลือกใช้

                  [/col]

                  6 กลยุทธ์ Marketing Automation Platform ที่ธุรกิจควรเลือกใช้งาน

                  เนื่องจากการใช้งาน Marketing Automation มีความซับซ้อน การเลือกกลยุทธ์ทางการตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation Strategy) ที่เหมาะสมจะทำให้ธุรกิจของคุณไม่เสียค่าใช้จ่ายไปอย่างสูญเปล่า พร้อมกับเห็นผลลัพธ์จากการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดย Connect X ขอแนะนำ 5 กลยุทธ์ให้รู้จัก ได้แก่

                  • Lead Scoring คือการให้คะแนนลูกค้า เพื่อจัดอันดับให้ Lead หรือผู้เข้าชมเว็บไซต์ มีประโยชน์ในการวิเคราะห์ศักยภาพของผู้เข้าชม ว่าสามารถพัฒนาเป็น “ลูกค้า” ต่อไปได้หรือไม่ และต้องสร้างบทสนทนาแบบไหน เพิ่มแคมเปญการตลาดแบบใด เพื่อปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว โดยจะวัดคะแนนจากกิจกรรมที่เกิด Engagement ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการคลิกลิงก์ การสมัครสมาชิก และการสอบถามข้อมูล เป็นต้น
                  • Automated Email Sequences คือระบบการส่งอีเมลแบบอัตโนมัติไปถึงคนที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะสม หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Personalized Marketing) เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเป็นรายบุคคล ด้วยอีเมลที่มีการแนะนำได้ตรงความต้องการ หรือการเสนอโปรโมชันและแคมเปญ เช่น โปรโมชันสำหรับวันเกิดหรือแคมเปญตามเทศกาลสำคัญ เป็นต้น
                  • Chatbots คือการตอบข้อความในช่องทางแชทต่างๆ โดยอัตโนมัติด้วยระบบ AI เพื่อให้คำแนะนำกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจตลอด 24 ชม. ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า นำไปสู่การปิดการขายได้ว่องไวและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถส่งแคมเปญทางการตลาดต่างๆ ด้วยข้อความอัตโนมัติไปสู่ผู้ที่เคยพูดคุยกับธุรกิจหรือร้านค้ามาก่อนได้อีกด้วย
                  • Self-Nurturing Content คือการใช้ระบบอัตโนมัติในการจัดการข้อมูลและเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม (Lead) เข้าถึงข้อมูลที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น ในลักษณะแบบ Personalize เช่น มีผู้คนมาอ่านบทความภายในเว็บ เมื่ออ่านจบแล้วมีการแนะนำบทความถัดไป หรือมีการเชื่อมโยงให้ไปถึงข้อมูลที่ตรงกับความต้องการได้มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความประทับใจต่อธุรกิจของคุณได้มากยิ่งขึ้น
                  • Omni-Channel คือการรวมช่องทางที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาไว้ในที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน บนเว็บไซต์ หรือบนโซเชียลก็ตาม ทั้งหมดสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มเดียว อาทิ แพลตฟอร์ม CRM หรือ CDP ซึ่งเมื่อนำมาผสมผสานกับ Marketing Automation ด้วยแล้ว ธุรกิจจะสามารถสื่อสาร ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ แนะนำโปรโมชัน หรือทำกิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ ในช่องทางที่ลูกค้าต้องการหรือช่องทางที่ลูกค้าใช่งานเป็นหลักได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าหาลูกค้า และมีโอกาสปิดการขายมากกว่าเดิม
                  • Trigger Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่นำไปสู่การขายด้วยการกระตุ้นให้เกิดการซื้อ โดยการใช้ระบบอัตโนมัติในการวิเคราะห์และสร้างการโต้ตอบกับผู้เข้าชม (Lead) ที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นลูกค้าได้ ในลักษณะของการแจ้งเตือนผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การส่งข้อความมาเตือนว่ามีการเลือกสินค้าไว้ในรถเข็น การแนะนำโปรโมชันสินค้าที่ใกล้เคียงกับที่เคยซื้อหรือมีความสนใจ รวมทั้งการแจ้งเตือนตามช่วงเวลาที่มีเทศกาลต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าชม (Lead) และลูกค้าเก่ากลับมาใช้บริการเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าได้อีกด้วย

                  จากที่ได้แนะนำ 6 กลยุทธ์ทางการตลาดแบบอัตโนมัติที่ธุรกิจควรเลือกใช้งานไปแล้วนั้น จะเห็นได้ว่าเป็นสิ่งที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้อย่างเห็นผล ตั้งแต่การเพิ่มยอดขาย การเปลี่ยนผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Lead) มาสู่การเป็นลูกค้า การเพิ่มโอกาสในการซื้อ และการสร้างความประทับใจต่อธุรกิจได้ไม่เหมือนใครนั้น จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและก้าวสู่การเป็นผู้นำทางการตลาดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการเลือกใช้ Digital Platform ที่มีประสิทธิภาพอย่าง Connect X ที่มาพร้อมกับ CDP และ Marketing Automation จะช่วยให้สามารถจัดการธุรกิจได้เป็นระบบ สามารถวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อให้คุณสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

                  ลงทะเบียนรับคำปรึกษาฟรี !

                  *รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation พร้อมแนะนำ Marketing Technology (MarTech) และ CDP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะ

                    Yearly Budget

                    How do you know us?

                    Marketing Automation คืออะไร? พร้อมเทคนิคช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง

                    what is marketing automation

                    “การตลาด” ถือเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างมากสำหรับทุกธุรกิจ ยิ่งในยุคที่กระแสเกี่ยวกับ Digital Disruption กำลังมาแรง การปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลงจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในยุคนี้ คือการเลือกเครื่องมือการตลาดให้เหมาะสม วันนี้ Connect X จึงอยากแนะนำ Marketing Automation คือ เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติสำหรับผู้ประกอบการที่อยากสร้างธุรกิจให้ทันโลก เพื่อพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุดโดยไม่มีวันหยุดทำงาน

                    รู้จักลูกค้าในยุค 2023

                    ก่อนจะเริ่มเรื่อง Marketing Automation ผู้ประกอบการยุคใหม่ควรทราบก่อนว่าทำไมถึงควรใช้ Marketing Automation กับธุรกิจของตัวเอง และทำไม Marketing Automation ถึงสำคัญ ซึ่งตามผลสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) พบว่าปัจจุบันคนไทยใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์นานประมาณ 11 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อเทียบกับผลสำรวจครั้งแรกในปี พ.ศ. 2556 พบว่าภายในระยะเวลา 8 ปี คนไทยใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 7 ชั่วโมงต่อวันในปีพ.ศ. 2564

                    สำหรับผู้ประกอบการแล้ว ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การทำทุกอย่างบนโลกออนไลน์ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลอดภัยจากโรคระบาดได้อีกด้วย

                    ปัจจุบันกระแส Digital Disruption ได้ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เมื่อมีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สะดวกกว่าเข้ามาแทนที่ ผู้บริโภคย่อมเลือกใช้สิ่งนั้นมากกว่า หากธุรกิจไหนปรับตัวตามไม่ทัน ก็อาจจะโดนกลืนหายไปในกระแสความเปลี่ยนแปลงได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ประกอบการยุคใหม่ควรปรับปรุงธุรกิจให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยรับมือกับลูกค้าในยุค 2023 ได้คือ Marketing Automation เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

                    Marketing Automation ช่วยธุรกิจได้อย่างไร?

                    หลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management กันมาบ้าง โดย Marketing Automation เป็นเครื่องมือการตลาดที่คล้ายคลึงกับระบบ CRM แต่ความพิเศษของ Marketing Automation คือความสามารถในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าแล้วตอบโต้กลับได้แบบเรียลไทม์ โดยเนื้อหาที่ส่งไปยังลูกค้าจะเป็นสิ่งที่ลูกค้ากำลังสนใจเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อ เช่น ข้อมูลโปรโมชัน คอนเทนต์ หรือแคมเปญต่างๆ โดยจะส่งผ่านทาง E-mail อัตโนมัติหรือช่องทางอื่นๆ อย่าง SMS เป็นต้น

                    การทำการตลาดแบบนี้มีประโยชน์ต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะยิ่งธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้เร็วและตรงจุดเท่าไร ก็จะเพิ่มโอกาสทางการขายมากขึ้นเท่านั้น  ข้อมูลจากเว็บไซต์ Findstack พบว่า 63% ของผู้ประกอบการที่ใช้งาน Marketing Automation ทำยอดขายได้ดีกว่าคู่แข่ง ดังนั้นหากอยากเอาชนะคู่แข่งและสร้างจุดยืนให้ธุรกิจอย่างมั่นคง การใช้ Marketing Automation คือคำตอบของธุรกิจคุณ

                    E-commerce web design concept with people characters. Customers shopping online scene. E-commerce distribution composition in flat style. Vector illustration for social media promotional materials.

                    ธุรกิจแบบไหนควรทำ Marketing Automation มากที่สุด?

                    เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าธุรกิจของตัวเองควรทำ Marketing Automation ไหม? ความจริงแล้วทุกธุรกิจสามารถทำ Marketing Automation ได้ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่ควรทำมากที่สุดคือธุรกิจแบบ B2C (Business-to-Customer) ที่มีเป้าหมายเป็นผู้บริโภคทั่วไป หรือที่รู้จักกันในรูปแบบของธุรกิจ E-Commerce รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการอย่างร้านอาหาร, โรงแรม และสายการบินด้วย

                    เหตุผลที่ธุรกิจแบบ B2C ควรทำ Marketing Automation เพราะว่าธุรกิจประเภทนี้จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าเพื่อสร้างแบรนด์ Royalty ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ หากไม่มีระบบตอบรับอัตโนมัติคอยตอบสนอง ก็อาจจะพลาดโอกาสสำคัญ ดังนั้นธุรกิจแบบ B2C จึงควรมีระบบ Marketing Automation ไว้คอยสังเกตพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าและทำการตลาดในช่วงเวลาที่เหมาะสม

                    สร้างธุรกิจที่ไม่มีวันหลับด้วย Marketing Automation อย่างมีประสิทธิภาพต้องทำยังไง?

                    ผู้ประกอบการสามารถเริ่มทำ Marketing Automation ได้ด้วยตัวเองก็จริง แต่ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่เพราะการทำ Marketing Automation ค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้ความเข้าใจสูง นอกจากนี้หากผู้ประกอบการไม่มีการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าอย่างเป็นระบบ ก็จะไม่สามารถใช้งาน Marketing Automation ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ผสานกระบวนการเก็บข้อมูลเข้ากับ Marketing Automation ได้อย่างลงตัวเท่านั้น ถึงจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด

                    ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม Connect X ที่มีระบบ CDP (Customer Data Platform) คอยเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้า อีกทั้งยังมีระบบ AI คอยช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มขึ้นอีกแรง จึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้ Marketing Automation ได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน

                    จากข้อมูลทั้งหมดนี้ทุกคนคงเห็นแล้วว่า Marketing Automation มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจในเวลานี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจประเภท B2C ที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้นการเริ่มทำ Marketing Automation นับตั้งแต่ตอนนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวนำหน้าคู่แข่งไปมากกว่าหนึ่งก้าว และสร้างธุรกิจที่ไม่มีวันหลับใหลให้เกิดขึ้นได้จริง

                    สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหาระบบ CRM ดีๆ สักอัน หรือต้องการคำปรึกษาก่อนตัดสินใจ Connect X ก็พร้อมจะช่วย ด้วยแพลตฟอร์ม CDP ที่มาพร้อมกับระบบ CRM, Marketing Automation และรองรับกฎหมาย PDPA เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

                    เริ่มต้นสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้แล้ววันนี้ด้วย Connect X Marketing Platform ที่มาพร้อม CDP & Marketing Automation

                    Connect X คือ Platform ที่จะเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจถูก Digital Disruption ถึงเวลาแล้วที่ทุกธุรกิจจะต้องเริ่ม Connect กับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) แบบไร้รอยต่อด้วย Marketing Platform ที่ไม่เพียงแต่มี Feature เด็ดๆ แต่ยังสามารถปรับแต่ง Platform Customize ให้เข้ากับแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันได้ด้วย

                      Yearly Budget

                      How do you know us?